ตอนที่ 20
ทำไมฉันต้องพ่ายแพ้
สองมือใหญ่สอดดันเต้าอวบอิ่มจนมันชูสล้างไหวตรงหน้า ปลายนิ้วยาวใหญ่คลึงเคล้นไล้วนปลายยอดทับทิมที่มันนูนเด่นดุนดันบราลูกไม้สีหวานบางเบาจนแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้ ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวทาบทับขบกัดปลายยอดถันนุ่มนิ่มจากทรวงหนึ่งไปอีกทรวงหนึ่ง ปลายลิ้นสากระคายตวัดไล้วนเวียนจนปลายยอดทรวงแข็งนูนเป็นไต อ้างับกัดกลืนกินทับทิมผลนุ่มอย่างชุ่มฉ่ำใจ
“อ๊ะ...” นันทิยาขบกัดริมฝีปากไม่ยอมให้น้ำเสียงแหบพร่าหวานเชื่อมหลุดรอดออกไปจากปากให้ภามนำกลับมาใช้เป็นเครื่องมือเยาะหยันดูถูกเธออีกในภายหลัง แต่ยิ่งเธอพยายามแข็งขืนเท่าไหร่ภามก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งฟอนเฟ้นเคล้นคลึงเต้าอวบอิ่มอย่างหนักหน่วงและย่ามใจ
ในขณะที่ปากหนาก็กัดกลืนกินทรวงอวบอิ่มอีกข้างจนปลายยอดถันตั้งชันหายไปในอุ้งปากหนาร้อนผ่าวเหมือนกับเปลวเพลิงและอีกมือวาดไล้ลงไปตามหน้าท้องแบนราบเรียบ สีข้างเนียนนุ่ม ขยำนวดบั้นท้ายกลมกลึงอย่างรุนแรง เคลื่อนลงไปตามปลีขาเนียนนุ่มถึงปลีน่องกลมกลึงวกกลับขึ้นมาปลายนิ้วลากไล้กดคลึงข้อพับ เคลื่อนกลับมาบีบนวดต้นขาด้านใน
ยิ่งภามเข้าใกล้ส่วนลี้ลับมากเท่าไหร่...นันทิยาก็ยิ่งสั่นสะท้านเหมือนกับคนเป็นไข้ จะขยับหนีก็ทำไม่ได้เพราะถูกกายใหญ่ตรึงไว้จนแทบจะจมหายไปในพื้นเตียงนุ่ม เรือนกายตกอยู่ภายใต้การครอบครองของภามอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เพลิงพิศวาสเผาพลาญจนทนอยู่เฉยไม่ได้
“พี่ภาม...ไม่นะ...” แต่ถึงจะอย่างนั้นนันทิยายังพยายามเปล่งคำพูดแหบพร่าห้ามปราม แต่กลับส่ายสะโพกยั่วยวนให้ภามเร่งรีบจัดการกับแม่กุหลาบร้อนรักเร็วๆ สองแขนเรียวยาวยกขึ้นโอบรอบกายใหญ่ วาดฝ่ามือเล็กนุ่มนิ่มไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งพร้อมกับเกี่ยวเอาเสื้อที่มันเกะกะการจับต้องหลุดจากกายใหญ่โยนทิ้งไปเพราะความรำคาญ
ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งจนแผ่นหลังแทบไม่ติดพื้นเตียง สองมือเล็กกดรั้งศีรษะทุยให้แบนชิดทรวงอวบอิ่ม สะโพกงามงอนส่ายพลิ้วไหวตามติดสลับหลีกหนีปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวที่มันสอดแทรกผ่านชั้นในผ้าลูกไม้บางเบาไปคลึงเคล้นปมเสน่หาสอดแทรกไปแหวกว่ายในโถอุ่นนุ่ม
