หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ตอนที่ 8 หัวใจที่ถูกทำร้าย



ตอนที่ 8
หัวใจที่ถูกทำร้าย
ไม่ปล่อยคะ น้องรสต้องบอกพี่มาก่อน จะทำร้ายพี่ให้เจ็บตัวจริงๆ หรือคะจมูกโด่งและริมฝีปากหน้าร้อนเริ่มไต่ลากลำคอรงหงไล่ขึ้นไปถึงพวงแก้มนุ่มและกดฝังสูดดมความหอมของกายสาวอย่างเต็มที่ กลิ่นกายของรสรินชั่งหอมชื่นใจเขาเสียจริงๆ สองมือใหญ่จับยกมือเล็กเรียวจนวางทาบแนบชิดทรวงอกอวบอิ่มที่มันก็นุ่มนิ่มจนเขามิอาจที่จะละมือออกได้เลย
เปล่าสักหน่อย น้องรสนะไม่เคยคิดที่จะทำร้ายพี่นนท์เลยสักนิด มีแต่พี่นนท์นั่นแหละที่คิดทำร้ายหัวใจน้องรสตลอดเวลา แล้วดูซิตอนนี้ก็เอาเปรียบน้องรสอีกแล้ววงหน้าสวยงองุ้มเล็กน้อย ก็ไม่ชอบให้เขาเอาเปรียบเธอนี่น่า เป็นเธอต่างหากที่เอาเปรียบเขาได้ แต่...เสียงเล็กๆ ในหัวใจมันประท้วงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เธอจะแปลกมากไปแล้วนะรสริน เขามีแต่ผู้ชายแตะอั๋งผู้หญิง ที่ไหนบ้างที่ผู้หญิงแตะอั๋งผู้ชาย แล้วมัวแต่สะบัดสะบิ้งอยู่ได้ ไม่ชอบหรือไงกันละยะ ก็อยากให้เขาบอกรักและขอแต่งงานจนตัวสั่นแล้วไม่ใช่หรือไง
ไม่ชอบหรือครับ งั้นพี่ปล่อยก็ได้นะชานนท์ถามเสียงกลั้วหัวเราะ กดจมูกโด่งเป็นสันบนพวงแก้มนุ่มอีกครั้ง เออนะ...ทำไมมันถึงได้มีความสุขแบบนี้ก็ไม่รู้ เสียดายวันเวลาที่ปล่อยให้รสรินห่างหายไปจากสายตาจังเลย พี่ขอโทษนะครับน้องรส ที่ทำให้น้องรสเสียใจเพราะพี่มาตลอด
ไม่ยกโทษให้รสรินสวนขึ้นทันควัน พวงแก้มอิ่มเต็มป่องออกเล็กน้อย สองมือเล็กรีบจับแขนใหญ่ออกห่างและหันไปเผชิญหน้ากับชานนท์อย่างถือดี แขนเรียวยาวยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก พร้อมวงหน้าที่เชิดขึ้นสูง แต่นัยน์ตากลับพราวระยับแข่งกับดวงดาวบนท้องฟ้าปรายมองคนที่หน้าจ๋อยลงทันควันเมื่อถูกเธอตอบกลับไปแบบนั้น แล้วก็อดที่จะหัวเราะในคอไม่ได้ แหม...เล่นตัวนิดเดี๋ยวเองก็หน้าซีดซะแล้ว ทีเธอละถูกเขาปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีกเจ็บแค่ไหนนะรู้บ้างไหม
น้องรสจะไม่ยกโทษให้พี่นนท์จริงๆ หรือครับถามเสียงออดอ้อน สองแขนใหญ่จับรั้งต้นแขนกลมกลึงดึงร่างโปร่งเข้ามาแนบชิดก่อนจะตวัดแขนใหญ่โอบรัดรอบกายกลมกลึง มือใหญ่จับปลายคางมนขึ้น ถ้าน้องรสไม่ยอมยกโทษให้ พี่นนท์จะจูบน้องรส...จูบ
