หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

เพลิงรักร้อน ซ่อนรักร้าย ตอนที่ 2 ร้อยเล่ห์ มารยา

ตอนที่ 2
ร้อยเล่ห์ มารยา
ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวเคลื่อนไหวคลึงเคล้นเวียนวนสะกิดเกสรดอกไม้สลับลากไล้สอดแทรกไปภายในโถรังผึ้งระอุร้อนอย่างช้าๆ เพียงแค่ได้พานพบกับเยื่อใยบางๆ ที่บ่งบอกว่าสาวเจ้ายังไม่เคยถูกภมรตัวใดบุกรุกให้มีราคีคาว ชายหนุ่มถึงกับยิ้มหน้าระรื่นอิ่มเอมเปรมฤทัยที่ได้รับรู้ ปลายนิ้วยาวใหญ่ตวัดไล้อย่างอ่อนโยนให้สมกับความจริงที่ได้รับรู้ ขยับเคลื่อนไหวให้ความสุขแก่เวฬุกาอย่างหนักหน่วงแต่คงความอ่อนโยนไว้ทุกครั้ง
“คุณ...ดะ...ได้โปรด...” ลูกไฟร้อนผ่าวไหววูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สะโพกกลมกลึงสะบัดส่ายยามที่ความร้อนผ่าวมันเคลื่อนไหวอยู่ในเรือนกายเธออยากหลีกหนีไป แต่พอมันห่างหายไปเหมือนกับความอบอุ่นจะจางหายไปด้วยเลยต้องรีบผวาตามติดอย่างคนควบคุมตัวเองไม่ได้ ริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มทาบจุมพิตไปบนวงหน้าแข็งกระด้าง บดเบียดกับกลีบปากหนาร้อนผ่าว อ้อนวอนขอให้ชายหนุ่มช่วยคลายความทรมานระคนสุขสมนี่เสียงที
“ต้องการอะไรละกระต่ายน้อย อย่างนี้ไหมสาวน้อย” ถามเสียงนุ่มทุ้มและแหบพร่า เคลื่อนไหวปลายนิ้วปลุกเร้าความต้องการให้เวฬุกาจนสาวน้อยถึงกับหายใจรัวเร็วและถี่กระชั้นขึ้น ริมฝีปากหนาคลึงเคล้นทาบทับเพราะต้องการสะกดกลั้นเสียงร้องของอีกฝ่ายยามที่เขาทำให้เธอนั้นรับรู้ถึงความสุขจนแทบจะสำลัก
เรือนกายสาวที่ตอบรับอยู่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหายใจแบบติดๆ ขัดๆ ไม่ใช่น้อย เพราะความหิวกระหายที่มันลุกโชนเหมือนกับเปลวไฟที่มันกำลังลุกไหม้จนเขาเองก็เกือบจะระงับเอาไว้ไม่ได้ เบาๆ หน่อยซิกระต่ายน้อย เดี๋ยวฉันทนไม่ไหว ปลอกลอกหนักกระต่ายกัดกินเธอตรงนี้แล้วเธอจะแย่เอาได้นะ
กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มตอบนูนขึ้นสันยามที่ต้องระงับอารมณ์ผ่อนลมหายใจออกจากปอดช้าๆ ถึงเขาจะปรารถนาในกายสาวมากเพียงใดก็จำต้องข่มกลั้นเอาไว้จนเส้นเอ็นถึงกับผุดตามร่างกาย ลมหายใจหอบแรงและเร็วจนกล้ามเนื้อไหวกระเพื่อม แต่ยังไม่หยุดมือที่ปลุกเร้าให้หญิงสาวคุ้นเคยกับสัมผัสที่เขามอบให้และตักตวงกลับคืน
