หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

เพลิงสวาททาสรักอสูร ตอนที่ 20 ทำไมฉันต้องพ่ายแพ้


Photo Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at Photobucket
ตอนที่ 20
ทำไมฉันต้องพ่ายแพ้
สองมือใหญ่สอดดันเต้าอวบอิ่มจนมันชูสล้างไหวตรงหน้า ปลายนิ้วยาวใหญ่คลึงเคล้นไล้วนปลายยอดทับทิมที่มันนูนเด่นดุนดันบราลูกไม้สีหวานบางเบาจนแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้ ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวทาบทับขบกัดปลายยอดถันนุ่มนิ่มจากทรวงหนึ่งไปอีกทรวงหนึ่ง ปลายลิ้นสากระคายตวัดไล้วนเวียนจนปลายยอดทรวงแข็งนูนเป็นไต อ้างับกัดกลืนกินทับทิมผลนุ่มอย่างชุ่มฉ่ำใจ
อ๊ะ... นันทิยาขบกัดริมฝีปากไม่ยอมให้น้ำเสียงแหบพร่าหวานเชื่อมหลุดรอดออกไปจากปากให้ภามนำกลับมาใช้เป็นเครื่องมือเยาะหยันดูถูกเธออีกในภายหลัง แต่ยิ่งเธอพยายามแข็งขืนเท่าไหร่ภามก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งฟอนเฟ้นเคล้นคลึงเต้าอวบอิ่มอย่างหนักหน่วงและย่ามใจ
ในขณะที่ปากหนาก็กัดกลืนกินทรวงอวบอิ่มอีกข้างจนปลายยอดถันตั้งชันหายไปในอุ้งปากหนาร้อนผ่าวเหมือนกับเปลวเพลิงและอีกมือวาดไล้ลงไปตามหน้าท้องแบนราบเรียบ สีข้างเนียนนุ่ม ขยำนวดบั้นท้ายกลมกลึงอย่างรุนแรง เคลื่อนลงไปตามปลีขาเนียนนุ่มถึงปลีน่องกลมกลึงวกกลับขึ้นมาปลายนิ้วลากไล้กดคลึงข้อพับ เคลื่อนกลับมาบีบนวดต้นขาด้านใน
ยิ่งภามเข้าใกล้ส่วนลี้ลับมากเท่าไหร่...นันทิยาก็ยิ่งสั่นสะท้านเหมือนกับคนเป็นไข้ จะขยับหนีก็ทำไม่ได้เพราะถูกกายใหญ่ตรึงไว้จนแทบจะจมหายไปในพื้นเตียงนุ่ม เรือนกายตกอยู่ภายใต้การครอบครองของภามอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เพลิงพิศวาสเผาพลาญจนทนอยู่เฉยไม่ได้
พี่ภาม...ไม่นะ... แต่ถึงจะอย่างนั้นนันทิยายังพยายามเปล่งคำพูดแหบพร่าห้ามปราม แต่กลับส่ายสะโพกยั่วยวนให้ภามเร่งรีบจัดการกับแม่กุหลาบร้อนรักเร็วๆ สองแขนเรียวยาวยกขึ้นโอบรอบกายใหญ่ วาดฝ่ามือเล็กนุ่มนิ่มไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งพร้อมกับเกี่ยวเอาเสื้อที่มันเกะกะการจับต้องหลุดจากกายใหญ่โยนทิ้งไปเพราะความรำคาญ
ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งจนแผ่นหลังแทบไม่ติดพื้นเตียง สองมือเล็กกดรั้งศีรษะทุยให้แบนชิดทรวงอวบอิ่ม สะโพกงามงอนส่ายพลิ้วไหวตามติดสลับหลีกหนีปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวที่มันสอดแทรกผ่านชั้นในผ้าลูกไม้บางเบาไปคลึงเคล้นปมเสน่หาสอดแทรกไปแหวกว่ายในโถอุ่นนุ่ม
 เพราะทรวงอกอวบอิ่มยังมีชั้นในไร้สายปกปิดอยู่ให้กัดกินผลไม้นุ่มนิ่มได้ไม่ถนัดถนี่ ตอนแรกภามก็คิดว่าจะสอดมือไปปลดรั้งตะขอออกแต่เห็นว่ามันเสียเวลาเกินไปไม่ทันใจจึงใช้วิธีเดิม ดึงมันออกเต็มแรงและเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่ใยดีก่อนซบซุกใบหน้าคร้ามแกร่งซบซุกระหว่างสองเต้า
ไทนี่...ยัยตัวแสบ เธอนี่มันหวานจริงๆ ยาหยี ภามพูดทั้งที่ยังกัดกลืนกลืนกินปทุมถันอวบอิ่มจนผลิบานเต็มปาก แต่เพราะคิดถึงดอกไม้กลีบบางที่หวานนุ่มลิ้นไม่แพ้กัน จึงเลือกที่จะละวางสองผลไม้เต่งตึงไว้ก่อน ทาบทับริมฝีปากขบกัดลงไปตามลำตัวกลมกลึงจนแดงเป็นจ้ำ ปลายลิ้นตวัดไล้สอดแทรกหยอกล้อกับช่องเล็กๆ บนหน้าท้องแบนราบเรียบ ยิ่งเคลื่อนไหวลงไปใกล้ถึงส่วนอ่อนไหวนุ่มร้อนที่เคยทำให้เขามีความสุขจนแทบจะสำลักมาแล้ว ภามก็ยิ่งหายใจหอบแรงด้วยความปวดร้าวด้วยแก่นกายแข็งแกร่งที่มันขยายใหญ่จนถึงกับปวดร้าว
ปลายนิ้วยาวใหญ่ยอมเคลื่อนออกจากกลีบกายอ่อนนุ่มพร้อมเกี่ยวดึงเอากางเกงชั้นในอย่างแรงจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีตามติดไปด้วย ภามจับแยกขาเรียวยาวออกกว้างให้กายใหญ่ได้พำนักและชมเชยกุหลาบดอกนุ่มอย่างถนัดถนี่ ก่อนจะละมือไปปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกายปลดปรึงแก่นกายร้อนระอุขยายใหญ่ให้เป็นอิสระและส่งยื่นมันไปให้นันทิยาแล้วเขารู้ดีว่าหญิงสาวจะไม่ยอมทำตามความต้องการง่ายๆ มือใหญ่วางทับบนมือเล็กพามันลากไล้ไปตามเรือนกายแข็งแกร่งก่อนจะมาหยุดตรงท่อนลำรักระอุร้อนให้ความนุ่มนิ่มโอบรัดคลึงเคล้นมอบความสุขให้เขาด้วย
นันทิยาสะดุ้งรีบดึงมือหนีแต่สุดท้ายเพลิงอารมณ์ร้อนแรงที่มันโอบรอบก็ทำให้เธอยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ภามเสนอให้มา สองมือเล็กนุ่มนิ่มเคลื่อนไหวบนกายใหญ่อย่างอิสรเสรี คลึงเคล้นโอบอุ้มแท่งเนื้อระอุร้อนทั้งแข็งแกร่งและนุ่มนิ่ม
อ๊า...ไทนี่ ยัยแม่มด ภามถึงกับสูดปากเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงกระเส่า สะบัดสะโพกสอบตามติดความนุ่มนิ่ม ฉกใบหน้าลงซบซุกบนเนินเนื้อหอมกรุ่ม ปลายนิ้วร้อนผ่าวแยกกลีบดอกไม้บอบบาง ปาดปลายลิ้นสากระคายไปบนมุกมณีเม็ดสวยแดงสด
อ๊ะ...พี่ภาม... ไฟร้อนผ่าวจากทั่วทุกสารทิศไหลมารวมกันอยู่ที่จุดเดียวก่อนจะแผ่กระจายไปทั่วกายา หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมไหว สะโพกงามงอนส่ายร่อนสะบัดพลิ้วไปตามความร้อนที่ทาบทับเคลื่อนไหวแผ่วพลิ้วบางเบาเหมือนกับสายลมที่มันผัดผ่านยอดไม้ใบหญ้า แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็กลับกายเป็นความร้อนแรงเหมือนเปลวเพลิงที่มันแผดเผา สองมือเล็กโอบอุ้มคลึงเคล้นแก่นกายร้อนเหมือนแท่งเหล็กกล้าอย่างไม่ยอมแพ้
โอ้...ไทนี่ เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ ภามถึงกับสูดปากซีดซาดๆ ด้วยความวาบหวิวรัญจวนใจจากเพลิงไฟร้อนผ่าวฝีของนันทิยาที่จัดการกับแก่นกายของเขาเสียจนหอยู่หมัด อัดลมหายใจเข้าเต็มปอดจนกล้ามเนื้อบริเวณท้องไหวกระเพื่อม ริมฝีปากหนาร้อนดูดเม้มมุกมณีอันอ่อนไหวสลับปลายลิ้นปาดคลึงไล้วนรัวเร็วถี่ยิบ ในสมองหมุนติ๋วๆ กับผนังเนื้ออันอ่อนนุ่มที่ตอดรัดทุกการขยับเข้าออกของนิ้วยาวร้อนและลิ้นสากระคาย
สองมือใหญ่สอดแทรกตรึงลำขากลมกลึงพร้อมจับล็อกสะโพกงามงอนในคราวเดียวกันก่อนที่ทั้งริมฝีปากหนาร้อนจะจัดการกับปุบผาดอกน้อย สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายไปในโถน้ำผึ้งอุ่นนุ่ม ซอกซอนกวาดไล้ไปตามผนังถ้ำอันอุ่นนุ่ม
มือใหญ่บีบเคล้นบั้นท้ายงามงอนตามจังหวะการสอดดันลึกล้ำสลับดูดกลืนมุกมณีอันอ่อนไหวรัวเร็วถี่ยิบ เพียงไม่นานน้ำหวานดอกไม้หอมๆ ก็เอ่อไหลล้นให้เขาได้ตวัดไล้กิน ภามหูอื้อตาลายด้วยความหลงใหล เหมือนคนที่หลงอยู่ท่ามกลางท้องทะเลทรายที่มีแต่ความร้อนและแห้งแล้งแล้วได้พบกับโอเอซิสที่มีน้ำผึ้งหอมหวนรัญจวนใจให้ดื่มกินได้ไม่มีวันหมด ฉกลิ้นสากระคายซอกซอนโถน้ำผึ้งอุ่นร้อนแทรกลึกจุ้มจ้วงอย่างเป็นจังหวะกินเนื้อในหวานฉ่ำทุกหยาดหยด
อ๊ะ...พี่ภาม นันทิยากได้แต่ร้องเรียกภามเสียงแหบพร่านุ่มพลิ้ว กายโปร่งบางสั่นสะท้านไหวเหมือนกิ่งไผ่ไหวลู่ไปตามกระแสพายุอารมณ์อันร้ายกาจและร้อนแรง ในสมองเริ่มที่จะขาวโพลน ร่างทั้งร่างเบาหวิวลอยละล่องไปกับสายลม
บอกฉันซิไทนี่ อย่างได้อะไรยาหยี เพราะตัวเขาเองกำลังจะทนไม่ไหวและรู้ด้วยว่านันทิยาเองก็เช่นกันแต่ก็รู้ดีว่านันทิยานะเป็นประเภทที่ว่าดื้อเป็นที่สุด การที่จะทำให้หญิงสาวยินยอมมันจึงต้องมีทั้งคำพูดและการกระทำ ริมฝีปากหนาร้อนระอุทาบดับดูดเม้มมุกมณีอ่อนไหวสลับสอดแทรกปลายลิ้นและนิ้วยาวร้อนไปในช่องลี้ลับแหวกว่ายในโถน้อยๆ เหมือนกับปลาซอกซอนเสาะหาอาหาร