เพราะทรวงอกอวบอิ่มยังมีชั้นในไร้สายปกปิดอยู่ให้กัดกินผลไม้นุ่มนิ่มได้ไม่ถนัดถนี่ ตอนแรกภามก็คิดว่าจะสอดมือไปปลดรั้งตะขอออกแต่เห็นว่ามันเสียเวลาเกินไปไม่ทันใจจึงใช้วิธีเดิม ดึงมันออกเต็มแรงและเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่ใยดีก่อนซบซุกใบหน้าคร้ามแกร่งซบซุกระหว่างสองเต้า
“ไทนี่...ยัยตัวแสบ เธอนี่มันหวานจริงๆ ยาหยี” ภามพูดทั้งที่ยังกัดกลืนกลืนกินปทุมถันอวบอิ่มจนผลิบานเต็มปาก แต่เพราะคิดถึงดอกไม้กลีบบางที่หวานนุ่มลิ้นไม่แพ้กัน จึงเลือกที่จะละวางสองผลไม้เต่งตึงไว้ก่อน ทาบทับริมฝีปากขบกัดลงไปตามลำตัวกลมกลึงจนแดงเป็นจ้ำ ปลายลิ้นตวัดไล้สอดแทรกหยอกล้อกับช่องเล็กๆ บนหน้าท้องแบนราบเรียบ ยิ่งเคลื่อนไหวลงไปใกล้ถึงส่วนอ่อนไหวนุ่มร้อนที่เคยทำให้เขามีความสุขจนแทบจะสำลักมาแล้ว ภามก็ยิ่งหายใจหอบแรงด้วยความปวดร้าวด้วยแก่นกายแข็งแกร่งที่มันขยายใหญ่จนถึงกับปวดร้าว
ปลายนิ้วยาวใหญ่ยอมเคลื่อนออกจากกลีบกายอ่อนนุ่มพร้อมเกี่ยวดึงเอากางเกงชั้นในอย่างแรงจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีตามติดไปด้วย ภามจับแยกขาเรียวยาวออกกว้างให้กายใหญ่ได้พำนักและชมเชยกุหลาบดอกนุ่มอย่างถนัดถนี่ ก่อนจะละมือไปปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกายปลดปรึงแก่นกายร้อนระอุขยายใหญ่ให้เป็นอิสระและส่งยื่นมันไปให้นันทิยาแล้วเขารู้ดีว่าหญิงสาวจะไม่ยอมทำตามความต้องการง่ายๆ มือใหญ่วางทับบนมือเล็กพามันลากไล้ไปตามเรือนกายแข็งแกร่งก่อนจะมาหยุดตรงท่อนลำรักระอุร้อนให้ความนุ่มนิ่มโอบรัดคลึงเคล้นมอบความสุขให้เขาด้วย
นันทิยาสะดุ้งรีบดึงมือหนีแต่สุดท้ายเพลิงอารมณ์ร้อนแรงที่มันโอบรอบก็ทำให้เธอยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ภามเสนอให้มา สองมือเล็กนุ่มนิ่มเคลื่อนไหวบนกายใหญ่อย่างอิสรเสรี คลึงเคล้นโอบอุ้มแท่งเนื้อระอุร้อนทั้งแข็งแกร่งและนุ่มนิ่ม
“อ๊า...ไทนี่ ยัยแม่มด” ภามถึงกับสูดปากเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงกระเส่า สะบัดสะโพกสอบตามติดความนุ่มนิ่ม ฉกใบหน้าลงซบซุกบนเนินเนื้อหอมกรุ่ม ปลายนิ้วร้อนผ่าวแยกกลีบดอกไม้บอบบาง ปาดปลายลิ้นสากระคายไปบนมุกมณีเม็ดสวยแดงสด