“คะ...คะ...” เวฬุกาไม่รู้หรอกว่าตัวเองตอบอะไรไป เพราะตอนนี้ในสมองขาวโพลน ศีรษะทุยสะบัดส่ายเบาๆ อย่างคนที่สติไม่อยู่กับตัวจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงแหบพร่าที่ดังอยู่บนผิวกายด้วยตอนนี้ชุดที่เธอสวมใส่มันก็ถอยร่นลงไปให้ชายหนุ่มได้เห็นผิวกายแท้ๆ ขาวนวลเนียนผุดผาดในกรวยผ้าลูกไม้สีหวานบางเบาจนปกปิดสิ่งได้ไม่มิดนั้นเรียกชื่อเธออย่างถูกต้อง
“ช่วย...ช่วยกระต่ายด้วย” ลมหายใจหอบแรงเร็ว สะโพกกลมกลึงขยับสะบัดส่ายตามติดมือใหญ่ที่มันกำลังทำให้เธอสยิวซ่านวาบหวิวลอยละล่องไปในท้องฟ้าสีคราม ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้ง สองมือโอบรัดรอบกายใหญ่สอดแทรกปลายนิ้วพัวพันกับเส้นผมหนานุ่ม กดรั้งให้ศีรษะทุยแนบชิดกับทับทิมผลน้อยที่มันผลิบานอยู่ในอุ้งปากหนาร้อนผ่าวที่ดูดดื่มความหวานผ่านเนื้อผ้าบางเบา
เสียงหวานที่มันเริ่มหลุดรอดออกจากกลีบปากอวบอิ่มทำให้ชายหนุ่มรู้ว่ากระต่ายน้อยที่ยังไม่เคยมือชายกำลังจะถึงฝั่งปรารถนาเบื้องต้นที่เขาจัดมอบให้เป็นของขวัญชุดเล็กการได้พบเจอตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิดสนิทแนบ จากที่เคยได้แต่เห็นผ่านรูปและมองเห็นเพียงแค่ไกลๆ ริมฝีปากหนาร้อนขบเคลื่อนไปประทับจุมพิตหวานแผดร้อนปลุกเร้าอารมณ์กระต่ายน้อยให้กระเจิดกระเจิงพอๆ กับการเคลื่อนไหวทางร่างกายที่บางเบาเนินนาบ ก่อนจะหนักหน่วงรัวเร็วและถี่กระชั้นขึ้น
เวฬุกาสั่นสะท้านด้วยเพลิงไฟที่มันวิ่งไหลจากศีรษะจรดปลายเท้า สองมือจิกไปบนแผ่นหลังกว้าง ขยับกายที่มันเบาหวิวเหมือนกับขนนกลอยไปตามกระแสลมแรง ก่อนจะแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกับความอุ่นวาบที่มันไหลออกบางส่วนของส่วนลี้ลับที่ตอนนี้มีคนบุกรุกและจับต้องอย่างเป็นเจ้าของ เรือนกายกลมกลึงอ่อนระทวยเอนอิงกายใหญ่ ลมหายใจหอบสะท้านจนปทุมถันกระเพื่อมไหว
แขนใหญ่ข้างหนึ่งโอบรัดกายกลมกลึงอีกมือก็หยิบจับเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้เข้าที่เข้าทาง แม้จะไม่ประสาเพลิงสวาทระหว่างชายหญิง แต่ว่าเวฬุกาก็ร้อนแรงจนเขาคิดว่าถ้าหากได้ไปนอนบนเตียงนอนเขาคงจะได้รับแต่ความสุขจนลืมวันลืมคืนเลยทีเดียวแล้วมันก็ไม่นานนี้ด้วยที่เขาจะได้ย่ำยีหญิงสาวบนเตียงนอนก่อนส่งสภาพยับเยินกลับให้ผู้เป็นพ่อที่รักลูกดุจดังดวงตาดวงใจต้องเจ็บจนกระอักเลือด
“ป่านนี้เพื่อนเธอคงจะสงสัยแล้วนะกระต่าย เธอหายไปไหนนานจังเลย” กระซิบเสียงแหบพร่า ริมฝีปากหนาขบกัดหลังหูสลับสอดแทรกปลายลิ้นในช่องหูเล็ก มือใหญ่โอบรัดรอบกายนุ่มนิ่มกลมกลึง ลากไล้จับต้องไปทั่วกายกลมกลึงอย่างไม่ยอมหยุดนิ่ง
“อ๋อ...อย่าลืมเข้าห้องน้ำแล้วดูตัวเองก่อนนะกระต่ายน้อย เพราะว่าสภาพของเธอในตอนนี้นะ...”