บอกซิไทนี่ ต้องการอะไรยาหยี ภามถามซ้ำเปลี่ยนการแตะต้องกุหลาบที่มีหนามแหลมคอยปกป้องให้นิ้วยาวใหญ่ทำหน้าที่ปลุกเร้าความต้องการแทน ริมฝีปากหนาทาบทับขบกัดจุมพิตร้อนผ่าวไปทางผิวกายเนียนนุ่มประดุจใยไหมอย่างเชื่องช้า ทิ้งทั้งรอยแดงและไฟร้อนๆ คอยแผดเผากายสาวให้มันมอดไหม้
พี่ภามได้โปรด...ไทนี่...ไทนี่ไม่ไหวแล้ว... นันทิยาอ้อนวอนเสียงกระเส่าและขาดเป็นห้วงๆ ด้วยความวาบหวิวจากไฟพิศวาสที่มันแผดเผาจนไม่เป็นตัวของตัวเอง สะโพกงามงอนส่ายร่อนรับปลายนิ้วยาวใหญ่ที่มันเคลื่อนไหวแทรกลึกในกลีบกายอ่อนนุ่มเป็นประวิง ลำตัวกลมกลึงที่แอ่นโค้งแผ่นหลังลอยขึ้นไม่ติดพื้นเตียงเพื่อให้สองปทุมถันอวบอิ่มแนบชิดกับฝ่ามือใหญ่ที่มันเคล้นคลึงอย่างรุนแรงไม่แพ้ริมฝีปากหนาร้อนเหมือนกับถ่านไฟที่มันกัดกลืนกินยอดปทุมถันสีสวยทั้งสองฝากฝั่งอย่างหลงใหลเพลิดเพลิน
บอกมาก่อนซิไทนี่ อยากให้ฉันทำอะไร ภามยังเล่นแง่ไม่ยอมทำตามคำขอของนันทิยาง่าย สองมือจับรั้งลำขาเสลาทาบทับบนแผ่นอกกว้างจนเนินเนื้ออิสตรีลอยเด่นขึ้นมา พร้อมทาบทับแก่นกายร้อนระอุเหมือนกับแท่งเหล็กกล้าที่ถูกเผาไฟบนกลีบกายอ่อนนุ่มคลึงเคล้นหยอกเย้ากับเกสรสวาท ในขณะที่สองมือใหญ่ก็ฟอนเฟ้นทรวงอวบอิ่มเต่งตึงอย่างหนักหน่วงรุนแรง ตอบซิไทนี่อยากให้ฉันทำอะไร
ระ...รักไทนี่...พี่ภามได้โปรดรักไทนี่... นันทิยาวอนขอเสียงหวานนุ่ม น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อไหลและหยดลงตามหางตาและผุดเสียงร้องหวานระคนเจ็บปวดเล็กๆ จากการเติมเต็มของท่อนลำรักระอุร้อนเหมือนเหล็กกล้าจะขยับพรวดเดียวแทรกลึกเข้ามาพำนักในกลีบกายคับแน่น
แค่ความใหญ่และร้อนคงจะไม่ทำให้เธอเจ็บเท่ากับภามสอดแทรกเคลื่อนตัวอย่างรุนแรงและเร็วรี่สลับเนิบนาบหนักหน่วง อีกทั้งกุหลาบน้อยของเธอยังบอบช้ำจากบทสวาทที่เขามอบให้เมื่อคืนมันเลยทำให้เจ็บเป็นสองเท่า สองมือเล็กจิกทึ้งผ้าปูเตียงระบายความเจ็บ ยังดีว่าภามไม่เคลื่อนไหวเลยมิฉะนั้นเธอคงจะรับกับบทพิศวาสที่แสนจะเอาแต่ใจไม่ได้
ภามกัดฟันกรอดๆ ข่มกลั้นความเสียวสยิวซ่านเมื่อถูกกลีบกายนุ่มอุ่นระอุร้อนดูดกลืนบีบรัดถี่ยิบตามจังหวะหัวใจที่มันเต้นแรงรัวเร็ว เหงื่อเม็ดเล็กๆ ถึงกับผุดขึ้นตามข้างขมับ กล้ามเนื้อหน้าท้องไหวกระเพื่อมตามแรงอัดที่สูดเข้าจนเต็มปอด  
ไทนี่...เธอเป็นแม่มดหรือไงกัน ถึงได้ทำให้ฉันเหมือนกับตกนรกและขึ้นสวรรค์ไปพร้อมๆ กันนะแม่ตัวดี
เพราะเส้นทางสวาทอันคับแน่นของหญิงสาวบีบตัวตอดรักเสียเหลือเกินจนภามทนไม่ไหวและเขาก็ไม่คิดที่จะทนด้วย กายใหญ่เริ่มขยับเคลื่อนถาโถมไปในกลีบดอกไม้บอบบางอย่างเชื่องช้าเพราะความคับแน่น ผนังอ่อนนุ่มบีบตัวตอดรัดเสียดสีจนภามคำรามดังลั่นด้วยความเสียวซ่านที่มันลอยวิ้งๆ อยู่ในสมอง เพลิงไฟวิ่งไหลพล่านไปตามกระแสเลือด สะโพกสอบสะบัดไหวโยกถาโถมดำดิ่งแทรกลึกตอบสนองอารมณ์ดิบเถื่อนที่มีอยู่ในกายอย่างหนักหน่วงไม่มียั้งออมแรง
อ๊ะ...พี่ภาม... ศีรษะทุยสะบัดส่ายจนเส้นผมกระจายไปทั่ว หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมเหมือนกับเกลียวคลื่นยามที่มันสาดซัดเข้าหาฝั่ง แม้ทุกการขยับของท่อนเนื้อที่ทั้งแข็งแกร่งแต่ก็อ่อนนุ่มในคราวเดียวกันจะนำพาเอาความเจ็บปวดแทรกซึมมาบ้างแต่ความเสียวซ่านระคนสุขสมมีมากกว่า
นันทิยาจึงตอบสนองความปรารถนาที่ไหลพล่านไปทั่วเรือนกายกลมกลึงสั่นสะท้านไหวเหมือนเรือลำน้อยที่มันลอยละล่องอยู่ในนาวาใหญ่และโดนพายุอารมณ์อันร้อนแรงโหมกระหน่ำซ้ำด้วยจังหวะอารมณ์เร่าร้อนรุนแรงจนแทบจะบ้าคลั่ง สะโพกกลมกลึงลอยไม่ติดพื้นตามติดแก่นกายร้อนผ่าวที่มันถอดถอนออกก่อนสะบัดเข้าใหม่ด่ำดิ่งแทรกลึกสุดช่องทางรักอันคับแน่น ตอดรัดจนใบหน้าภามถึงกับบูดเบี้ยวเหยเก สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรงจนลอนกล้ามเนื้อถึงกับไหวกระเพื่อม
โอ้...ไทนี่...เธอชั่งคับแน่นจริงๆ ทูนหัว... สองมือใหญ่วาดลากไล้ขยำนวดบั้นท้ายหนั่นแน่นตามแรงอารมณ์ที่มันพัดพาไป ลากไล้ไปตามสีข้าง ลากไล้ปลายนิ้วไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มก่อนจะวกกลับมาด้านหน้าหาสองเต้าอวบอิ่มที่มันไหวกระเพื่อมชูช่อจนลำคอเขาแห้งผากด้วยอยากที่จะกินกันดูดดื่มความหวานจากสองผลไม้สีสวย สองมือใหญ่ขยำนวดเคล้นคลึงจากฐานทรวงถึงปลายยอดที่มันชูชันระริกไหว และอดไม่ได้ที่จะไม่โน้มใบหน้าลงไปร่วมด้วยช่วยกัดกินเชอรี่เม็ดนุ่มหวานลิ้น
ความเสียวซ่านรัญจวนทำให้นันทิยาสะบัดส่ายเป็นประวิง ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งลอยจนแผ่นหลังไม่ติดพื้นเตียง พอๆ กับบั้นท้ายงามงอนที่ส่ายขึ้นรับทุกท่วงท่าที่มันสอดแทรกเข้ามาจนโออุ่นระอุแทบมอดไหม้จากท่อนลำรักระอุร้อนผ่าวเหมือนแท่งเหล็กกล้าที่มันเผาไฟ ดำดิ่งลึกลงไปในกลีบกายอ่อนเยาว์อย่างหนักหน่วงและรุนแรงจนเส้นทางสวาทอุ่นนุ่มเสียววูบวาบเหมือนกับถูกไฟเผา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นนันทิยาก็ไม่ออมถนอมแรงโต้ตอบด้วยอารมณ์ปรารถนาดิบเถื่อน ดูดรัดกลืนกินแก่นกายร้อนผ่าวจนภามถึงกับร้องครางดังลั่น
เบาๆ หน่อยซิไทนี่...อย่าแรงนักยาหยี เธอทำฉันจะขาดใจแล้วนะ ชายหนุ่มพูดงึมงำเสียงขาดเป็นห้วงๆ สะบัดสะโพกสอบเพรียวส่งให้นันทิยาลอยละล่องไปในพื้นฟ้าที่มีดวงดาราดาษดื่น แต่เพียงแค่หญิงสาวกำลังจะเอื้อมไขว่คว้าดวงดาวมาเก็บร้อยเป็นพวงมาลัยอยู่นั้นเองชายหนุ่มก็เริ่มชะลอลงและดึงรั้งนันทิยากลับคืนลงมาบนพื้นดิน
พี่ภาม... นันทิยากรีดร้องอย่างคนที่อารมณ์เสีย สองมือไขว่คว้ากายใหญ่มาแนบชิดดังเดิม แต่กลับโดนภามปัดสองมือเล็กออก สอดแขนใหญ่ตวัดเพียงแค่นิดเดียวกับจับพลิกเรือนกายกลมกลึงให้ลอยขึ้นจากพื้นเตียง ใบหน้างามนวลเนียนและแดงปลั่งมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามขมับแนบชิดติดพื้นเตียงนุ่ม สะโพกงามงอนลอยเด่นขึ้นรอรับความแข็งแกร่งระอุร้อนอลังการที่พุ่งพรวดผ่านช่องทางอันคับแน่นไปแนบชิดถึงผนังถ้ำอันอ่อนนุ่มรัวเร็วและถี่ยิบ
ได้โปรด...ไทนี่ไม่ไหวแล้ว... นันทิยาพยายามเคลื่อนตัวตามติดกายร้อนผ่าว แต่ภามเหมือนกับจะแกล้งทรมานเธอด้วยความสุขสมที่ทำยังไงมันก็ไปไม่ถึงดวงดาวเสียที ช่วยไทนี่...ด้วย... นันทิยาวอนขอเสียงแหบพร่าด้วยลมหายใจรัวเร็วจนสองทรวงสล้างไหวกระเพื่อม
ต้องการให้ฉันหรือไทนี่...งั้นบอกมาก่อนซิว่าเธอจะยอมทำทุกที่ฉันต้องการ
Photo Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at Photobucket
กลับมาแล้วค่าทุกๆ คน กลับมาถึงก็รีบรุดเดินทางเข้ามาเพื่อจะมอบความสุขให้กับทุกๆ คนเลยค่า...หวังว่าคงจะพอใจกานนะ
Photo Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at PhotobucketPhoto Sharing and Video Hosting at Photobucket

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

เพลิงรักร้อน ซ่อนรักร้าย ตอนที่ 3 แม่ตัวแสบ

ความรักความรักความรักความรักความรัก
ตอนที่ 3
แม่ตัวแสบ
เพียงแค่แม่สาวร่างอวบอั๋นที่ก่อนจะขึ้นรถก็หันมาโถมตัวเข้ากอดและจูบแก้มสากทั้งสองข้างของคนร่างใหญ่ก้าวขึ้นไปในรถ แต่ยังไม่วายหันมาส่งรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มเชิญชวน กับมือเล็กเรียวโบกสะบัดส่งให้อย่างแสนจะเสียดาย คนร่างเล็กที่แอบซ่อนกำบังกายกับต้นไม้ต้นเล็กกระจิดริดที่ซ่อนยังไงมันก็ปิดบังกายอรชรไม่มิด แถมหน้าตาหรือก็หงิกงอยิ่งกว่าจวักตักแกงก็รีบออกมาจากที่ซ่อนและอย่างไม่คิดมาก...เพราะคิดมาเยอะแระ...จนไม่รู้ว่าจะคิดยังไงแล้ว ถลาพาร่างเล็กพุ่งเป็นลูกขนุนน้อยๆ ไปข้างหน้าใช้ศีรษะทุยกระแทกเข้ากับอกกว้างอย่างแม่นยำ หวังให้อีกฝ่ายล้มลุกคลุกคลานให้อายคนที่เดินผ่านไปมา แต่กลับกลายเป็นว่า...
“อุ๊ย!!!