“อ๊ะ...พี่ภาม...” ไฟร้อนผ่าวจากทั่วทุกสารทิศไหลมารวมกันอยู่ที่จุดเดียวก่อนจะแผ่กระจายไปทั่วกายา หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมไหว สะโพกงามงอนส่ายร่อนสะบัดพลิ้วไปตามความร้อนที่ทาบทับเคลื่อนไหวแผ่วพลิ้วบางเบาเหมือนกับสายลมที่มันผัดผ่านยอดไม้ใบหญ้า แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็กลับกายเป็นความร้อนแรงเหมือนเปลวเพลิงที่มันแผดเผา สองมือเล็กโอบอุ้มคลึงเคล้นแก่นกายร้อนเหมือนแท่งเหล็กกล้าอย่างไม่ยอมแพ้
‘โอ้...ไทนี่ เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ’ ภามถึงกับสูดปากซีดซาดๆ ด้วยความวาบหวิวรัญจวนใจจากเพลิงไฟร้อนผ่าวฝีของนันทิยาที่จัดการกับแก่นกายของเขาเสียจนหอยู่หมัด อัดลมหายใจเข้าเต็มปอดจนกล้ามเนื้อบริเวณท้องไหวกระเพื่อม ริมฝีปากหนาร้อนดูดเม้มมุกมณีอันอ่อนไหวสลับปลายลิ้นปาดคลึงไล้วนรัวเร็วถี่ยิบ ในสมองหมุนติ๋วๆ กับผนังเนื้ออันอ่อนนุ่มที่ตอดรัดทุกการขยับเข้าออกของนิ้วยาวร้อนและลิ้นสากระคาย
สองมือใหญ่สอดแทรกตรึงลำขากลมกลึงพร้อมจับล็อกสะโพกงามงอนในคราวเดียวกันก่อนที่ทั้งริมฝีปากหนาร้อนจะจัดการกับปุบผาดอกน้อย สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายไปในโถน้ำผึ้งอุ่นนุ่ม ซอกซอนกวาดไล้ไปตามผนังถ้ำอันอุ่นนุ่ม
มือใหญ่บีบเคล้นบั้นท้ายงามงอนตามจังหวะการสอดดันลึกล้ำสลับดูดกลืนมุกมณีอันอ่อนไหวรัวเร็วถี่ยิบ เพียงไม่นานน้ำหวานดอกไม้หอมๆ ก็เอ่อไหลล้นให้เขาได้ตวัดไล้กิน ภามหูอื้อตาลายด้วยความหลงใหล เหมือนคนที่หลงอยู่ท่ามกลางท้องทะเลทรายที่มีแต่ความร้อนและแห้งแล้งแล้วได้พบกับโอเอซิสที่มีน้ำผึ้งหอมหวนรัญจวนใจให้ดื่มกินได้ไม่มีวันหมด ฉกลิ้นสากระคายซอกซอนโถน้ำผึ้งอุ่นร้อนแทรกลึกจุ้มจ้วงอย่างเป็นจังหวะกินเนื้อในหวานฉ่ำทุกหยาดหยด
“อ๊ะ...พี่ภาม” นันทิยากได้แต่ร้องเรียกภามเสียงแหบพร่านุ่มพลิ้ว กายโปร่งบางสั่นสะท้านไหวเหมือนกิ่งไผ่ไหวลู่ไปตามกระแสพายุอารมณ์อันร้ายกาจและร้อนแรง ในสมองเริ่มที่จะขาวโพลน ร่างทั้งร่างเบาหวิวลอยละล่องไปกับสายลม