ดวงตาคมกริบสีสนิมไล่มองจากริมฝีปากอวบอิ่มเป็นสีแดงสด ลงไปถึงสองก้อนเนื้อที่มันไหวกระเพื่อมอย่างน่ามองเป็นที่สุด เรื่อยลงไปถึงเนินดอกไม้สาวที่ถึงจะมีผ้าเนื้อนิ่มบางเบาปกปิดอยู่แต่เพราะความที่มันมีธารน้ำแห่งความปรารถนาเกาะซึมอยู่จนเขากระหายอยากลิ้มลองรสชาติดอกไม้แรกแย้มผลิบานนี่เหลือเกิน
สายตาคมกริบต้องรีบตวัดไล่กลับขึ้นมาทรวงอกอวบอิ่มแทนแล้วเขาก็ไม่มองมันเปล่าด้วยๆ ฝ่ามือใหญ่ช้อนเต้าใหญ่อวบอิ่ม ลากไล้ปลายนิ้วเวียนวนรอบป้านบัวครัดเครียด “เพื่อนเธอมองออกแล้วเดาออกแน่เลย เธอหายไปมีอะไรกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ มานะ”
คำพูดดูถูกเหยียดหยามจากอีกฝ่ายทำให้เวฬุกาที่หลงระเริงในกองไฟพิศวาสสามารถดึงสติกลับคืนมาได้อย่างเร็ว แม้กายจะยังอ่อนระทวยแต่เธอก็เร่งฝืนมันอย่าง สองมือเล็กยกขึ้นปัดมือใหญ่และดันกายแข็งแกร่งให้ออกห่างแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมง่ายๆ
ไอ้บ้านี่เป็นใคร มาทำกับเธออย่างกับผู้หญิงข้างถนน แล้วยังจะมาดูถูกเหยียดหยามกันอีกริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะฮ้อเลือด พวงแก้มนุ่มแดงปลั่งไม่ใช่ด้วยความอายแต่เป็นความโกรธที่มันหวี่ขึ้น พอๆ กับประกายในดวงตากลมโตที่แดงจัดจ้าน
“ปล่อย!!!!
“หืม...อะไรนะ” ได้ยินชัดๆ เต็มสองหูนั่นแหละ แต่ว่าอยากจะทำไขสือ อยากดูหน้าว่าเวฬุกาจะแก้เกมส์นี้ยังไง
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นสูงและเกือบจะฝาดลงบนวงหน้าคร้ามแกร่งและดุกร้าวด้วยความโกรธที่มันพร้อมจะทำร้ายคนปากเสียเหมือนกับเพาะเลี้ยงสุนัขไว้เป็นฟาร์มต้องเจ็บ แต่กลับต้องหยุดชะงักเพราะน้ำเสียงที่จะว่ารื่นเริงก็ไม่ใช่จะเกรี้ยวกราดก็ไม่เชิง
คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นสูง เบะหน้า ผู้หญิงไม่ชอบใจไม่พอใจ ถ้าไม่กรีดร้องเหมือนคนบ้าก็เงื้อมมือขึ้นตบ“ถ้าเธอตบฉันอีกครั้งนะกระต่ายน้อย ไอ้ที่เกิดเมื่อครู่นะมันจะกลับมาอีก และความนี้ฉันไม่รับร้องด้วยว่าจะหยุดตัวเองให้ไม่นอนกับเธอที่ตรงนี้ได้หรือเปล่า” พูดหน้าตาน้ำเสียงไร้อารมณ์ แต่พร้อมที่จะเอาจริงทุกคำที่ออกไป
“ไอ้...ไอ้คนบ้า ไอ้คนโรคจิต” ไม่รู้ว่าจะเอาคืนไอ้ผู้ชายบ้าตรงหน้าไงดี ตบไปตัวเธอก็มีแต่เสียทีพลาดท่าให้ลวนลามอีก กายโปร่งบางสั่นเทิ้มด้วยความหงุดหงิด โกรธกรุ่นที่มันอัดแน่นอยู่ในทรวงแต่ไม่สามารถเอาคืนอีกฝ่ายได้ เพราะรับรู้ด้วยสัญชาติญาณว่าไอ้โรคจิตตรงหน้าพูดจริงทำจริง แล้วเธอก็ดันไม่สามารถรับมือกับไอ้อารมณ์บ้าๆ ที่มันลามเลียอยู่ทั่วร่างกายได้
“แหม...ตอนนี้ละพูดไม่เพราะเลย แต่เมื่อกี้นะกลับอ้อนวอนให้ทำอะไรได้ ผู้หญิงนี่นะเปลี่ยนอารมณ์เร็วจังเลย”
ประกายในดวงตาคมกริบสีสนิมจะเป็นประกายเหมือนกับยิ้มแต่ถ้ามองให้ชัดเจนมันคือความร้อนแรงของพายุอารมณ์แห่งความโกรธและแค้นที่มีต่อคนในตระกูลพันธุ์นุรักษ์ที่จอห์นสันบอกได้เลยว่าไม่ใครก็ใครก็ตายกันไปข้างหนึ่ง แล้วเขาก็จะทำทุกทางให้ไอ้ผู้ชายคนนั้น...เพทาย พันธ์นุรักษ์เจ็บจนกระอักเลือดและตายอย่างทรมานที่สุด ให้สาสมกับที่มันทำกับครอบครัวของเขา
“แต่ไม่เป็นไร ถือว่าอนุโลมกันได้ เพราะเธอดันหวานและเร่าร้อน ทำให้ฉันพอใจ” สองมือใหญ่สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง รอยยิ้มหยามเหยียดผุดขึ้นบนวงหน้าคร้ามแกร่งกระด้าง นัยน์ตาสีสนิมกวาดมองไปทั่วเรือนกายกลมกลึงอย่างโลมเลีย
“เสียดายนะที่ฉันได้แค่แตะต้อง ไม่ได้เห็นร่างเธอชัดๆ กระต่ายน้อย แต่ไม่เป็นไร คราวหน้าฉันจะทำมันทั้งคู่ดีไหมสาวน้อย แล้วฉันก็คิดว่าไม่นานนี้ด้วยที่ฉันจะได้ทำอย่างนั้น”
“ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้า ไม่มีทางที่ฉันจะให้แกทำอย่างนั้นกับฉันอีก ไอ้...ไอ้บ้า...”