กลายเป็นคนแกล้งเองที่ตกใจ เพราะผิดแผนด้วยคนที่ต้องการให้ล้มก้นจ้ำเบ้านั้นหันกายหลบทันเสียก่อน กลับกลายเป็นว่าตัวเธอเองนั่นแหละที่ถลาตัวไปด้านหน้าหลุนๆ ยิ่งกว่าลูกขนุนหล่นจากต้นกลิ้งไปบนพื้นดิน ใบหน้านวลเนียนเหวอส่งเสียงร้องเล็กๆ เมื่อเกือบจะจูบปากกับพื้นซีเมนต์อันสกปรก ดีว่าได้แขนใหญ่สอดรัดเข้าระหว่างเอวและดึงได้ทันเสียก่อนจะลงไปตะครุบกบให้อายคนอื่นเขา
“เป็นยังไงบ้างหนู เจ็บตรงไหนบ้าง วันหลังก็เดินดีๆ หน่อยซิ อย่างรีบให้มันมาก เห็นไหมว่าเกือบจะล้มได้แผลแล้วนะ” อติคุปต์ถามพร้อมตำหนิไปด้วยในตัว เมื่อครู่ถ้าเขาไม่ไวพอคว้าเอาไว้ได้ทัน ไม่อยากคิดเลยว่าเจ้าตัวเล็กนี่จะเป็นยังไง...คงได้ร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะความที่ซุ่มซ่ามจนทำให้ตัวเองต้องเจ็บกายไม่พอยังจะอายจน
การะเกดหน้าเหวอก่อนหงิกงอยิ่งกว่าเจ้าหมาหน้ายู่ย่นที่ปากหรือจมูกก็แทบจะดูไม่ออกด้วยความหงุดหงิดระคนไม่พอใจนิดๆ ที่ถูกมองเป็นเด็ก แค่ตัวเล็กนิดหน่อยเอ้ง...ไม่เด็กแล้วนะเฟ้ย!!!!’ จมูกเล็กโด่งได้รูปยู่ย่นก้มมองรูปร่างตัวเองอีกเล็กน้อย ก่อนส่ายหน้า...
ไม่เห็นมีส่วนไหนบอกว่าเป็นเด็กเลยนี่น่า อกเอวก็มี อีตาบ้านี่มองไงฟะถึงได้เห็นสาวหน้าตาถึงจะไม่สวยและน่ารักอย่างพี่ลูกแก้วแต่เธอก็ดูเป็นสาวแล้วนะ ไหงอีตาตาเชือนนี้ถึงได้ดูเป็นเด็กไปได้ อ๋อ...ลืมไป ก็ไม่เห็นทรงโตๆ ยิ่งกว่าลูกแตงโมมั้ง เลยหาว่าเธอเป็นเด็ก แต่ก็ดีจะได้ทำอะไรสนุกๆ ถนัดหน่อยรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของเรียวปากนุ่มก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่ คนมันสะดุดขาตัวเองมันผิดด้วยหรือไง” เอ่ยตอบกลับน้ำเสียงใสแจ๋วราวกับระฆังอย่างยียวนกวนประสาทคนดุเต็มพิกัด คิ้วโก่งได้รูปเลิกขึ้นยิกๆ  
“อ๋อ...แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นเด็กแล้วด้วย ไม่ต้องมาเรียกหนู” สองมือเล็กยกขึ้นดันมือใหญ่ที่มันสอดรัดกระชับเอวอยู่ให้ถอยห่าง นี่เพียงแค่เธออยู่ในอ้อมกอดแล้วก็ได้สบกับดวงตาคมสีสนิทดุกร้าวเท่านั้นนะ
บ้าจริงเชียว...การะเกดดุตัวเองในใจเมื่อรู้สึกว่าความร้อนไล่ขึ้นไปรวมตัวกันอยู่ที่พวงแก้ม หัวใจมันก็เต้นกระหน่ำรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมาจากทรวงแล้ว ขืนอยู่ใกล้ๆ กันบ่อยๆ เชื่อได้เลยเผลอมอบกายมอบใจให้ไปในเวลาไม่นานแน่
ก็ขนาดเธอที่วันๆ ไม่สนใจผู้ชายคนไหนเพราะมีคนที่ประทับใจอยู่แล้วยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วแก้วกาญจนาละ หน้าตาสวยน่ารักน่าปรารถนาอยู่แล้ว แถมยังอ่อนประสบการณ์และใสซื่อตามคนไม่ค่อยทันอยู่ เจอกันเพียงครั้งสองครั้งถูกอีตาร่างยักษ์นี่ลากขึ้นเตียงเป็นแน่เลย
โอ๊!!! หงุดหงิดอยากข่วนหน้าคนโว้ย!!! ถลึงตาใสแจ๋วเป็นประกายเกรี้ยวกราดใส่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัวหน้ายักษ์ที่ส่งมาให้
อติคุปต์หน้าตึง ดวงตาวาวโรจน์ขึ้นแวบหนึ่ง เมื่อถูกอีกฝ่ายสวนกลับมาฉอดๆ บอกว่าไม่ใช่เด็ก ดวงตาคมปราบกวาดไล่มองเพียงแค่แวบ อืม...มันก็จริง พอสังเกตดูดีๆ นะหุ่นถึงจะเล็กบอบบางแต่ก็ดูออกว่าไม่ใช่เด็กแล้ว อวบอัดด้วยส่วนนูนเว้าและโค้งอันเหมาะเจาะไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไปที่มันรับกันทุกส่วนเลย แต่ไอ้นิสัยนี่นะซิ...มันเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมชัดๆ เลยนี่น่า
กลีบปากสีชมพูระเรื่องที่ขยับต่อว่าเขายิกๆ มันชั่งน่ามองและน่าจูบเหลือเกิน เห้ย!!! นี่เขากำลังคิดอะไรนี่ แต่ถึงจะอย่างนั้นอติคุปต์ก็ไม่สามารถที่จะหักห้ามความคิดที่ตอนนี้มันเริ่มจะไหลไปจนกู่ไม่กลับด้วยกลิ่นกลิ่นกายสาวหอมบริสุทธิ์เหมือนดอกไม้แรกแย้มผสมกับกลิ่นแป้งเด็ก แล้วยังจะมีความนุ่มนิ่มของเรือนกายอรชนที่ได้สัมผัสทำเอาเขาถึงกับเสียดายเมื่อต้องคลายอ้อมแขนที่รัดร่างเล็กกลมกลึงออกไป
เออ...แล้วเขาจะเสียได้ทำไม รอบกายเขาก็เต็มไปด้วยผู้หญิงที่พร้อมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างเพียงแค่กระดิกนิ้วเท่านั้นเอง สงสัยว่าคงจะหมกมุ่นกับงานมากเกินไปจนสมองเริ่มจะฟั่นเฟือนแล้ว คงต้องหาโอกาสพาตัวเองไปพักผ่อนหย่อนใจสักพักเสียแล้วละมั้ง
“ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ใช่เด็กก็หัดทำอะไรที่ผู้ใหญ่เขาทำกันซิ”
“ทำอะไร!!” เธอว่าเธอตวาดออกไปนะ เพราะพื้นเพน้ำเสียงที่มันใสแจ๋วต่อให้พยายามเน้นให้มันดุแค่ไหนมันก็เท่านั้น ยังเป็นเหมือนเดิม...ใสแจ๋วจนราวกับระฆัง เลยต้องใช้ร่างกายที่แม้จะเล็กแต่เธอก็เล็กพริกขี้หนูนะจ๊ะบอกให้ เผ็ดและแสบสันต์อย่าบอกใครเข้าข่ม สองมือเล็กยกขึ้นเท้าสะเอว เชิดหน้าขึ้นสูงอย่างไม่กลัวเกรง คิ้วโก่งสวยได้รูปเลิกขึ้นยิกๆ อย่างก่อนกวนอารมณ์ชายหนุ่มอีกด้วย
“ไหนลองบอกมาหน่อยซิ ว่า...ไอ้ที่ผู้ใหญ่เขาทำกันนะมันยังไง” หน้านวลผ่องแบะออกเล็กน้อย กลีบปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อขบเม้มจนแบนราบเรียบ โธ่เอ๊ย!!! ทำเป็นมาพูดดี เรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกันมันก็เรื่องพรรณอย่างนั้นละว้า ชิ...
อติคุปต์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เด็กสมัยนี้เป็นแบบนี้ทุกคนเลยหรือไง นิสัยก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้ใหญ่กว่า นี่ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งเขาคงจะจับเข้าห้องแล้วอบรมมารยาทให้หนักเลยเชียว แต่นี่เป็นลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้ คงทำได้เพียงอย่างเดียว อย่าเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวให้มันปวดหัวดีกว่า
“เดี๋ยวซิจะไปไหน พูดกันยังไม่เคลียร์เลยนะ” มือเล็กยื่นไปจับแขนใหญ่ของคนที่หันหลังเดินหนี อะไรวะตาบ้านี่ยังพูดกันไม่ทันจะรู้เรื่องเลยเดินหนีซะแล้ว วงหน้าหงิกงอบูดบึ้ง ยกเว้นคุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเดินหนีเธอได้ คนอื่นๆ จะต้องเป็นเธอเท่านั้นที่เดินหนีได้
อติคุปต์ก้มมองมือเล็กที่จิกปลายเล็บลงไปบนแขนใหญ่ของเขาเต็มแรง คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ตวัดส่งสายตาเกรี้ยวกราดและไม่พอใจให้ไป แปลก...ที่ถ้าเป็นคนอื่นเพียงแค่เขาวางหน้าเฉยก็กลัวกันจนหัวหดแล้ว แต่เด็กสาวตรงหน้าแม้กระทั่งส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปให้ยังทำสีหน้าเฉยชาไม่รู้ไม่ชี้ใส่เสียอีก
มองด้วยสายตาว่าให้ปล่อยมือก็แล้วแต่แม่ตัวเล็กนี่ก็ยังไม่รู้สึกรู้สา เลยจำต้องยกมือขึ้นปัดแต่ก็เท่านั้น เมื่อเขาปัดตรงนี้มือเล็กก็เลื่อนไปจับตรงโน้นจนเขาชักจะระอิดระอาและเหนื่อยหน่ายใจ ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ขึ้นอย่างหงุดหงิดด้วยเสียดาย หน้าตาก็ใสซื่อบริสุทธิ์ดีอยู่หรอกนะ แต่ท่าทางว่าจะเป็นเด็กใจแตกที่พยายามจะเข้ามายั่วยวนให้เขาหลงใหลอีกรายแล้วละซิ มันน่านัก...ถ้าไม่คิดถึงผลที่ตามมานะ มันน่าจะจับขึ้นเขียงแล้วขยี้ให้แหลกคามือเลย ให้ตายซิ อติคุปต์กัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่รู้ทำไมว่าเขาถึงได้หงุดหงิดกับพฤติกรรมของคนตรงหน้าเสียเหลือเกิน
“ทำไม...ไม่ปล่อยแล้วคุณจะทำไม” การะเกดลอยหน้าลอยตาถาม เมื่อเห็นประกายในสายตาคมบอกว่าให้เธอปล่อยแขนเขาเสีย แม้จะกลัวนิดๆ ก็ต้องยอมรับละนะว่าสายตาอีตาบ้านี่มันดุจนเธอสั่นไปเหมือนกัน แต่อาจจะชินมากกว่าเพราะสายตาของคุณก็ประมาณนี้แหละ...หรือว่าดุกว่าก็ไม่รู้ แต่คุณรักเธอนี่น่าเลยทำให้ลดความกลัวไปได้เยอะ อย่างนี้เจอหน้าคุณเมื่อไหร่คงต้องขอบคุณเป็นการใหญ่เชียวละ
เมื่อไม่ได้คำตอบจากอีกฝ่าย มีเพียงแค่สายตาที่มองมาราวกับว่าเธอเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ผู้ชายอย่างเขาไม่สมควรจะเอามือมาแตะต้องให้มันเปื้อน ความหงุดหงิดเกาะกุมหัวใจพอๆ กับความรู้สึกอยากจะแกล้งที่มันพุ่งปรี่ขึ้นในหัวใจ แล้วข้อเสียอย่างหนึ่งของเธอก็คือว่า...เมื่อคิดแล้วก็ต้องทำ ร่างกายมันไปไวกว่าสมองที่สั่งการ จนลืมนึกถึงผลที่จะตามมา 
คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นสูง “เธอคิดจะทำอะไร” ถ้าเขาฝืนเพียงแค่เล็กน้อยแม่ตัวเล็กนี่ก็ลากเขาไปไม่ได้ แต่เพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรก็เลยยอมปล่อยให้ถูกลากไปง่ายๆ
มือเล็กดึงลากด้วยแรงอันมหาศาลพาร่างหนาใหญ่ไปตรงซอกมุมซึ่งมีต้นไม้ใหญ่กิ่งก้านใบปกคลุมอย่างหนาแน่น ดันร่างหนาใหญ่แนบชิดกับผนังห้องที่มีสีเขียวของตะไคร่น้ำและคราบสกปรกสีดำๆ ติดอยู่ สองมือเล็กวางทาบบนอกกว้างด้วยรอยยิ้มหวานๆ นัยน์ตาเป็นประกายอย่างสนุกสนานรื่นเริงอย่างคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้งานคุณสำเร็จ โดยที่พี่สาวสุดที่รักก็ไม่ต้องเสี่ยงภัยทั้งร่างกายและหัวใจอีกด้วย
“ได้ข่าวมาว่าคุณไม่ค่อยจะสนใจผู้หญิง” เปล่า...เดาไปอย่างนั้นเอง ท่าทางอย่างอีตาบ้าร่างหนาเตอะราวกับยักษ์นี่นะหรือไม่ชอบผู้หญิง อมพระเก้าวัดมาพูดก็ไม่เชื่อหรอก ก็อีกฝ่ายนะท่าทางจะเป็นประเภทที่ว่านอนหมอบรอเหยื่อมาติดกับก่อนจะตรุบกินเสียละมากกว่า
 “ถามจริง คุณเป็น...เกย์หรือเปล่าคะ” ถามเสียงหวานใสแผ่วพลิ้วแต่เน้นหนักในคำพูดบางคำ แล้วยังจะสร้างกำแพงบนวงหน้า ก็ใครบ้างจะไม่อายเล่าที่มาอ่อยผู้ชายอยู่แบบนี้ เคยทำเสียที่ไหนกัน แต่ท่องเอาไว้ในใจ...เพื่อพี่สาว...เพื่อคุณ
ปลายนิ้วเล็กลากไล้บนลำตัวกว้างสอดแทรกเข้าไปเข้าไปเกลี่ยกระดุมเสื้อพร้อมสะกิดจนหลุดจากราง แหงนหน้าแย้มยิ้มอย่างที่คิดว่ามันเซ็กซี่ที่สุด เพื่อยั่วยวนอีกฝ่ายให้หลงใหล แต่การะเกดไม่รู้เลยว่าในสายตาของอีกฝ่ายที่มองมายังไง้ยังไงเธอก็ยังเป็นเด็กที่ริอ่านทำตัวโตเกินวัยอยู่วันยังค่ำ
อ๋อ...เข้าใจละไอ้ที่ชนเมื่อกี้นะไม่ได้เป็นเพราะอุบัติเหตุ แต่เพราะอยากรู้ว่าเขาใช่ชายแท้หรือเปล่า อ่อยเขาถึงขนาดนี้เลยหรือนี่ ใจกล้าหน้าด้านมาก...