ริมฝีปากหนาทาบทับบนกลีบปากอวบอิ่ม บดคลึงอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ขบกัดสลับดูดกลืนริมฝีปากล่างและบน "แล้วก็จะจูบแบบนี้จนกว่าน้องรสจะยกโทษให้ดีไหมครับคนดี" สอดแทรกปลายลิ้นล่วงล้ำไปตามเรียวฟันขาว กระพุ้งแก้มนุ่ม พลิกพลิ้วเกี่ยวกวัดกับปลายลิ้นเล็กๆ ไล่ไปจนถึงโคนลิ้น
มือใหญ่ก็ไม่ได้หยุดนิ่งเคลื่อนไหวตามแต่ใจไปทั่วลำตัวกลมกลึง ด้วยเพราะรสรินเองก็ต้องการจะยั่วยุอารมณ์เขาอยู่แล้วหญิงสาวถึงได้เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มันนุ่มแนบเนื้อและมีกระดุมด้านหน้าทำให้ง่ายต่อการที่ชานนท์จะล่วงล้ำเข้าไปถึงสองก้อนเนื้อนิ่มเต็งตึง
ปลายนิ้วยาวร้อนเกี่ยวเอากระดุมเสื้อจนหลุดออกจากราง แต่เพราะต้องการยั่วยุอารมณ์คนตรงหน้าเขาจึงเลือกที่จะไม่ครอบครองแต่กลับลากไล้ปลายนิ้วสร้างความป่วนปั่นให้อีกฝ่ายแทน ว่าไงครับน้องรส จะยอมยกโทษให้พี่นนท์หรือยังถอนริมฝีปากออกอย่างเสียงดายและได้แต่หวังว่าคำตอบที่รสรินตอบกลับมาคือไม่ เพราะเขาจะได้จูบเธออีกหลายๆ ครั้ง
รสรินเนื้อตัวอ่อนระทวยจนต้องอิงแอบอกกว้าง วงหน้าสวยแดงปลั่ง หัวใจสั่นไหวรัวเร็วจนทรวงสล้างไหวกระเพื่อมกับรสจุมพิตวาบหวามที่เหมือนกับจะดึงเอาวิญญาณออกจากร่าง แล้วถ้าน้องรสตอบว่ายังละคะ พี่นนท์จะทำอะไรน้องรส
อืม...ทำอย่างไรนะหรือ...งั้นน้องรสก็คงจะหมดเวลาได้ดูดาวแล้วละหนูน้อยชานนท์เริงร่าเหมือนกับปลากระดี่ได้น้ำกับคำตอบที่ได้รับ
คะ...รสรินตอบกลับเสียงสูงอย่างไม่เข้าใจ
ว้าย!!! ปล่อยน้องรสนะคะพี่นนท์เมื่อกายโปร่งลอยหายจากพื้นทรายเหมือนกับไร้น้ำหนักที่ขึ้นไปแนบกับอกกว้าง สองแขนเล็กเรียวรีบโอบรอบลำคอแกร่ง ทาบศีรษะแนบชิดออกกว้างฟังเสียงหัวใจอีกฝ่ายเต้นกระหน่ำรัวเร็วไม่แพ้เธอ พี่นนท์จะพาน้องรสไปไหนคะ
ไปขอร้องให้น้องรสยกโทษให้พี่ซิคะก้มลงมองสบตากับอีกฝ่าย เท้าใหญ่เดินเรื่อยไปตามเส้นทางเก่าที่ผ่านมา กองไฟขนาดใหญ่ที่เคยลุกไหม้จนบริเวณหาดทรายสว่างไสวมอดลงเหลือเพียงแค่ถ่านร้อนๆ ที่สุกปลั่งบวกกับแสงดาวที่ทอแสงเป็นประกาย สายลมที่พัดหอบเอากลิ่นไอของทะเลให้ความรู้สึกโรแมนติกเหมาะสำหรับการที่คู่รักจะปรับความเข้าใจและบอกกรักกันเป็นที่สุด
แล้วพี่นนท์จะทำให้คนใจแข็งอย่างน้องรสยกโทษได้ยังไงละคะ
ชานนท์วางร่างรสรินบนเก้าอี้ชายหาดตัวใหญ่ที่เขาและภามลากมาเพื่อดื่มเหล้าเบียร์กันพอให้มันกระชุ่มกระชวย พี่ก็จะบอกรักน้องรสและก็...ใบหน้าคมคร้ามโน้มไปประทับริมฝีปากหนาบนหน้าผากโหนกนูน ไล่เรื่อยลงมาตามดวงตากลมโตที่หลับพริ้ม พวงแก้มนุ่ม ปลายจมูกโด่ง "ก็จะปล้ำน้องรสด้วย ดีไหมครับ"