เวฬุกายืนอาละวาดฟาดงวงฟาดงาอยู่คนเดียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดมองตามแผ่นหลังไอ้โรคจิตเดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่มันเป็นเหมือนกับปีศาจร้ายซึ่งแทรกซึมเข้าไปเกาะอยู่ในสมองและหัวใจ ได้แต่ภาวนาว่าวลีสุดท้ายที่ชายหนุ่มพูดมันจะไม่มีทางเป็นจริงๆ ใช่...มันไม่มีทางเป็นไปได้เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอจะเข้าพิธีวิวาห์กับชายหนุ่มนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่มาแรง
เชื่อว่าอติคุปต์จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำอะไรเธอได้เป็นแน่ คิดได้แบบนั้นเวฬุการู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักอติคุปต์เหมือนกับคนรักที่พร้อมจะร่วมชีวิตไปจนแก่เฒ่าแต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เกลียดชายหนุ่ม ด้วยอีกฝ่ายทำตัวเป็นเพื่อนและพี่ทำให้เธอรู้สึกสนิทและกล้าที่จะพูดคุยได้ทุกเรื่อง

“นั่นใช่ไหมพี่ลูกแก้ว ผู้ชายคนนั้น” การะเกดเอ่ยถามพี่สาว รีบเก็บมือเก็บไม้ที่กำลังยกขึ้นชี้ให้กลับเข้าที่เข้าทางแล้วเปลี่ยนเป็นการใช้ใบหน้านวลผ่องของตัวเองบุ้ยใบ้ตามไปแทนอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจว่าชายคนที่พี่สาวจำต้องใช้เสน่ห์มารยาหญิงยั่วยวนนั้นคือชายหนุ่มคนที่กำลังให้การต้อนรับนางแบบสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความสนใจจากหนุ่มๆ หลายคนเพราะความที่เธอคนนั้นหุ่นสะบึม อวบอิ่มไปด้วยเนื้อนมไข่
“อือ...ใช่ ลูกเกดถามทำไม” แก้วกาญจนาถามกลับอย่างไร้อารมณ์ ทอดสายตามองไปยังผู้ชายร่างสูงใหญ่อย่างคนที่กำลังคิดหนัก แค่ลักษณะรูปกายภายนอกที่มันดูสมาร์ต เข้มแข็งและห้าวหาญ แม้หน้าตาจะดูเฉยเมยไม่ยินดียินร้ายสิ่งใด แต่ก็ออกเค้าดูดีมีเสน่ห์จนเธอกลัวว่าหัวใจที่มันกำลังอินเลิฟอยู่กับแฟนหนุ่มจะไขว้เขวเผลอตัวไปรักคนไม่ควรจะรักแล้วมันจะแย่เอา ผ่อนลมหายใจออกจากปอดแรงๆ ด้วยความอัดอัด
“แล้วพี่ลูกแก้วจะเริ่มทำตามที่คุณสั่งเมื่อไหร่” ถามกลับไปไม่ใช่เพราะอยากรู้ แต่กำลังคิดจะทำอะไรสักอย่างเป็นการป้องกันพี่สาวเอาไว้ก่อนดีกว่าวัวหายแล้วมาล้อมคอกภายหลัง มันไม่ทันกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้วไม่มีวันกลับคืนกลับกลายเป็นความเสียใจที่ยากจะถอน
การะเกดถอนใจอย่างหนักอก นี่คุณคิดยังไงนะถึงได้ให้แก้วกาญจนาเอาตัวไปล่อเสือล่อตะเข้ ไม่กลัวมันจะจับหักคอกินเสียหรือไง  แค่มองไกลๆ เธอก็รับรู้ถึงรัศมีอันน่ากลัวและเสน่ห์อันเหลือล้น แล้วพี่สาวที่แสนจะอ่อนไหวไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายหรือตัวรอดจากเสือร้ายที่หมายขย้ำแก้วใสได้นะ