ร้อยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของปากหนา ทั้งที่ความจริงแล้วเขาแทบไม่อยากจะสนใจผู้หญิงไร้สมอง ปัญญาน้อยกว่าเด็กชั้นประถมด้วยซ้ำมั้ง ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะนินทาว่าร้ายยังไง แต่กับแม่สาวจอมยั่วตัวเล็กแต่หุ่นอวบอัดขนาดนี้ ถ้าเขาไม่จัดให้อย่างที่เธอต้องการ เขาก็คงจะถูกเอาไปว่าลับหลังว่าเป็นคนไร้น้ำยา ดังนั้น...ก็จัดให้ตามที่เธอขอสักหน่อยแล้วกัน
“ว่าไงคะ...เป็นหรือเปล่าเอ่ย” เอียงศีรษะเล็กน้อยถามเสียงใส ปลายนิ้วยาวเรียวสัมผัสกล้ามเนื้อแข็งแกร่งและหนั่นแน่นด้วยลอนซิกแพ็กที่ทำเอาหัวใจดวงน้อยถึงกับเต้นรัวเร็วขึ้นมาพอๆ กับความกระหายอยากจนลำคอและกลีบปากแห้งผากจนต้องยื่นเรียวลิ้นเล็กออกมาไล้เลียกลายเป็นการยั่วยวนอีกฝ่ายโดยไม่ทันจะรู้ตัวโอ๊ย!!! อยากจะบ้า ฉันเป็นอะไรไปแล้วนี่
อติคุปต์ยิ้มนิดๆ อย่างมีเสน่ห์ ดวงตาคมกริบวามวาว ขยับตัวเพียงแค่เล็กน้อยร่างแม่สาวร่างเล็กผู้อยากรู้ก็หันไปแนบชิดกับผนังเย็นชื้นแทนตัวเขา ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงไปจนลมหายใจเป่ารดหน้าผากเนียนและเส้นผมหนานุ่ม ริมฝีปากร้อนผะผ่าวทาบทับขบกัดติ่งหูเล็กสลับสอดปลายลิ้นร้อนผ่าวไปกระเซ้าเย้าหยอกช่องหูเล็กจนขนกายแม่จอมยั่วลุกซู่ในทันที
“อยากรู้ว่าฉันเป็นหรือเปล่า...ก็ไปเจอกันที่ห้องนอนซิ แม่หนูน้อย ไม่ใช่มายั่วให้อยากแถวๆ ข้างถนนแบบนี้ รับรองว่าเธอได้คำตอบที่ต้องการจนถึงรุ่งเช้าแน่นอน” ใบหน้าคมคร้ามแกร่งโน้มลงไปอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาและร้อนผ่าวที่ขบเคลื่อนไล่มาตามพวงแก้มอย่างช้าๆ คนที่ตั้งใจเพียงแค่ยั่วยวนแต่กลับได้ในสิ่งที่ไม่คาดคิด
“อือ...” เสียงกระอึกกระอักดังมาจากคนร่างเล็ก แข็งขาอ่อนแรงขึ้นมาทันควัน เมื่อกาลกลับตาลปัดจนทั้งตัวไม่ทัน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงรัวเร็วราวกับจะทะลุออกมาจากทรวง ขนแขนลุกชัน ริมฝีปากที่อ้าหมายจะต่อว่ากลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้จูบซับอย่างถนัดถนี่
หวาน...อย่างแรกที่อติคุปต์สัมผัสได้เมื่อทาบริมฝีปากหนาร้อนผ่าวไปบนเรียวปากอิ่มนุ่ม พร้อมกับรับรู้ได้ถึงความอ่อนไร้เดียงสาที่แม้อีกฝ่ายจะพยายามซุกซ่อนหลบลี้หนีสักเท่าไหร่ก็ยังหลบไม่พ้น ฝ่ามือใหญ่นำทางลูบไล้ไปทั่วเรือนกายกลมกลึงที่ไม่ว่าเขาจะสัมผัสตรงส่วนไหนความกระหายอยากก็ไหลล้นตามกระแสเลือดกับความหวานหอมราวกับดอกไม้แรกผลิบานที่น้ำเลี้ยงหวานๆ ยังมีอยู่อย่างครบครัน  เรียวลิ้นสากระคายสอดแทรกล่วงล้ำไปในโพรงปากนุ่ม กวาดไล้ไปตามซอกลืบไรฟัน กระพุ้งแก้มนุ่มอย่างหลงใหล
การะเกดพยายามต่อต้านอย่างสุดฤทธิ์ มือเล็กที่เมื่อครู่ลูบไล้อกกว้างเปลี่ยนเป็นกำหมัดกระหน่ำทุบไปแรงๆ สองเท้าเล็กก็ไม่หยุดนิ่งร่วมด้วยช่วยกันประทุษร้ายกายใหญ่ทุกวิถีทาง แต่เพราะเธอตัวเล็กกว่าอีกฝ่ายมากเพียงแค่ชายหนุ่มสอดแขนใหญ่กระชับร่างเล็กและดันขึ้นจนสองเท้าเล็กลอยเหนือพื้นและสอดแทรกช่วงขาแข็งแกร่งเข้าพำนักตรงกลางระหว่างสองขาเรียวเธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ไหนจะสองมือเล็กที่ระดมทุบไปบนอกกว้างแรงๆ จนอีกฝ่ายท่าจะรำคาญเลยจับรั้งไพล่ไปไว้ด้านหลังเท่ากับดันให้ทรวงอกอวบอิ่มบดเบียดกับอกกว้าง
เพราะไม่เคยเจอกับเรื่องราวแบบนี้มาก่อน การะเกดเลยรับมือไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับความร้อนรุ่มที่มันเผาผลาญกาย มือใหญ่ที่วาดไล้ไปทั่วกายานอกจากจะสร้างความปั่นป่วนแล้วยังจะดึงเอาสติที่มีให้ค่อยๆ หลุดออกจากร่าง ไหนจะจูบหวานระคนเร่าร้อนที่มันสูบเอาลมหายใจออกไปจากร่าง ภายในช่องท้องปั่นป่วนเสียวซ่านด้วยลูกไฟที่มันไหววูบวาบจนกายสั่นสะท้านไหวทำอะไรไม่ถูกไปในบัดดล
จากตอนแรกเพียงแค่อยากลงโทษและสั่งสอนให้หลาบจำว่าไม่ควรเอาตัวเองมาเสี่ยงกับอารมณ์ผู้ชาย แต่เมื่อได้พานพบกับความหวานหนุ่มของกลีบปากอวบอิ่มก็ทำให้อติคุปต์หลงเพลิดไป เรียวลิ้นสากระคายเลาะเลี้ยวเที่ยวท่องเลาะเล็มไปทั่วโพรงปากนุ่ม เกี่ยวกระหวัดพลิกพลิ้วกับปลายลิ้นเล็กที่พยายามจะขับไล่ผลักไสโดยไม่รู้เลยว่ามันยิ่งเป็นการยั่วยุอารมณ์เขาให้ลุกโชนจนน่าแปลกใจ เพราะแม้กระทั่งว่าที่ภรรยาซึ่งเธอก็สวยบาดจิต คนที่เขาจะต้องแต่งงานด้วยในไม่ช้าไม่นานนี้ก็ยังทำให้ไฟปรารถนาเขาลุกโชนได้ไม่เท่าแม่ตัวเล็กแต่แสบและกล้าคนนี้ที่ไม่รู้ว่าสะกิดต่อมอะไรของเขาเข้านะ ถึงได้ทำให้เขามีอาการแบบนี้...อยากจูบ อยากกอด อยากทำอะไรให้มันสุดกู่ไปเลย
ฝ่ามือใหญ่วาดไล้ไปตามเรือนกายกลมกลึง ค่อยๆ จิกทึ้งดึงเอาปลายเสื้อที่มันซุกซ่อนอยู่ในกางเกงตัวหนาส่งปลายนิ้วไปลูบไล้ผิวเนื้อนวลเนียนนุ่มเหมือนกับใยไหม ไล่ไปตามแผ่นหลังก่อนจะวกกลังมาด้านหน้าหยอกเย้ากับช่องเล็กๆ ตรงกลางสะดือ ก่อนจะเคลื่อนขึ้นไปกอบกุมครอบครองเนินเนื้ออวบอิ่มสล้างที่มันกระเพื่อมไหวตามแรงหายใจของผู้เห็นเจ้าของ
“อืม...เธอนี่หวานจริงๆ แม่สาวน้อย” อติคุปต์ร้องครางในลำคอ แค่กดฝ่ามือลงไปบนทรวงอวบเต่งตึงก็เหมือนกับว่าเจ้าก้อนเนื้อนุ่มจะมีสปริงติดอยู่เพราะมันชูชันตอบรับสัมผัสจากมือเขาในทันที ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวเคลื่อนไหวไล้ลากไปทั่วก้อนเนื้อนกลมกลึง นวดเฟ้นคลึงเค้นจนบัวตูมผลิบานเต็มอุ้งมือ แต่เขาก็ยังไม่สู้จะพอใจสักเท่าไหร่เพราะเนื้อผ้านุ่มๆ ขวางกั้นอยู่ และอย่างรวดเร็วที่การะเกดไม่ทันจะได้ตั้งตัว ฝ่ามือใหญ่วาดไล้ลากไปตามสีข้าง เคลื่อนไหวลูบไล้แผ่นหลังเนียนนุ่มและสะกิดเพียงเล็กน้อยตะขอเสื้อชั้นในของเธอก็หลุดออก
เห้ย!!! ดวงตากลมโตของคนที่อ่อนระทวยด้วยเรี่ยวแรงถูกสูบออกไปเบิกกว้างเกือบจะเท่าไข่ห่านเมื่อรับรู้ถึงความใกล้ชิดสนิทแนบของกายตัวเองกับมือร้อนผ่าว
 “อือ...”