“บอกฉันซิไทนี่ อย่างได้อะไรยาหยี” เพราะตัวเขาเองกำลังจะทนไม่ไหวและรู้ด้วยว่านันทิยาเองก็เช่นกันแต่ก็รู้ดีว่านันทิยานะเป็นประเภทที่ว่าดื้อเป็นที่สุด การที่จะทำให้หญิงสาวยินยอมมันจึงต้องมีทั้งคำพูดและการกระทำ ริมฝีปากหนาร้อนระอุทาบดับดูดเม้มมุกมณีอ่อนไหวสลับสอดแทรกปลายลิ้นและนิ้วยาวร้อนไปในช่องลี้ลับแหวกว่ายในโถน้อยๆ เหมือนกับปลาซอกซอนเสาะหาอาหาร
“บอกซิไทนี่ ต้องการอะไรยาหยี” ภามถามซ้ำเปลี่ยนการแตะต้องกุหลาบที่มีหนามแหลมคอยปกป้องให้นิ้วยาวใหญ่ทำหน้าที่ปลุกเร้าความต้องการแทน ริมฝีปากหนาทาบทับขบกัดจุมพิตร้อนผ่าวไปทางผิวกายเนียนนุ่มประดุจใยไหมอย่างเชื่องช้า ทิ้งทั้งรอยแดงและไฟร้อนๆ คอยแผดเผากายสาวให้มันมอดไหม้
“พี่ภามได้โปรด...ไทนี่...ไทนี่ไม่ไหวแล้ว...” นันทิยาอ้อนวอนเสียงกระเส่าและขาดเป็นห้วงๆ ด้วยความวาบหวิวจากไฟพิศวาสที่มันแผดเผาจนไม่เป็นตัวของตัวเอง สะโพกงามงอนส่ายร่อนรับปลายนิ้วยาวใหญ่ที่มันเคลื่อนไหวแทรกลึกในกลีบกายอ่อนนุ่มเป็นประวิง ลำตัวกลมกลึงที่แอ่นโค้งแผ่นหลังลอยขึ้นไม่ติดพื้นเตียงเพื่อให้สองปทุมถันอวบอิ่มแนบชิดกับฝ่ามือใหญ่ที่มันเคล้นคลึงอย่างรุนแรงไม่แพ้ริมฝีปากหนาร้อนเหมือนกับถ่านไฟที่มันกัดกลืนกินยอดปทุมถันสีสวยทั้งสองฝากฝั่งอย่างหลงใหลเพลิดเพลิน
“บอกมาก่อนซิไทนี่ อยากให้ฉันทำอะไร” ภามยังเล่นแง่ไม่ยอมทำตามคำขอของนันทิยาง่าย สองมือจับรั้งลำขาเสลาทาบทับบนแผ่นอกกว้างจนเนินเนื้ออิสตรีลอยเด่นขึ้นมา พร้อมทาบทับแก่นกายร้อนระอุเหมือนกับแท่งเหล็กกล้าที่ถูกเผาไฟบนกลีบกายอ่อนนุ่มคลึงเคล้นหยอกเย้ากับเกสรสวาท ในขณะที่สองมือใหญ่ก็ฟอนเฟ้นทรวงอวบอิ่มเต่งตึงอย่างหนักหน่วงรุนแรง “ตอบซิไทนี่อยากให้ฉันทำอะไร”
“ระ...รักไทนี่...พี่ภามได้โปรดรักไทนี่...” นันทิยาวอนขอเสียงหวานนุ่ม น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อไหลและหยดลงตามหางตาและผุดเสียงร้องหวานระคนเจ็บปวดเล็กๆ จากการเติมเต็มของท่อนลำรักระอุร้อนเหมือนเหล็กกล้าจะขยับพรวดเดียวแทรกลึกเข้ามาพำนักในกลีบกายคับแน่น
แค่ความใหญ่และร้อนคงจะไม่ทำให้เธอเจ็บเท่ากับภามสอดแทรกเคลื่อนตัวอย่างรุนแรงและเร็วรี่สลับเนิบนาบหนักหน่วง อีกทั้งกุหลาบน้อยของเธอยังบอบช้ำจากบทสวาทที่เขามอบให้เมื่อคืนมันเลยทำให้เจ็บเป็นสองเท่า สองมือเล็กจิกทึ้งผ้าปูเตียงระบายความเจ็บ ยังดีว่าภามไม่เคลื่อนไหวเลยมิฉะนั้นเธอคงจะรับกับบทพิศวาสที่แสนจะเอาแต่ใจไม่ได้