“พี่ลูกแก้ว...พี่ลูกแก้วคะ” ถามครั้งแรกไม่มีเสียงตอบกลับมา ร้องเรียกซ้ำก็ยังเงียบเหมือนเป่าสาก จนต้องเรียกซ้ำและยื่นมือไปจับแขนเล็กเรียวเขย่าเบาๆ คนที่ถูกถามถึงได้รู้สึกตัว “เป็นอะไรไปนะพี่ลูกแก้ว มีอะไรหรือเปล่า” ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนมองอย่างจับผิดและคาดคั้น พร้อมกับหงุดหงิดเมื่อคนถูกถามเอาแต่หลบซ่อนหน้าไม่ยอมสบตาด้วย
“มีอะไรเอาไว้ไปคุยที่บ้านดีกว่านะลูกเกด วันนี้พี่เหนื่อย” บอกเสียงอ่อย หลบสายตาน้องสาวที่มองมาอย่างจับผิด...หรือว่าเธอคิดมากไปเอง
“ไม่...” ร่างเล็กอรชนผุดลุกจากที่นั่งอย่างรู้ทัน พี่สาวกำลังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดความจริงกับเธอ แล้วยิ่งหลบหน้าหลบตาอย่างนี้ มีพิรุธชัดๆ
กายกลมกลึงผุดลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง สองมือเท้าสะเอว วงหน้านวลแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดสาวบูดบึ้งและคาดคั้น “ไหนมีอะไรบอกมาให้หมด ห้ามปกปิด ไม่งั้นคืนนี้...อดนอน” ถามอย่างคาดคั้นด้วยรู้ดีว่าถ้าไม่ขู่แม่คนปากหนักไม่ยอมปริปากพูดหรอก สงสัยกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปาก แต่เหอะ...มีหรือที่คนอย่างเธอจะแง้มไม่ได้นะ
“ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ” ตอบกลับเสียงเบาหวิว เมินหน้าหลบสายตาคมกริบที่จ้องราวกับจะมองให้ทะลุถึงเนื้อใน
“พี่ลูกแก้ว!!!
เสียงเรียกที่ดังและเข้มขึ้นทำให้แก้วกาญจนาสะบัดศีรษะอย่างระอิดระอา เธอเป็นพี่หรือน้องกันแน่...เกิดก่อนก็ตั้งสองปีแต่ชีวิตกลับถูกการะเกดเจ้ากี้เจ้าการมาตั้งแต่เด็กๆ ไอ้ครั้นจะไม่ทำก็ไม่ได้อีก เพราะอีกฝ่ายงัดกลยุทธ์มาสาดใส่เธอเต็มที่ ทั้งไม้แข็งที่พอเธอแข็งขึ้นมาบ้างก็มาเล่นไม้อ่อน ที่สุดท้ายแล้วเธอนั่นแหละเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับไอ้คำพูดที่สั่นเครือ
“ก็พี่ลูกแก้วนะบอบบางและอ่อนแอ แล้วลูกเกดรักพี่ลูกแก้วนี่น่า แล้วมันผิดด้วยหรือคะที่น้องสาวจะดูแลพี่สาวนะ” และสองแขนเล็กเรียวที่โอบกอดรอบกายอย่างหวงแหนและรักใคร่ พร้อมปกป้องคุ้มภัยอย่างไม่หวาดหวั่น
ตอนแรกๆ ก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะแต่ช่วงหลังๆ ตั้งแต่โตเป็นสาวมา การะเกดดูแลเธอยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก รินไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แม้จะมีแฟน...ก็เป็นคนที่การะเกดนั่นแหละ จากคนที่คิดว่าดีที่สุดในสายตา โชคดีว่าเป็นคนที่เธอเองก็พึงพอใจอยู่ก่อนแล้วเลยไม่มีปัญหา
แล้วมันก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากคนที่เธอพึงใจและอยากที่จะร่วมชีวิตด้วยเป็นคนที่น้องสาวไม่ชอบมันจะเกิดอะไรขึ้น กว่าที่เธอกับเขาคนนั้นจะต้องต่อสู้เอาชนะหัวใจน้องสาวที่เห็นอ่อนโอนผ่อนตามและเอาใจใส่คนนั้นคนนี้นะ บทจะใจแข็งก็แข็งยิ่งกว่าหินทีเดียว