ศีรษะทุยเบี่ยงหนี แต่ริมฝีปากหนาร้อนก็ยังเลาะเล็มตามติดไปทุกแห่ง ซอกซอนเรียวลิ้นสากระคายตวัดไล้พลิกพลิ้วกับลิ้นเล็กจนหมดทางที่จะหนี แม้แต่กายจะขยับเขยื้อนไปทางไหนก็ติดขัดไปเสียหมดทุกทาง ได้แต่ตอบรับสัมผัสแผดร้อนและเอาแต่ใจ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ ทำไมทีกับผู้ชายคนอื่นที่เพียงแค่คว้ามือไปจับเธอกลับสะบัดมันหลุดออกไปได้ง่ายๆ ราวกับพลิกฝ่ามือ แต่กับผู้ชายคนนี้ เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย แล้วมิหนำซ้ำยังจะถูกลวนลามเอาแต่ใจจนกายอ่อนระทวยเหมือนขี้ผึ้งถูกลนด้วยไฟเสียอีก
“อื้อ...” ไม่อยากจะที่จะทำตัวอ่อนไหวแต่ความปั่นป่วน สยิวซ่านที่มันแล่นพล่านไปทั่วร่างกายยาวที่อีกฝ่ายแตะต้อง ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งตอบรับสัมผัสจากฝ่ามือร้อนผ่าวที่มันเคลื่อนไหวอยู่บนทรวงอกอวบเต่งตึง ปลายยอดเล็กๆ ชูชันไหวระริกตอบรับปลายนิ้วร้อนผ่าวที่หยอกเอินสลับคลึงเคล้น สองมือเล็กที่ไม่รู้ว่าถูกปล่อยเมื่อไหร่ได้แต่ยกขึ้นโอบรัดรอบบ่ากว้างด้วยความกลัวว่าแข้งขาที่มันอ่อนแรงจะพาเอาร่างทั้งร่างทรุดลงไปกองกับพื้น
อติคุปต์อมยิ้ม เมื่อแม่สาวใจกล้ากลับอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนเขาเสียแล้ว...เสียดายว่าที่นี่ดันเป็นข้างถนน แม้จะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมาและตรงซอกที่ยืนอยู่จะค่อนไปทางมิดชิดก็ตาม ถ้าเป็นในห้องหับที่มิดชิดเขาคงจะรีบฉีกทึ้งดึงเอาเสื้อผ้าของทั้งตัวเองและของแม่ตัวแสบออกแล้วก็...
ริมฝีปากหนาร้อนเลาะเล็มประพรมจุมพิตไปทั่ววงหน้านวลเนียน ฝ่ามือร้อนผ่าวฟอนเฟ้นปทุมอวบอิ่มเต่งตึงด้วยวัยสาวสลับสะกิดกระดุมจนหลุดออกจากราง เคลื่อนใบหน้าลงไปซุกไซ้ลำคอระหงดูดเม้มจนผิวสีน้ำผึ้งแดงช้ำเป็นจ้ำๆ ก่อนจะขับเคลื่อนไปหยอกเอินเนินเนื้ออวบอิ่มเต่งตึง
สายตาคมดุเหลือบขึ้นไปมอง พวงแก้มเนียนนุ่มแดงปลั่งพอๆ กับกลีบปากอวบอิ่มที่บวมช้ำ ประกายในดวงตากลมโตมองอย่างหวาดหวั่นและไม่มั่นใจ “อยากล้วงให้ลึกๆ กว่านี้ไหมละแม่หนูน้อย ฉันเป็นเกย์หรือเปล่า” ขบทาบริมฝีปากเคลื่อนไปทีละน้อยบนก้อนเนื้อนุ่มเต่งตึงที่ไหวกระเพื่อมยั่วยุให้เขารีบจัดการทับทิมสีชมพูที่มันลอยเด่นอยู่ยั่วตาและยั่วความหิวกระหายอยู่
“ไม่...ไม่แล้ว ยะ...หยุดเถอะ...” ตอบกลับเสียงนุ่มแผ่วพลิ้วสั่นไหวอย่างรุนแรง เมื่อต้องพบเจอกับอารมณ์แปลกประหลาดที่ตั้งรับไม่ทัน เปลวไฟร้อนแรงที่มันไหลวนอยู่ในช่องท้อง ด้วยมันทำให้เธอเสียววูบวาบไม่เป็นตัวของตัวเอง ดวงตากลมโตที่มองสบกับดวงตาคมกริบเป็นประกายออดอ้อนเว้าวอนโดยไม่รู้ตัว สองมือเล็กยันกายใหญ่ให้ถอยห่างออกไปแต่ก็เท่านั้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินยอม
“มาขอร้องตอนนี้มันช้าไปหรือเปล่าสาวน้อย” อติคุปต์เอ่ยถามเสียงทุ้มและแหบพร่าด้วยเขาเองก็ร้อนจนแสนสุดจะทน ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวลากไล้ไปทั่ววงหน้านวลแดงปลั่งราวกับผลตำลึงสุก ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวทาบทับเคลื่อนไปบนผิวกายนวลเนียนนุ่มที่ทั้งหอมและหวาน แต่ดวงตาคมกริบยังไม่ละจากวงหน้านวลผ่อง สบกับดวงตากลมโตราวกับกับกำลังสะกดจิตคนที่พยายามต่อต้านอารมณ์กฤษณา ปลายนิ้วยาวร้อนหยอกเอินตุ่มไตนุ่มที่แข็งตัวชูชันเหมือนบัวน้อยที่รอคอยแสงอาทิตย์ยามเช้าจนเสียงร้องหวานๆ หลุดออกจากกลีบปากอวบอิ่มที่พยายามจะขบเม้มเอาไว้
“รู้ไหมว่าตรงนี้ของเธอมันอยากให้ฉันทำแบบนี้...” ปากหนาอ้างับผลทับทิมนุ่มๆ ตวัดปลายลิ้นกระเซ้าเย้าหยอกด้วยปลายยอดนุ่มๆ จนตั้งชันหายไปในอุ้งปาก และไม่ยอมให้อีกผลต้องน้อยอกน้อยใจว่าถูกหมางเมินก็ยื่นมือใหญ่ไปเคล้นคลึงเนิบนาบหนักหน่วง
โอ๊ย!!! เธออยากจะบ้าตายจริงๆ ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้เลยกายกลมกลึงสั่นสะท้านไหว พยายามที่จะเรียกสติที่มันกำลังเพลิดกระเจิดกระเจิงกลับมา “อือ...คุณ...หยุดเถอะ นี่มันข้างถนนนะ...” ร้องห้ามเสียงสั่นด้วยความอับอายที่เผลอตัวเผลอใจไปกับสัมผัสที่มันเคลื่อนไหวอยู่บนเรือนกาย จิกปลายเล็บไปบนแผ่นหลังกว้างด้วยความเสียวซ่านจากศีรษะจรดปลายเท้า ในท้องน้อยปั่นป่วนและวาบหวิวสยิวซ่านด้วยลูกไฟอารมณ์ที่มันวิ่งพล่านไปทั่วร่าง
น้ำเสียงหวานนุ่มที่มันติดๆ ขัดๆ ดึงเอาสติและอารมณ์ของอติคุปต์คืนกลับมาแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม แต่มันก็ทำให้เขารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ถึงจะอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อยากที่จะละทิ้งความหวานที่ได้รับ หักห้ามใจจากเจ้าผลไม้รสนุ่มเคลื่อนจุมพิตไปจนได้พบกับกลีบปากอวบอิ่มของคนที่พยามยามจะเบือนหน้าหนี มือใหญ่จับตรึงท้ายทอยตรึงให้หญิงสาวรองรับจุมพิตแผดร้อนที่เผาพลาญกลีบปากนุ่ม เคล้นคลึงบัวตูมอวบอิ่มอย่างหนักหน่วงจากฐานถึงปลายยอดที่มันบานเบ่งอยู่ในอุ้งมือก่อนจะยอมถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
“รีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนที่จะทนกับการยั่วยวนของเธอไม่ไหวแล้วก็ไม่สนใจว่าที่นี่มันข้างถนน จับเธอเปลื้องผ้าแล้วก็...” เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่าและเซ็กซี่ๆ ข่มกลั้นความปรารถนาในเรือนกายให้มันกลับคืนสู่ปกติอย่างยากเย็นเป็นที่สุด
ชายหนุ่มหัวเราะหึหึในลำคอ เมื่อคนที่กล้าเอาตัวมายั่วเขารีบจับเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางด้วยมือไม้อันสั่นเทา สะบัดวงหน้าค้อนเขาเป็นระยะ อืม...น่ารักแฮะ ใจหนุ่มชักจะเสียดายขึ้นมาตงิดๆ เขาน่าจะได้เจอแม่สาวใจกล้าเร็วกว่านี้สักนิด จะได้พาขึ้นเตียงก่อนที่เขาจะต้องไปทำงานต่างประเทศ
ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวลากไล้บนพวงแก้มนุ่ม “ฉันไม่มีงานต่อแล้ววันนี้...เธอไปต่อที่โรงแรมกับฉันไหมละสาวน้อย จะได้พิสูจน์อีกสักครั้งว่าฉันเป็นเกย์หรือเปล่า...”
ไอ้บ้า!!!’ เพราะรู้ว่าทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ ด้วยตอนนี้ตัวเธอเองอยู่ในสถานการณ์ที่มันล่อแหลมเสี่ยงต่อการเพลี่ยงพล้ำเสียตัวเป็นที่สุด เลยได้แต่ด่าทออีกฝ่ายอยู่ในใจ
ดวงตากลมโตวาววับเป็นประกายด้วยเพลิงไฟแห่งความโกรธ ข่มกัดฟันจนกลีบปากอวบอิ่มแดงระเรื่อ วงหน้านวลเนียนแดงก่ำ สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ระงับอารมณ์ที่มันพุ่งพล่านเป็นไฟเผาไหม้หัวใจให้ร้อนรุ่ม แปลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานนุ่มละมุน
เหอะ...คิดหรือว่าฉันจะยอมแพ้นายง่ายๆ คุณอติคุปต์เจ้าขา...รอยยิ้มเล็กๆ แต่งแต้มบนเรียวปากอวบอิ่มก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว สองแขนเล็กเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแกร่ง ช้อนดวงตากลมโตล้อมด้วยขนตายาวงอนกระพริบปริบๆ อย่างน่ารักในความคิดของเธอนะ ไม่สนใจความคิดของคนอื่น หลังมือเล็กลากไล้ไปบนวงหน้าคมคร้ามเหมือนกับลังยั่วยุอารมณ์ปรารถนาที่ถูกข่มกลั้นเอาไว้ให้ลุกโชติช่วงอีกครั้ง
“อยากไปต่อกับฉันหรือคะคุณขา” แรกเริ่มเสียงหวานเจี๊ยบ...จนขนาดเธอพูดเองนะยังขนแขนแสตนอัพเลย “ไปนอนกับคู่ขาคุณโน่น ไอ้หน้าวอก ไอ้จอมหื่น”
ตุบ!!! เพราะกายที่เล็กกว่าอีกฝ่ายมากมันเลยทำให้เธอไม่สามารถใช่เขากับตรงนั้นของไอ้จอมหื่นได้เลยต้องใช้วิธีชกเข้าไปที่กลางลำตัวแข็งแกร่งก่อน ซึ่งมันทำให้อีกฝ่ายเจ็บไม่มากหรอก แต่ก็พอที่จะทำให้ลำตัวหนากว้างงอลงเล็กน้อยก่อนที่เธอจะแถมด้วย...
เพี๊ยะ!!! พลัก!!!
อติคุปต์ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว ฝ่ามือเล็กๆ ก็ฝาดไปบนวงหน้าคมคร้ามก่อนที่หมัดลุ่นๆ จะตามติดตรงเข้าที่มุมปากหนา เพราะไม่ทันจะได้ตั้งตัว ไม่คิดว่าแม่ตัวแสบจะเล่นแบบนี้ ทำเอาเขาถึงกับจุกตัวงอและแปลบๆ ที่ริมฝีปากได้ไม่น้อย
“จูบของคุณนะมันห่วยแตกไม่เป็นสับปะรดเลยละยะ” เปล่านะ...เธอเคลิ้มไปจริงๆ แต่ยอมรับก็บ้าแล้ว “แล้วถ้าอยากนอนกับฉันนะต้องไปหัดโอ้โลมมาใหม่เถอะยะไอ้คนเฮงซวย”
ตุบ!!!