ภามกัดฟันกรอดๆ ข่มกลั้นความเสียวสยิวซ่านเมื่อถูกกลีบกายนุ่มอุ่นระอุร้อนดูดกลืนบีบรัดถี่ยิบตามจังหวะหัวใจที่มันเต้นแรงรัวเร็ว เหงื่อเม็ดเล็กๆ ถึงกับผุดขึ้นตามข้างขมับ กล้ามเนื้อหน้าท้องไหวกระเพื่อมตามแรงอัดที่สูดเข้าจนเต็มปอด
‘ไทนี่...เธอเป็นแม่มดหรือไงกัน ถึงได้ทำให้ฉันเหมือนกับตกนรกและขึ้นสวรรค์ไปพร้อมๆ กันนะแม่ตัวดี’
เพราะเส้นทางสวาทอันคับแน่นของหญิงสาวบีบตัวตอดรักเสียเหลือเกินจนภามทนไม่ไหวและเขาก็ไม่คิดที่จะทนด้วย กายใหญ่เริ่มขยับเคลื่อนถาโถมไปในกลีบดอกไม้บอบบางอย่างเชื่องช้าเพราะความคับแน่น ผนังอ่อนนุ่มบีบตัวตอดรัดเสียดสีจนภามคำรามดังลั่นด้วยความเสียวซ่านที่มันลอยวิ้งๆ อยู่ในสมอง เพลิงไฟวิ่งไหลพล่านไปตามกระแสเลือด สะโพกสอบสะบัดไหวโยกถาโถมดำดิ่งแทรกลึกตอบสนองอารมณ์ดิบเถื่อนที่มีอยู่ในกายอย่างหนักหน่วงไม่มียั้งออมแรง
“อ๊ะ...พี่ภาม...” ศีรษะทุยสะบัดส่ายจนเส้นผมกระจายไปทั่ว หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมเหมือนกับเกลียวคลื่นยามที่มันสาดซัดเข้าหาฝั่ง แม้ทุกการขยับของท่อนเนื้อที่ทั้งแข็งแกร่งแต่ก็อ่อนนุ่มในคราวเดียวกันจะนำพาเอาความเจ็บปวดแทรกซึมมาบ้างแต่ความเสียวซ่านระคนสุขสมมีมากกว่า
นันทิยาจึงตอบสนองความปรารถนาที่ไหลพล่านไปทั่วเรือนกายกลมกลึงสั่นสะท้านไหวเหมือนเรือลำน้อยที่มันลอยละล่องอยู่ในนาวาใหญ่และโดนพายุอารมณ์อันร้อนแรงโหมกระหน่ำซ้ำด้วยจังหวะอารมณ์เร่าร้อนรุนแรงจนแทบจะบ้าคลั่ง สะโพกกลมกลึงลอยไม่ติดพื้นตามติดแก่นกายร้อนผ่าวที่มันถอดถอนออกก่อนสะบัดเข้าใหม่ด่ำดิ่งแทรกลึกสุดช่องทางรักอันคับแน่น ตอดรัดจนใบหน้าภามถึงกับบูดเบี้ยวเหยเก สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรงจนลอนกล้ามเนื้อถึงกับไหวกระเพื่อม
“โอ้...ไทนี่...เธอชั่งคับแน่นจริงๆ ทูนหัว...” สองมือใหญ่วาดลากไล้ขยำนวดบั้นท้ายหนั่นแน่นตามแรงอารมณ์ที่มันพัดพาไป ลากไล้ไปตามสีข้าง ลากไล้ปลายนิ้วไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มก่อนจะวกกลับมาด้านหน้าหาสองเต้าอวบอิ่มที่มันไหวกระเพื่อมชูช่อจนลำคอเขาแห้งผากด้วยอยากที่จะกินกันดูดดื่มความหวานจากสองผลไม้สีสวย สองมือใหญ่ขยำนวดเคล้นคลึงจากฐานทรวงถึงปลายยอดที่มันชูชันระริกไหว และอดไม่ได้ที่จะไม่โน้มใบหน้าลงไปร่วมด้วยช่วยกัดกินเชอรี่เม็ดนุ่มหวานลิ้น