ริมฝีปากหนาร้อนทาบทับบนกลีบปากอวบอิ่ม ขบกัดกดคลึงเบาๆ ว่าไงคะน้องรสจะยกโทษให้พี่ชายคนโง่ๆ คนนี้ได้หรือเปล่าจ๊ะ
สองแขนเล็กเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง ลากไล้ปลายนิ้วสอดแทรกไปในตัวเสื้อใหญ่เคลื่อนขึ้นไปเล่นกันปอยผมนุ่ม ยังหวานไม่พอที่จะให้น้องรสยกโทษให้พี่นนท์นี่ค่ะประกายในดวงตากลมโตมันไหวระยิบจนเกินเหตุ กายก็เต้นไม่แพ้หัวใจที่เฝ้ารอสัมผัสหวานๆ จากคู่หมั้น
อืม...งั้นแบบนี้จะหวานพอไหมครับน้องรส


<<<<<<<<<<<<<<< ต่อๆๆๆ
อืม...งั้นแบบนี้จะหวานพอไหมครับน้องรสชานนท์ถามเสียงกระเส่า ขบกับติ่งหูเล็กเบาๆ เคลื่อนทาบทับริมฝีปากหนาบนลำคอระหงจนรสรินสะดุ้งเพราะไม่ทันจะได้ตั้งตัว ไล้ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนเข้าหาทรวงอวบอิ่ม...รสรินคงต้องการยั่วให้เขาตะบะแตกจริงๆ นั่นแหละ หญิงสาวถึงได้ใส่เสื้อชั้นในที่บางหวิวจนได้เห็นปลายยอดถันสีชมพูเข้มไหวระริกอย่างชัดเจน
ชานนท์ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ถึงจะเห็นร่างกายผู้หญิงคนชินตาแต่ก็ยอมรับเลยว่ากายรสรินสวย...สวยยิ่งกว่าหญิงใดในโลก มันเหมือนกับว่ามีใครเอาแต่ส่วนดีมาจับปั้นให้เป็นตัวเธอ มือใหญ่สอดใต้ฐานดันเล็กน้อยเจ้าเนื้อสองก้อนก็สปริงตัวขึ้นมาเกือบจะชนกับหน้าเขาที่โน้มไปหา ชานนท์ถึงกับคำรามในลำคอเสียงแหบพร่า
น้องรสจ๋า...สวยที่สุดเลยคนดีของพี่นนท์ชานนท์เอ่ยเหมือนกับคนที่กำลังตกอยู่ในมนตร์สะกด
สวยแต่พี่นนท์ไม่เห็นจะต้องการนี่คะยังไม่วายส่งเสียงตัดพ้อทั้งที่ในหัวใจเต้นแรงและเร็ว วาบหวิวไปตลอดทั่วเรือนกาย ในท้องน้อยปั่นป่วนไหววูบด้วยลูกไฟเล็กๆ  
ขอพี่...ไม่ไหวแล้ว ในหัวมันหมุนจนพูดไม่ถูกแล้ว...ริมฝีปากหนาเคลื่อนไปประทับบนเจ้าเม็ดเล็กๆ สีชมพูซึ่งไหวระริกยั่วให้ต้องรีบกัดกิน อืม...หวาน ชายหนุ่มถึงกับร้องครางในลำคอ ลากไล้ปลายลิ้นละเลียดลิ้มชิมรสกายสาวอย่างเชื่องช้าเหมือนกับได้เจอผลไม้รสทิพย์ที่ไม่กล้าจะตะกรุมตะกรามเพราะกลัวทำมันหลุดจากมือแตกเสียหาย
อ๊ะ...พี่นนท์ขา...ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้ง สยิวซ่านจนขนตามเรือนกายลุกชัน จิกปลายเล็บไปบนต้นคอแกร่งแรงๆ สอดแทรกปลายนิ้วไปพัวพันเส้นผมหนานุ่ม
จ๋าน้องรส...