การะเกดฝากแถมท้ายด้วยหมัดลุ่นๆ ไปที่ปากหนาอีกข้างและคราวนี้เพราะเธอทุ่มแรงไปเต็มๆ จนวงหน้าคร้ามแกร่งถึงกับหันไปอีกข้าง สองมือเล็กผลักหนาไปชิดกำแพงและวิ่งลิ่วราวกับนักวิ่งลมกรด
“หมัดหนักชะมัดยัยเลยยัยตัวแสบนี่” มือใหญ่ยกขึ้นจับคางและมุมปากส่วนที่โดนต่อย นัยน์ตาเป็นประกาววับวับแข็งดุกร้าวมองตามร่างเล็กไปไม่คลาดคลาอย่างจดจำอากัปกิริยาบทของอีกฝ่ายบันทึกไว้ในสมองอัจฉริยะ
หึ...รอยยิ้มผุดบนมุมปากด้านหนึ่ง คิดว่าทำร้ายเขาแล้วจะหนีลอยนวลไปได้ง่ายๆ หรือยัยตัวแสบ ไม่มีทางเธอคงไม่รู้ว่าเล่นอยู่กับใครเสียแล้ว ให้กลับจากไปติดต่องานก่อนเถอะ พ่อจะตามล่าตัวเอาขึ้นเตียงจับมาสั่งสอนซะให้เข็ดว่าอย่าริอ่านมาดูถูกัน

เรายังไม่ลืมกันใช่ไหมค่าาาาา
ชี้แจงจ้า....ใครที่เล่นเกมส์แล้วยังไม่ได้หนังสือ
รออีกนิดนะจ๊ะ แบบว่าหนังสือจากสนพ.ส่งมารอบหนึ่งแล้ว แต่ติดปัญหา
เลยมีการตีคืน แล้วทางสนพ.บอกว่าจะส่งกลับมาให้ใหม่
ตอนนี้ไรเตอร์ก็รออยู่เหมือนกันคะ...
ได้รับเมื่อไหร่ จะส่งให้ในเร็ววันนะคะ 

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

เพลิงรักร้อน ซ่อนรักร้าย ตอนที่ 2 ร้อยเล่ห์ มารยา

ตอนที่ 2
ร้อยเล่ห์ มารยา
ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวเคลื่อนไหวคลึงเคล้นเวียนวนสะกิดเกสรดอกไม้สลับลากไล้สอดแทรกไปภายในโถรังผึ้งระอุร้อนอย่างช้าๆ เพียงแค่ได้พานพบกับเยื่อใยบางๆ ที่บ่งบอกว่าสาวเจ้ายังไม่เคยถูกภมรตัวใดบุกรุกให้มีราคีคาว ชายหนุ่มถึงกับยิ้มหน้าระรื่นอิ่มเอมเปรมฤทัยที่ได้รับรู้ ปลายนิ้วยาวใหญ่ตวัดไล้อย่างอ่อนโยนให้สมกับความจริงที่ได้รับรู้ ขยับเคลื่อนไหวให้ความสุขแก่เวฬุกาอย่างหนักหน่วงแต่คงความอ่อนโยนไว้ทุกครั้ง
“คุณ...ดะ...ได้โปรด...” ลูกไฟร้อนผ่าวไหววูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สะโพกกลมกลึงสะบัดส่ายยามที่ความร้อนผ่าวมันเคลื่อนไหวอยู่ในเรือนกายเธออยากหลีกหนีไป แต่พอมันห่างหายไปเหมือนกับความอบอุ่นจะจางหายไปด้วยเลยต้องรีบผวาตามติดอย่างคนควบคุมตัวเองไม่ได้ ริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มทาบจุมพิตไปบนวงหน้าแข็งกระด้าง บดเบียดกับกลีบปากหนาร้อนผ่าว อ้อนวอนขอให้ชายหนุ่มช่วยคลายความทรมานระคนสุขสมนี่เสียงที
“ต้องการอะไรละกระต่ายน้อย อย่างนี้ไหมสาวน้อย” ถามเสียงนุ่มทุ้มและแหบพร่า เคลื่อนไหวปลายนิ้วปลุกเร้าความต้องการให้เวฬุกาจนสาวน้อยถึงกับหายใจรัวเร็วและถี่กระชั้นขึ้น ริมฝีปากหนาคลึงเคล้นทาบทับเพราะต้องการสะกดกลั้นเสียงร้องของอีกฝ่ายยามที่เขาทำให้เธอนั้นรับรู้ถึงความสุขจนแทบจะสำลัก
เรือนกายสาวที่ตอบรับอยู่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหายใจแบบติดๆ ขัดๆ ไม่ใช่น้อย เพราะความหิวกระหายที่มันลุกโชนเหมือนกับเปลวไฟที่มันกำลังลุกไหม้จนเขาเองก็เกือบจะระงับเอาไว้ไม่ได้ เบาๆ หน่อยซิกระต่ายน้อย เดี๋ยวฉันทนไม่ไหว ปลอกลอกหนักกระต่ายกัดกินเธอตรงนี้แล้วเธอจะแย่เอาได้นะ
กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มตอบนูนขึ้นสันยามที่ต้องระงับอารมณ์ผ่อนลมหายใจออกจากปอดช้าๆ ถึงเขาจะปรารถนาในกายสาวมากเพียงใดก็จำต้องข่มกลั้นเอาไว้จนเส้นเอ็นถึงกับผุดตามร่างกาย ลมหายใจหอบแรงและเร็วจนกล้ามเนื้อไหวกระเพื่อม แต่ยังไม่หยุดมือที่ปลุกเร้าให้หญิงสาวคุ้นเคยกับสัมผัสที่เขามอบให้และตักตวงกลับคืน
“คะ...คะ...” เวฬุกาไม่รู้หรอกว่าตัวเองตอบอะไรไป เพราะตอนนี้ในสมองขาวโพลน ศีรษะทุยสะบัดส่ายเบาๆ อย่างคนที่สติไม่อยู่กับตัวจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงแหบพร่าที่ดังอยู่บนผิวกายด้วยตอนนี้ชุดที่เธอสวมใส่มันก็ถอยร่นลงไปให้ชายหนุ่มได้เห็นผิวกายแท้ๆ ขาวนวลเนียนผุดผาดในกรวยผ้าลูกไม้สีหวานบางเบาจนปกปิดสิ่งได้ไม่มิดนั้นเรียกชื่อเธออย่างถูกต้อง
“ช่วย...ช่วยกระต่ายด้วย” ลมหายใจหอบแรงเร็ว สะโพกกลมกลึงขยับสะบัดส่ายตามติดมือใหญ่ที่มันกำลังทำให้เธอสยิวซ่านวาบหวิวลอยละล่องไปในท้องฟ้าสีคราม ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้ง สองมือโอบรัดรอบกายใหญ่สอดแทรกปลายนิ้วพัวพันกับเส้นผมหนานุ่ม กดรั้งให้ศีรษะทุยแนบชิดกับทับทิมผลน้อยที่มันผลิบานอยู่ในอุ้งปากหนาร้อนผ่าวที่ดูดดื่มความหวานผ่านเนื้อผ้าบางเบา
เสียงหวานที่มันเริ่มหลุดรอดออกจากกลีบปากอวบอิ่มทำให้ชายหนุ่มรู้ว่ากระต่ายน้อยที่ยังไม่เคยมือชายกำลังจะถึงฝั่งปรารถนาเบื้องต้นที่เขาจัดมอบให้เป็นของขวัญชุดเล็กการได้พบเจอตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิดสนิทแนบ จากที่เคยได้แต่เห็นผ่านรูปและมองเห็นเพียงแค่ไกลๆ ริมฝีปากหนาร้อนขบเคลื่อนไปประทับจุมพิตหวานแผดร้อนปลุกเร้าอารมณ์กระต่ายน้อยให้กระเจิดกระเจิงพอๆ กับการเคลื่อนไหวทางร่างกายที่บางเบาเนินนาบ ก่อนจะหนักหน่วงรัวเร็วและถี่กระชั้นขึ้น
เวฬุกาสั่นสะท้านด้วยเพลิงไฟที่มันวิ่งไหลจากศีรษะจรดปลายเท้า สองมือจิกไปบนแผ่นหลังกว้าง ขยับกายที่มันเบาหวิวเหมือนกับขนนกลอยไปตามกระแสลมแรง ก่อนจะแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกับความอุ่นวาบที่มันไหลออกบางส่วนของส่วนลี้ลับที่ตอนนี้มีคนบุกรุกและจับต้องอย่างเป็นเจ้าของ เรือนกายกลมกลึงอ่อนระทวยเอนอิงกายใหญ่ ลมหายใจหอบสะท้านจนปทุมถันกระเพื่อมไหว
แขนใหญ่ข้างหนึ่งโอบรัดกายกลมกลึงอีกมือก็หยิบจับเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้เข้าที่เข้าทาง แม้จะไม่ประสาเพลิงสวาทระหว่างชายหญิง แต่ว่าเวฬุกาก็ร้อนแรงจนเขาคิดว่าถ้าหากได้ไปนอนบนเตียงนอนเขาคงจะได้รับแต่ความสุขจนลืมวันลืมคืนเลยทีเดียวแล้วมันก็ไม่นานนี้ด้วยที่เขาจะได้ย่ำยีหญิงสาวบนเตียงนอนก่อนส่งสภาพยับเยินกลับให้ผู้เป็นพ่อที่รักลูกดุจดังดวงตาดวงใจต้องเจ็บจนกระอักเลือด
“ป่านนี้เพื่อนเธอคงจะสงสัยแล้วนะกระต่าย เธอหายไปไหนนานจังเลย” กระซิบเสียงแหบพร่า ริมฝีปากหนาขบกัดหลังหูสลับสอดแทรกปลายลิ้นในช่องหูเล็ก มือใหญ่โอบรัดรอบกายนุ่มนิ่มกลมกลึง ลากไล้จับต้องไปทั่วกายกลมกลึงอย่างไม่ยอมหยุดนิ่ง
“อ๋อ...อย่าลืมเข้าห้องน้ำแล้วดูตัวเองก่อนนะกระต่ายน้อย เพราะว่าสภาพของเธอในตอนนี้นะ...”
ดวงตาคมกริบสีสนิมไล่มองจากริมฝีปากอวบอิ่มเป็นสีแดงสด ลงไปถึงสองก้อนเนื้อที่มันไหวกระเพื่อมอย่างน่ามองเป็นที่สุด เรื่อยลงไปถึงเนินดอกไม้สาวที่ถึงจะมีผ้าเนื้อนิ่มบางเบาปกปิดอยู่แต่เพราะความที่มันมีธารน้ำแห่งความปรารถนาเกาะซึมอยู่จนเขากระหายอยากลิ้มลองรสชาติดอกไม้แรกแย้มผลิบานนี่เหลือเกิน
สายตาคมกริบต้องรีบตวัดไล่กลับขึ้นมาทรวงอกอวบอิ่มแทนแล้วเขาก็ไม่มองมันเปล่าด้วยๆ ฝ่ามือใหญ่ช้อนเต้าใหญ่อวบอิ่ม ลากไล้ปลายนิ้วเวียนวนรอบป้านบัวครัดเครียด “เพื่อนเธอมองออกแล้วเดาออกแน่เลย เธอหายไปมีอะไรกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ มานะ”
คำพูดดูถูกเหยียดหยามจากอีกฝ่ายทำให้เวฬุกาที่หลงระเริงในกองไฟพิศวาสสามารถดึงสติกลับคืนมาได้อย่างเร็ว แม้กายจะยังอ่อนระทวยแต่เธอก็เร่งฝืนมันอย่าง สองมือเล็กยกขึ้นปัดมือใหญ่และดันกายแข็งแกร่งให้ออกห่างแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมง่ายๆ
ไอ้บ้านี่เป็นใคร มาทำกับเธออย่างกับผู้หญิงข้างถนน แล้วยังจะมาดูถูกเหยียดหยามกันอีกริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะฮ้อเลือด พวงแก้มนุ่มแดงปลั่งไม่ใช่ด้วยความอายแต่เป็นความโกรธที่มันหวี่ขึ้น พอๆ กับประกายในดวงตากลมโตที่แดงจัดจ้าน
“ปล่อย!!!!