ความเสียวซ่านรัญจวนทำให้นันทิยาสะบัดส่ายเป็นประวิง ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งลอยจนแผ่นหลังไม่ติดพื้นเตียง พอๆ กับบั้นท้ายงามงอนที่ส่ายขึ้นรับทุกท่วงท่าที่มันสอดแทรกเข้ามาจนโออุ่นระอุแทบมอดไหม้จากท่อนลำรักระอุร้อนผ่าวเหมือนแท่งเหล็กกล้าที่มันเผาไฟ ดำดิ่งลึกลงไปในกลีบกายอ่อนเยาว์อย่างหนักหน่วงและรุนแรงจนเส้นทางสวาทอุ่นนุ่มเสียววูบวาบเหมือนกับถูกไฟเผา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นนันทิยาก็ไม่ออมถนอมแรงโต้ตอบด้วยอารมณ์ปรารถนาดิบเถื่อน ดูดรัดกลืนกินแก่นกายร้อนผ่าวจนภามถึงกับร้องครางดังลั่น
“เบาๆ หน่อยซิไทนี่...อย่าแรงนักยาหยี เธอทำฉันจะขาดใจแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดงึมงำเสียงขาดเป็นห้วงๆ สะบัดสะโพกสอบเพรียวส่งให้นันทิยาลอยละล่องไปในพื้นฟ้าที่มีดวงดาราดาษดื่น แต่เพียงแค่หญิงสาวกำลังจะเอื้อมไขว่คว้าดวงดาวมาเก็บร้อยเป็นพวงมาลัยอยู่นั้นเองชายหนุ่มก็เริ่มชะลอลงและดึงรั้งนันทิยากลับคืนลงมาบนพื้นดิน
“พี่ภาม...” นันทิยากรีดร้องอย่างคนที่อารมณ์เสีย สองมือไขว่คว้ากายใหญ่มาแนบชิดดังเดิม แต่กลับโดนภามปัดสองมือเล็กออก สอดแขนใหญ่ตวัดเพียงแค่นิดเดียวกับจับพลิกเรือนกายกลมกลึงให้ลอยขึ้นจากพื้นเตียง ใบหน้างามนวลเนียนและแดงปลั่งมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามขมับแนบชิดติดพื้นเตียงนุ่ม สะโพกงามงอนลอยเด่นขึ้นรอรับความแข็งแกร่งระอุร้อนอลังการที่พุ่งพรวดผ่านช่องทางอันคับแน่นไปแนบชิดถึงผนังถ้ำอันอ่อนนุ่มรัวเร็วและถี่ยิบ
“ได้โปรด...ไทนี่ไม่ไหวแล้ว...” นันทิยาพยายามเคลื่อนตัวตามติดกายร้อนผ่าว แต่ภามเหมือนกับจะแกล้งทรมานเธอด้วยความสุขสมที่ทำยังไงมันก็ไปไม่ถึงดวงดาวเสียที “ช่วยไทนี่...ด้วย...” นันทิยาวอนขอเสียงแหบพร่าด้วยลมหายใจรัวเร็วจนสองทรวงสล้างไหวกระเพื่อม
“ต้องการให้ฉันหรือไทนี่...งั้นบอกมาก่อนซิว่าเธอจะยอมทำทุกที่ฉันต้องการ”
กลับมาแล้วค่าทุกๆ คน กลับมาถึงก็รีบรุดเดินทางเข้ามาเพื่อจะมอบความสุขให้กับทุกๆ คนเลยค่า...หวังว่าคงจะพอใจกานนะ