“หือ...” ขานรับเสียงเบาหวิวอย่างกับว่าไม่สนใจ แต่ภายในใจนะเริ่มหวาดหวั่นเสียแล้ว มาเสียงอย่างนี้เดี๋ยวเชื่อเถอะ จะต้องมีลูกล่อลูกชนตามมีอีกเป็นขบวนเชียวละ ซื้อขนมกินได้เลย
“จะบอกหรือไม่บอก ไม่รักลูกเกดแล้วใช่ไหม มีอะไรถึงได้ปิดปังกันแบบนี้นะ” จากเสียงที่แข็งกระด้างอยู่เมื่อครู่กลับกลายเป็นกระเง้ากระงอนระคนน้อยใจ ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ วงหน้านวลเนียนที่เคยเริงรื่นกลับงอคว่ำเชิดหนีไปอีกฝั่ง แต่ยังส่งคำพูดเปรยๆ มาอีก “ใช่ซี...ลูกเกดมันไม่ดีนี่ เป็นน้องสาวที่ไม่ได้เรื่อง พี่ลูกแก้วถึงไม่รัก ไม่ไว้ใจ”
เอาละซิ มามุกนี้อีกแล้ว เดี๋ยวน้ำตาก็ไหลตามมาราวกับสั่งได้ แก้วกาญจนาส่ายศีรษะอย่างระอาและยอมแพ้ ก็กว่าจะทำให้คนขี้งอนหายโกรธนะนานโขอยู่นี่น่า แล้วเธอก็ยังไม่อยากที่จะหาเรื่องให้ฝ่ายงอนแล้วต้องงอในตอนนี้ด้วย เพราะมีเรื่องอื่นให้หนักใจกว่าเป็นเหล่าเท่า อย่างเช่นผู้ชายคนนั้นไง...
อติคุปต์  เวชชาญกิจ คนที่เธอจะต้องทำให้เขาห่างจากผู้หญิงอีกคน ศีรษะทุยก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วคิดไม่ตกว่าจะเปลี่ยนจากคนที่บอบบางทำอะไรไม่ค่อยเป็นเพราะถูกการะเกดแย่งไปทำหมด ให้กลายเป็นสาวน้อยร้อยเล่มเกวียนพันมารยายั่วยวนผู้ชายให้หลงรักแล้วค่อยทิ้งภายหลังได้หรือเปล่า...มันนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ถ้าเป็นการะเกดก็ว่าไปอย่าง
“ลูกเกด...”
“ไม่ต้องมาเรียกเลย ตัวไม่รักเขาแล้วนิ ใช่ซิ เขามันไม่น่ารัก ไม่เป็นผู้หญิง ทำงานบ้านไม่เก่ง ซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่ง...” อีกนับสิบข้อที่การะเกดยกข้อเสียของตัวเองขึ้นมาพูด กายเล็กสะบัดหนีมือพี่สาวที่ยื่นมาจับอย่างบอกให้รู้ว่ากำลังงอน ง้อดีๆ นะ ไม่งั้นมีเรื่องยาวกว่านี้แน่
“สงสัยลูกเกดคงไม่อยากฟังแล้วละว่าคุณให้พี่ทำอะไร ถึงได้งอนเป็นหมาหงอยแบบนี้ อืม...ก็ดีเหมือนกัน พี่จะได้ไม่ต้องเล่า” เอาซิ...เธอเองก็มีลูกเล่นเหมือนกันนิ แล้วแก้มนวลผ่องก็แย้มยิ้มเมื่อเห็นคนที่แสร้งงอนเมื่อครู่หันมางอนง้อเธอกลับ
“โอ๋...พี่ลูกแก้วจ๋า ไม่งอนน้องลูกเกดนะจ๊ะ น้องลูกเกดขอโทษ ก็เค้าอยากช่วยพี่นี่จ๊ะ” การะเกดถลาพาร่างเล็กของตัวเองมานั่งใกล้ชิดพี่สาว แล้วก็เอาใบหน้าถูกไถกับไหล่มนของอีกฝ่าย ทำราวกับว่าเธอเป็นแมวน้อยที่กำลังออดอ้อนคลอเคลียเจ้าของ
“บอกน้องมาเถอะจ๊ะ เผื่อน้องมีทางช่วยนะ” เงยหน้าขึ้นไปนิด ส่งสายตาออดอ้อนหน่อยๆ แถมกระพริบแพขนตายาวงอนอย่างที่คิดว่าน่ารักแต่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำอยู่นะดันเป็นตัวตลกให้พี่สาวหัวเราะพรืดออกมาเสียงงั้น “หะ...พี่ลูกแก้วนะ หัวเราะเขาอีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ...” มือเล็กยกขึ้นชี้หน้าพี่สาว