“หืม...อะไรนะ” ได้ยินชัดๆ เต็มสองหูนั่นแหละ แต่ว่าอยากจะทำไขสือ อยากดูหน้าว่าเวฬุกาจะแก้เกมส์นี้ยังไง
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นสูงและเกือบจะฝาดลงบนวงหน้าคร้ามแกร่งและดุกร้าวด้วยความโกรธที่มันพร้อมจะทำร้ายคนปากเสียเหมือนกับเพาะเลี้ยงสุนัขไว้เป็นฟาร์มต้องเจ็บ แต่กลับต้องหยุดชะงักเพราะน้ำเสียงที่จะว่ารื่นเริงก็ไม่ใช่จะเกรี้ยวกราดก็ไม่เชิง
คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นสูง เบะหน้า ผู้หญิงไม่ชอบใจไม่พอใจ ถ้าไม่กรีดร้องเหมือนคนบ้าก็เงื้อมมือขึ้นตบ“ถ้าเธอตบฉันอีกครั้งนะกระต่ายน้อย ไอ้ที่เกิดเมื่อครู่นะมันจะกลับมาอีก และความนี้ฉันไม่รับร้องด้วยว่าจะหยุดตัวเองให้ไม่นอนกับเธอที่ตรงนี้ได้หรือเปล่า” พูดหน้าตาน้ำเสียงไร้อารมณ์ แต่พร้อมที่จะเอาจริงทุกคำที่ออกไป
“ไอ้...ไอ้คนบ้า ไอ้คนโรคจิต” ไม่รู้ว่าจะเอาคืนไอ้ผู้ชายบ้าตรงหน้าไงดี ตบไปตัวเธอก็มีแต่เสียทีพลาดท่าให้ลวนลามอีก กายโปร่งบางสั่นเทิ้มด้วยความหงุดหงิด โกรธกรุ่นที่มันอัดแน่นอยู่ในทรวงแต่ไม่สามารถเอาคืนอีกฝ่ายได้ เพราะรับรู้ด้วยสัญชาติญาณว่าไอ้โรคจิตตรงหน้าพูดจริงทำจริง แล้วเธอก็ดันไม่สามารถรับมือกับไอ้อารมณ์บ้าๆ ที่มันลามเลียอยู่ทั่วร่างกายได้
“แหม...ตอนนี้ละพูดไม่เพราะเลย แต่เมื่อกี้นะกลับอ้อนวอนให้ทำอะไรได้ ผู้หญิงนี่นะเปลี่ยนอารมณ์เร็วจังเลย”
ประกายในดวงตาคมกริบสีสนิมจะเป็นประกายเหมือนกับยิ้มแต่ถ้ามองให้ชัดเจนมันคือความร้อนแรงของพายุอารมณ์แห่งความโกรธและแค้นที่มีต่อคนในตระกูลพันธุ์นุรักษ์ที่จอห์นสันบอกได้เลยว่าไม่ใครก็ใครก็ตายกันไปข้างหนึ่ง แล้วเขาก็จะทำทุกทางให้ไอ้ผู้ชายคนนั้น...เพทาย พันธ์นุรักษ์เจ็บจนกระอักเลือดและตายอย่างทรมานที่สุด ให้สาสมกับที่มันทำกับครอบครัวของเขา
“แต่ไม่เป็นไร ถือว่าอนุโลมกันได้ เพราะเธอดันหวานและเร่าร้อน ทำให้ฉันพอใจ” สองมือใหญ่สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง รอยยิ้มหยามเหยียดผุดขึ้นบนวงหน้าคร้ามแกร่งกระด้าง นัยน์ตาสีสนิมกวาดมองไปทั่วเรือนกายกลมกลึงอย่างโลมเลีย
“เสียดายนะที่ฉันได้แค่แตะต้อง ไม่ได้เห็นร่างเธอชัดๆ กระต่ายน้อย แต่ไม่เป็นไร คราวหน้าฉันจะทำมันทั้งคู่ดีไหมสาวน้อย แล้วฉันก็คิดว่าไม่นานนี้ด้วยที่ฉันจะได้ทำอย่างนั้น”
“ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้า ไม่มีทางที่ฉันจะให้แกทำอย่างนั้นกับฉันอีก ไอ้...ไอ้บ้า...”
เวฬุกายืนอาละวาดฟาดงวงฟาดงาอยู่คนเดียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดมองตามแผ่นหลังไอ้โรคจิตเดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่มันเป็นเหมือนกับปีศาจร้ายซึ่งแทรกซึมเข้าไปเกาะอยู่ในสมองและหัวใจ ได้แต่ภาวนาว่าวลีสุดท้ายที่ชายหนุ่มพูดมันจะไม่มีทางเป็นจริงๆ ใช่...มันไม่มีทางเป็นไปได้เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอจะเข้าพิธีวิวาห์กับชายหนุ่มนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่มาแรง
เชื่อว่าอติคุปต์จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำอะไรเธอได้เป็นแน่ คิดได้แบบนั้นเวฬุการู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักอติคุปต์เหมือนกับคนรักที่พร้อมจะร่วมชีวิตไปจนแก่เฒ่าแต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เกลียดชายหนุ่ม ด้วยอีกฝ่ายทำตัวเป็นเพื่อนและพี่ทำให้เธอรู้สึกสนิทและกล้าที่จะพูดคุยได้ทุกเรื่อง

“นั่นใช่ไหมพี่ลูกแก้ว ผู้ชายคนนั้น” การะเกดเอ่ยถามพี่สาว รีบเก็บมือเก็บไม้ที่กำลังยกขึ้นชี้ให้กลับเข้าที่เข้าทางแล้วเปลี่ยนเป็นการใช้ใบหน้านวลผ่องของตัวเองบุ้ยใบ้ตามไปแทนอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจว่าชายคนที่พี่สาวจำต้องใช้เสน่ห์มารยาหญิงยั่วยวนนั้นคือชายหนุ่มคนที่กำลังให้การต้อนรับนางแบบสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความสนใจจากหนุ่มๆ หลายคนเพราะความที่เธอคนนั้นหุ่นสะบึม อวบอิ่มไปด้วยเนื้อนมไข่
“อือ...ใช่ ลูกเกดถามทำไม” แก้วกาญจนาถามกลับอย่างไร้อารมณ์ ทอดสายตามองไปยังผู้ชายร่างสูงใหญ่อย่างคนที่กำลังคิดหนัก แค่ลักษณะรูปกายภายนอกที่มันดูสมาร์ต เข้มแข็งและห้าวหาญ แม้หน้าตาจะดูเฉยเมยไม่ยินดียินร้ายสิ่งใด แต่ก็ออกเค้าดูดีมีเสน่ห์จนเธอกลัวว่าหัวใจที่มันกำลังอินเลิฟอยู่กับแฟนหนุ่มจะไขว้เขวเผลอตัวไปรักคนไม่ควรจะรักแล้วมันจะแย่เอา ผ่อนลมหายใจออกจากปอดแรงๆ ด้วยความอัดอัด
“แล้วพี่ลูกแก้วจะเริ่มทำตามที่คุณสั่งเมื่อไหร่” ถามกลับไปไม่ใช่เพราะอยากรู้ แต่กำลังคิดจะทำอะไรสักอย่างเป็นการป้องกันพี่สาวเอาไว้ก่อนดีกว่าวัวหายแล้วมาล้อมคอกภายหลัง มันไม่ทันกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้วไม่มีวันกลับคืนกลับกลายเป็นความเสียใจที่ยากจะถอน
การะเกดถอนใจอย่างหนักอก นี่คุณคิดยังไงนะถึงได้ให้แก้วกาญจนาเอาตัวไปล่อเสือล่อตะเข้ ไม่กลัวมันจะจับหักคอกินเสียหรือไง  แค่มองไกลๆ เธอก็รับรู้ถึงรัศมีอันน่ากลัวและเสน่ห์อันเหลือล้น แล้วพี่สาวที่แสนจะอ่อนไหวไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายหรือตัวรอดจากเสือร้ายที่หมายขย้ำแก้วใสได้นะ
“พี่ลูกแก้ว...พี่ลูกแก้วคะ” ถามครั้งแรกไม่มีเสียงตอบกลับมา ร้องเรียกซ้ำก็ยังเงียบเหมือนเป่าสาก จนต้องเรียกซ้ำและยื่นมือไปจับแขนเล็กเรียวเขย่าเบาๆ คนที่ถูกถามถึงได้รู้สึกตัว “เป็นอะไรไปนะพี่ลูกแก้ว มีอะไรหรือเปล่า” ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนมองอย่างจับผิดและคาดคั้น พร้อมกับหงุดหงิดเมื่อคนถูกถามเอาแต่หลบซ่อนหน้าไม่ยอมสบตาด้วย
“มีอะไรเอาไว้ไปคุยที่บ้านดีกว่านะลูกเกด วันนี้พี่เหนื่อย” บอกเสียงอ่อย หลบสายตาน้องสาวที่มองมาอย่างจับผิด...หรือว่าเธอคิดมากไปเอง
“ไม่...” ร่างเล็กอรชนผุดลุกจากที่นั่งอย่างรู้ทัน พี่สาวกำลังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดความจริงกับเธอ แล้วยิ่งหลบหน้าหลบตาอย่างนี้ มีพิรุธชัดๆ
กายกลมกลึงผุดลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง สองมือเท้าสะเอว วงหน้านวลแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดสาวบูดบึ้งและคาดคั้น “ไหนมีอะไรบอกมาให้หมด ห้ามปกปิด ไม่งั้นคืนนี้...อดนอน” ถามอย่างคาดคั้นด้วยรู้ดีว่าถ้าไม่ขู่แม่คนปากหนักไม่ยอมปริปากพูดหรอก สงสัยกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปาก แต่เหอะ...มีหรือที่คนอย่างเธอจะแง้มไม่ได้นะ
“ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ” ตอบกลับเสียงเบาหวิว เมินหน้าหลบสายตาคมกริบที่จ้องราวกับจะมองให้ทะลุถึงเนื้อใน
“พี่ลูกแก้ว!!!
เสียงเรียกที่ดังและเข้มขึ้นทำให้แก้วกาญจนาสะบัดศีรษะอย่างระอิดระอา เธอเป็นพี่หรือน้องกันแน่...เกิดก่อนก็ตั้งสองปีแต่ชีวิตกลับถูกการะเกดเจ้ากี้เจ้าการมาตั้งแต่เด็กๆ ไอ้ครั้นจะไม่ทำก็ไม่ได้อีก เพราะอีกฝ่ายงัดกลยุทธ์มาสาดใส่เธอเต็มที่ ทั้งไม้แข็งที่พอเธอแข็งขึ้นมาบ้างก็มาเล่นไม้อ่อน ที่สุดท้ายแล้วเธอนั่นแหละเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับไอ้คำพูดที่สั่นเครือ
“ก็พี่ลูกแก้วนะบอบบางและอ่อนแอ แล้วลูกเกดรักพี่ลูกแก้วนี่น่า แล้วมันผิดด้วยหรือคะที่น้องสาวจะดูแลพี่สาวนะ” และสองแขนเล็กเรียวที่โอบกอดรอบกายอย่างหวงแหนและรักใคร่ พร้อมปกป้องคุ้มภัยอย่างไม่หวาดหวั่น
ตอนแรกๆ ก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะแต่ช่วงหลังๆ ตั้งแต่โตเป็นสาวมา การะเกดดูแลเธอยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก รินไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แม้จะมีแฟน...ก็เป็นคนที่การะเกดนั่นแหละ จากคนที่คิดว่าดีที่สุดในสายตา โชคดีว่าเป็นคนที่เธอเองก็พึงพอใจอยู่ก่อนแล้วเลยไม่มีปัญหา
แล้วมันก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากคนที่เธอพึงใจและอยากที่จะร่วมชีวิตด้วยเป็นคนที่น้องสาวไม่ชอบมันจะเกิดอะไรขึ้น กว่าที่เธอกับเขาคนนั้นจะต้องต่อสู้เอาชนะหัวใจน้องสาวที่เห็นอ่อนโอนผ่อนตามและเอาใจใส่คนนั้นคนนี้นะ บทจะใจแข็งก็แข็งยิ่งกว่าหินทีเดียว
“หือ...” ขานรับเสียงเบาหวิวอย่างกับว่าไม่สนใจ แต่ภายในใจนะเริ่มหวาดหวั่นเสียแล้ว มาเสียงอย่างนี้เดี๋ยวเชื่อเถอะ จะต้องมีลูกล่อลูกชนตามมีอีกเป็นขบวนเชียวละ ซื้อขนมกินได้เลย
“จะบอกหรือไม่บอก ไม่รักลูกเกดแล้วใช่ไหม มีอะไรถึงได้ปิดปังกันแบบนี้นะ” จากเสียงที่แข็งกระด้างอยู่เมื่อครู่กลับกลายเป็นกระเง้ากระงอนระคนน้อยใจ ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ วงหน้านวลเนียนที่เคยเริงรื่นกลับงอคว่ำเชิดหนีไปอีกฝั่ง แต่ยังส่งคำพูดเปรยๆ มาอีก “ใช่ซี...ลูกเกดมันไม่ดีนี่ เป็นน้องสาวที่ไม่ได้เรื่อง พี่ลูกแก้วถึงไม่รัก ไม่ไว้ใจ”
เอาละซิ มามุกนี้อีกแล้ว เดี๋ยวน้ำตาก็ไหลตามมาราวกับสั่งได้ แก้วกาญจนาส่ายศีรษะอย่างระอาและยอมแพ้ ก็กว่าจะทำให้คนขี้งอนหายโกรธนะนานโขอยู่นี่น่า แล้วเธอก็ยังไม่อยากที่จะหาเรื่องให้ฝ่ายงอนแล้วต้องงอในตอนนี้ด้วย เพราะมีเรื่องอื่นให้หนักใจกว่าเป็นเหล่าเท่า อย่างเช่นผู้ชายคนนั้นไง...
อติคุปต์  เวชชาญกิจ คนที่เธอจะต้องทำให้เขาห่างจากผู้หญิงอีกคน ศีรษะทุยก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วคิดไม่ตกว่าจะเปลี่ยนจากคนที่บอบบางทำอะไรไม่ค่อยเป็นเพราะถูกการะเกดแย่งไปทำหมด ให้กลายเป็นสาวน้อยร้อยเล่มเกวียนพันมารยายั่วยวนผู้ชายให้หลงรักแล้วค่อยทิ้งภายหลังได้หรือเปล่า...มันนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ถ้าเป็นการะเกดก็ว่าไปอย่าง
“ลูกเกด...”
“ไม่ต้องมาเรียกเลย ตัวไม่รักเขาแล้วนิ ใช่ซิ เขามันไม่น่ารัก ไม่เป็นผู้หญิง ทำงานบ้านไม่เก่ง ซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่ง...” อีกนับสิบข้อที่การะเกดยกข้อเสียของตัวเองขึ้นมาพูด กายเล็กสะบัดหนีมือพี่สาวที่ยื่นมาจับอย่างบอกให้รู้ว่ากำลังงอน ง้อดีๆ นะ ไม่งั้นมีเรื่องยาวกว่านี้แน่
“สงสัยลูกเกดคงไม่อยากฟังแล้วละว่าคุณให้พี่ทำอะไร ถึงได้งอนเป็นหมาหงอยแบบนี้ อืม...ก็ดีเหมือนกัน พี่จะได้ไม่ต้องเล่า” เอาซิ...เธอเองก็มีลูกเล่นเหมือนกันนิ แล้วแก้มนวลผ่องก็แย้มยิ้มเมื่อเห็นคนที่แสร้งงอนเมื่อครู่หันมางอนง้อเธอกลับ
“โอ๋...พี่ลูกแก้วจ๋า ไม่งอนน้องลูกเกดนะจ๊ะ น้องลูกเกดขอโทษ ก็เค้าอยากช่วยพี่นี่จ๊ะ” การะเกดถลาพาร่างเล็กของตัวเองมานั่งใกล้ชิดพี่สาว แล้วก็เอาใบหน้าถูกไถกับไหล่มนของอีกฝ่าย ทำราวกับว่าเธอเป็นแมวน้อยที่กำลังออดอ้อนคลอเคลียเจ้าของ
“บอกน้องมาเถอะจ๊ะ เผื่อน้องมีทางช่วยนะ” เงยหน้าขึ้นไปนิด ส่งสายตาออดอ้อนหน่อยๆ แถมกระพริบแพขนตายาวงอนอย่างที่คิดว่าน่ารักแต่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่นะดันเป็นตัวตลกให้พี่สาวหัวเราะพรืดออกมาเสียงงั้น “หะ...พี่ลูกแก้วนะ หัวเราะเขาอีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ...” มือเล็กยกขึ้นชี้หน้าพี่สาว
“จ้าๆ ไม่หัวเราะแล้ว” แก้วกาญจนาข่มกลั้นเสียงหัวเราะที่มันพยายามจะหลุดออกมาไว้อย่างสุดความสามารถ  แม้อยู่ในอารมณ์โกรธและเคร่งเครียดขนาดไหน แต่พอได้อยู่กับการะเกดเพียงไม่ถึงห้านาทีเท่านั้นเธอก็หัวเราะอย่างมีความสุขได้
“เล่ามาเร็วๆ อยากรู้” เขย่าตัวพี่สาวให้บอกคำสั่งของคุณให้เธอได้รู้อย่างละเอียด
แก้วกาญจนาเล่าด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอันเคร่งเครียด ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกร้านอาหารที่เธอและน้องสาวใช้ซุ่มดูอติคุปต์อย่างไร้จุดหมายปลายทาง
การะเกดฟังเรื่องจากปากพี่สาวด้วยวงหน้านวลเนียนสวยที่มันขึงเครียดอยากหนักอกหนักใจ ดวงตากลมโตกรอกไปกรอกมาอย่างครุ่นคิดตามไปด้วย
“เห้ย!!!” มือเล็กยกขึ้นตบอกพร้อมเสียงร้องอุทานตามมาเป็นระยะ สลับฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันอย่างสวยงามขบกัดจนมีเสียงดังกรอดๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากพี่สาว
“คุณวางแผนให้พี่ตามไป...(ปล้ำ)” เกือบจะหลุดคำพูดหยาบคายที่พี่สาวไม่ชอบออกมาแล้ว ดีว่ายกมือปิดปากเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นโดนตีแขนแดงแน่ ศีรษะทุยสะบัดส่ายแรงๆ มือเล็กยกขึ้นโบกสะบัดส่ายไปมาตรงหน้าพี่สาว “เดี๋ยวนะคะ...พี่ลูกแก้วบอกว่าคุณให้พี่ตามผู้ชายคนนั้นอีกสามวันข้างหน้า”
แก้วกาญจนาพยักหน้ารับ เธอก็พูดออกจะชัดเจน แล้วการะเกดฟังอะไรขาดตกไปหรือเปล่า ถึงได้มีท่าทางอาการแปลกประหลาด
ร่างเล็กลุกขึ้นเดินไปเดินมา ฟันขาวสะอาดขบกัดปลายนิ้วยาวเรียวสลับมองหน้าพี่สาวอย่างกำลังคิด ก็เธอเกิดอาการงงเหมือนถูกค้อนทุบศีรษะนี่น่า ก็อีกสามวันคุณก็รู้ว่ามันเป็นวันอะไร เอ๊ะ...หรือว่าคุณจะลืม แล้วพี่สาวเธอก็คงจะลืมด้วยใช่ไหมนี่?
มือเล็กข้างหนึ่งสอดไขว้ระหว่างอก ทาบอีกมือไว้ด้านบนและขยับโยกไปมา “เดี๋ยวนะคะ...อีกสามวัน อืม...นั่นมันวันเดียวกับวันเกิดของพี่อัครนี่คะ” หญิงสาวหมายถึงอัครรัช แฟนพี่สาวที่มีแพลนจะแต่งงานกันอีกภายในหกเดือนข้างหน้า “แล้วไหนพี่บอกว่าจะฉลองกัน...แล้วคุณบอกให้พี่ตามไป...ตามไปที่ไหน ไปยังไง ไหนพี่ลูกแก้วเคลียร์ให้มันชัดๆ หน่อยซิคะ ลูกเกดยังไม่เข้าใจ”
แต่ยังไม่ทันที่แก้วกาญจนาจะได้เอ่ยพูดสิ่งใดการะเกดก็โพล่งขึ้นมาอย่างกับเพิ่งจะนึกได้ “นี่คุณให้พี่ทำถึงอย่างนี้เลยหรือคะ แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือไงว่าถ้าหากพลาดพลั้งขึ้นมาแล้วพี่ถูกไอ้บ้านั่นปล้ำเอานะ คุณบ้าไปแล้วแน่เลยที่ให้พี่ทำถึงขนาดนี้ คอยดูนะลูกเกดจะไปอาละวาดใส่คุณ” เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด แม้จะให้ความเคารพนับถือคนที่ถูกเอ่ยถึง แต่ได้ยินแบบนี้ก็ทำเอาการะเกดอดที่จะตำหนิไม่ได้
“ลูกเกด” แก้วกาญจนาเรียกเตือนน้องสาว คุณมีบุญคุณกับเธอและน้องสาวมาก จนไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิตเธอจะชดใช้ให้หมดหรือเปล่า แค่คุณให้ไปทำงานแค่นี้แม้จะเสี่ยงแค่ไหนเธอก็พร้อมที่จะทำ
“ค่า...ลูกเกดเข้าใจค่า” ปากบอกว่าเข้าใจ รู้ว่าคุณแค้นมาก จนกระทั่งยามค่ำคืนก็ไม่เคยได้นอนหลับอย่างเป็นสุขเหมือนกับคนอื่นเขา บ่อยครั้งที่เธอลุกมาเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ จะเห็นห้องของคุณยังเปิดไฟสว่างโร่ เงาร่างใหญ่เดินวนไปเวียนมาภายในห้อง เพราะอย่างนี้คุณจึงยอมทำทุกทางเหมือนกันและคราวนี้คงเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องช่วยเหลือทั้งพี่สาวและคุณให้ทำทุกอย่างได้สำเร็จลุล่วงไป แต่เรื่องบางเรื่องมันก็สุดวิสัยที่เธอจะทำใจยอมรับมันนี่น่า
กลีบปากอวบอิ่มขบกัดจนแบนราบเรียบ คิดในมุมกลับกันหากแม้ว่าเป็นเธอที่เข้ายั่วยวนป่วนชีวิตปกติสุขของผู้ชายคนนั้น แล้วได้รับผลอะไรตอบกลับมาไม่ว่าจะดีหรือร้าย...ให้คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ แล้วก็ไม่พ้นต้องเสียใจเสียน้ำตาเพราะว่าเสียตัวและเสียหัวใจ ก็อีกฝ่ายนะเสน่ห์ล้นเหลือขนาดนั้น แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีอกกว้างๆ ของพี่สาวให้พักพิงคอยปลอบโยนเป็นกำลังใจนี่น่า แต่ถ้าเป็นแก้วกาญจนา...ถ้าหากต้องเสียงสิ่งสำคัญให้กับผู้ชายที่ไม่ใช่คนรักคงเป็นเรื่องที่ทุกข์มาก
รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของวงหน้านวลผ่อง เอาละวะ...งานนี้จะช้าม้าวัวควายก็ชั่งเหอะ มันต้องฝีมือเธอคนเดียวเท่านั้นถึงจะสู้กับผู้ชายคนนั้นได้ มือเล็กกำหมัดขยับเบาๆ อย่างหมายมั่นปั้นมือเต็มที่พอๆ กับประกายในตากลมโตที่มันวาววับขึ้นชั่วแวบหนึ่งโดยที่แก้วกาญจนาไม่ทันจะได้เห็น
แต่ก่อนอื่น...การจะออกรบมันต้องรู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งมันถึงจะชนะทั้งร้อยครั้ง
“พี่ลูกแก้วนั่งนี่เดี๋ยวนะ ลูกเกดขอไปทำอะไรหน่อย” เมื่อเห็นว่าเหยื่อกำลังลุกขึ้นเดินไปส่งแม่นางแบบสาวที่ก็อ่อยเหยื่อสุดฤทธิ์เหมือนกัน แต่พ่อดันไม่สนเสียนี่ หรือว่าจะเป็นเกย์หว่า...แต่ไม่นะ ถ้าเป็นเกย์ก็ต้องไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงซิ คุณบอกว่าอีตานี่กำลังจะแต่งงานอยู่ไม่กี่วันแล้วนี่น่า แต่ชั่งเถอะเขาจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเธอเสียหน่อยนี่น่า เธอมีหน้าที่อย่างเดียวกันให้อยู่ห่างจากผู้หญิงที่เป็นคู่หมั้นจนกว่าคุณจะพอใจเป็นพอ
“ไปไหนนะลูกเกด” แต่เธอคงจะถามไม่ทันแล้วเพราะร่างเล็กบอบบางวิ่งลิ่วๆ ไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างหนักอก ไม่รู้ว่าน้องสาวคิดจะเล่นอะไรพิเรนทร์ๆ อีกหรือเปล่า