“จ้าๆ ไม่หัวเราะแล้ว” แก้วกาญจนาข่มกลั้นเสียงหัวเราะที่มันพยายามจะหลุดออกมาไว้อย่างสุดความสามารถ  แม้อยู่ในอารมณ์โกรธและเคร่งเครียดขนาดไหน แต่พอได้อยู่กับการะเกดเพียงไม่ถึงห้านาทีเท่านั้นเธอก็หัวเราะอย่างมีความสุขได้
“เล่ามาเร็วๆ อยากรู้” เขย่าตัวพี่สาวให้บอกคำสั่งของคุณให้เธอได้รู้อย่างละเอียด
แก้วกาญจนาเล่าด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอันเคร่งเครียด ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกร้านอาหารที่เธอและน้องสาวใช้ซุ่มดูอติคุปต์อย่างไร้จุดหมายปลายทาง
การะเกดฟังเรื่องจากปากพี่สาวด้วยวงหน้านวลเนียนสวยที่มันขึงเครียดอยากหนักอกหนักใจ ดวงตากลมโตกรอกไปกรอกมาอย่างครุ่นคิดตามไปด้วย
“เห้ย!!!” มือเล็กยกขึ้นตบอกพร้อมเสียงร้องอุทานตามมาเป็นระยะ สลับฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันอย่างสวยงามขบกัดจนมีเสียงดังกรอดๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากพี่สาว
“คุณวางแผนให้พี่ตามไป...(ปล้ำ)” เกือบจะหลุดคำพูดหยาบคายที่พี่สาวไม่ชอบออกมาแล้ว ดีว่ายกมือปิดปากเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นโดนตีแขนแดงแน่ ศีรษะทุยสะบัดส่ายแรงๆ มือเล็กยกขึ้นโบกสะบัดส่ายไปมาตรงหน้าพี่สาว “เดี๋ยวนะคะ...พี่ลูกแก้วบอกว่าคุณให้พี่ตามผู้ชายคนนั้นอีกสามวันข้างหน้า”
แก้วกาญจนาพยักหน้ารับ เธอก็พูดออกจะชัดเจน แล้วการะเกดฟังอะไรขาดตกไปหรือเปล่า ถึงได้มีท่าทางอาการแปลกประหลาด
ร่างเล็กลุกขึ้นเดินไปเดินมา ฟันขาวสะอาดขบกัดปลายนิ้วยาวเรียวสลับมองหน้าพี่สาวอย่างกำลังคิด ก็เธอเกิดอาการงงเหมือนถูกค้อนทุบศีรษะนี่น่า ก็อีกสามวันคุณก็รู้ว่ามันเป็นวันอะไร เอ๊ะ...หรือว่าคุณจะลืม แล้วพี่สาวเธอก็คงจะลืมด้วยใช่ไหมนี่?
มือเล็กข้างหนึ่งสอดไขว้ระหว่างอก ทาบอีกมือไว้ด้านบนและขยับโยกไปมา “เดี๋ยวนะคะ...อีกสามวัน อืม...นั่นมันวันเดียวกับวันเกิดของพี่อัครนี่คะ” หญิงสาวหมายถึงอัครรัช แฟนพี่สาวที่มีแพลนจะแต่งงานกันอีกภายในหกเดือนข้างหน้า “แล้วไหนพี่บอกว่าจะฉลองกัน...แล้วคุณบอกให้พี่ตามไป...ตามไปที่ไหน ไปยังไง ไหนพี่ลูกแก้วเคลียร์ให้มันชัดๆ หน่อยซิคะ ลูกเกดยังไม่เข้าใจ”
แต่ยังไม่ทันที่แก้วกาญจนาจะได้เอ่ยพูดสิ่งใดการะเกดก็โพล่งขึ้นมาอย่างกับเพิ่งจะนึกได้ “นี่คุณให้พี่ทำถึงอย่างนี้เลยหรือคะ แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือไงว่าถ้าหากพลาดพลั้งขึ้นมาแล้วพี่ถูกไอ้บ้านั่นปล้ำเอานะ คุณบ้าไปแล้วแน่เลยที่ให้พี่ทำถึงขนาดนี้ คอยดูนะลูกเกดจะไปอาละวาดใส่คุณ” เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด แม้จะให้ความเคารพนับถือคนที่ถูกเอ่ยถึง แต่ได้ยินแบบนี้ก็ทำเอาการะเกดอดที่จะตำหนิไม่ได้
“ลูกเกด” แก้วกาญจนาเรียกเตือนน้องสาว คุณมีบุญคุณกับเธอและน้องสาวมาก จนไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิตเธอจะชดใช้ให้หมดหรือเปล่า แค่คุณให้ไปทำงานแค่นี้แม้จะเสี่ยงแค่ไหนเธอก็พร้อมที่จะทำ
“ค่า...ลูกเกดเข้าใจค่า” ปากบอกว่าเข้าใจ รู้ว่าคุณแค้นมาก จนกระทั่งยามค่ำคืนก็ไม่เคยได้นอนหลับอย่างเป็นสุขเหมือนกับคนอื่นเขา บ่อยครั้งที่เธอลุกมาเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ จะเห็นห้องของคุณยังเปิดไฟสว่างโร่ เงาร่างใหญ่เดินวนไปเวียนมาภายในห้อง เพราะอย่างนี้คุณจึงยอมทำทุกทางเหมือนกันและคราวนี้คงเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องช่วยเหลือทั้งพี่สาวและคุณให้ทำทุกอย่างได้สำเร็จลุล่วงไป แต่เรื่องบางเรื่องมันก็สุดวิสัยที่เธอจะทำใจยอมรับมันนี่น่า
กลีบปากอวบอิ่มขบกัดจนแบนราบเรียบ คิดในมุมกลับกันหากแม้ว่าเป็นเธอที่เข้ายั่วยวนป่วนชีวิตปกติสุขของผู้ชายคนนั้น แล้วได้รับผลอะไรตอบกลับมาไม่ว่าจะดีหรือร้าย...ให้คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ แล้วก็ไม่พ้นต้องเสียใจเสียน้ำตาเพราะว่าเสียตัวและเสียหัวใจ ก็อีกฝ่ายนะเสน่ห์ล้นเหลือขนาดนั้น แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีอกกว้างๆ ของพี่สาวให้พักพิงคอยปลอบโยนเป็นกำลังใจนี่น่า แต่ถ้าเป็นแก้วกาญจนา...ถ้าหากต้องเสียงสิ่งสำคัญให้กับผู้ชายที่ไม่ใช่คนรักคงเป็นเรื่องที่ทุกข์มาก
รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของวงหน้านวลผ่อง เอาละวะ...งานนี้จะช้าม้าวัวควายก็ชั่งเหอะ มันต้องฝีมือเธอคนเดียวเท่านั้นถึงจะสู้กับผู้ชายคนนั้นได้ มือเล็กกำหมัดขยับเบาๆ อย่างหมายมั่นปั้นมือเต็มที่พอๆ กับประกายในตากลมโตที่มันวาววับขึ้นชั่วแวบหนึ่งโดยที่แก้วกาญจนาไม่ทันจะได้เห็น
แต่ก่อนอื่น...การจะออกรบมันต้องรู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งมันถึงจะชนะทั้งร้อยครั้ง
“พี่ลูกแก้วนั่งนี่เดี๋ยวนะ ลูกเกดขอไปทำอะไรหน่อย” เมื่อเห็นว่าเหยื่อกำลังลุกขึ้นเดินไปส่งแม่นางแบบสาวที่ก็อ่อยเหยื่อสุดฤทธิ์เหมือนกัน แต่พ่อดันไม่สนเสียนี่ หรือว่าจะเป็นเกย์หว่า...แต่ไม่นะ ถ้าเป็นเกย์ก็ต้องไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงซิ คุณบอกว่าอีตานี่กำลังจะแต่งงานอยู่ไม่กี่วันแล้วนี่น่า แต่ชั่งเถอะเขาจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเธอเสียหน่อยนี่น่า เธอมีหน้าที่อย่างเดียวกันให้อยู่ห่างจากผู้หญิงที่เป็นคู่หมั้นจนกว่าคุณจะพอใจเป็นพอ
“ไปไหนนะลูกเกด” แต่เธอคงจะถามไม่ทันแล้วเพราะร่างเล็กบอบบางวิ่งลิ่วๆ ไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างหนักอก ไม่รู้ว่าน้องสาวคิดจะเล่นอะไรพิเรนทร์ๆ อีกหรือเปล่า

1 ความคิดเห็น:

  1. แวะมาช่วยหาคำผิด
    'ไอ้บ้า........หวี่//น่าจะเป็น..ทวี
    ฝาด...ฟาด

    ตอบลบ