น้องรส...น้องรสให้อภัยพี่นนท์แล้วคะรีบรับปากเสียก่อน เพราะเมื่ออีกฝ่ายเอาจริงเธอกลับรู้สึกขลาดกลัวเสียนี่
ชานนท์เสียดายเป็นอย่างยิ่งที่รสรินรับปากไวเกินความต้องการ ผ่อนลมหายใจออกจากปอดแรงๆ แต่เรื่องอะไรที่เขาจะยอมปล่อยแม่จอมยั่วให้เป็นอิสระโดยเร็วกันเล่า สู้เอาเปรียบอีกสักนิดดีกว่า ข้อหาทำหัวใจเขาเสียศูนย์ ริมฝีปากหนาจึงยังเลาะเล็มปลายลิ้นตวัดไล้หยอกเย้าปลายยอดทรวงนุ่มหวาน พร้อมส่งมือใหญ่ไปคลึงเคล้นครอบครองเต้าอวบอีกข้าง
พะ...พี่นนท์...ยะ...หยุดก่อนนะคะ...รสรินพยายามห้ามปราม มือเล็กข้างหนึ่งจับมือใหญ่อีกข้างก็ผลักศีรษะทุยให้ออกห่างจากกาย แต่ก็พ่ายแพ้แรงของชานนท์ที่ไม่ยอมทำตามคำขอ สอดแทรกจิกทึ้งดึงเส้นผมหน้านุ่ม  บิดกายด้วยความวาบหวิวสยิวซ่าน วงหน้าสวยแหงนหงายไปด้านหลัง ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งจนอกอวบอิ่มชูชันแนบชิดริมฝีปากหนายิ่งขึ้น
ชานนท์กัดกินเมล็ดเชอรี่นุ่มหวานทั้งสองผลจนเสื้อชั้นในรสรินเปียกชื้นจึงได้ยอมละห่าง ไปดูดาวอีกรอบไหมน้องรส อ๊ะ...ไม่ต้องปกปิดหรอกจ๊ะ ขอพี่ดูดาวบนฟ้าและน้องรสไปพร้อมๆ กันชายหนุ่มหามปรามเมื่อรสรินกลัดกระดุมเสื้อด้วยมืออันสันเทา ยิ้มทั้งแก้มและนัยน์ตาอย่างชอบใจกับพวงแก้มนุ่มเป็นสีแดงระเรื่อ กายใหญ่ขยับลุกพร้อมยื่นมือส่งให้และรสรินก็วางทับในทันดีด้วยความอายจนต้องรีบซ่อนหน้าลงมือพื้นทราย
อายอะไรจ๊ะน้องรส พี่ว่าวันก่อนน่าอายกว่านะ
วันไหนละคะ
ก็วันที่น้องรสยั่วพี่ที่ทำงานไง นะถ้าพี่ทนไม่ไหวปล้ำน้องรสจริงๆ ป่านนี้คงถูกพี่ภามตีจนหัวแตกแล้วละ
น่าเสียดายนะคะรสรินพูดติดตลกเลยถูกชานนท์ดึงเข้าไปกอดและมอบจุมพิตหวานแผดร้อนจนกายกลมกลึงถึงกับอ่อนระทวยเหมือนกับขี้ผึ้งถูกไฟอัง พี่นนท์ขา แล้วหลังจากวันนี้พี่นนท์จะเอายังไงกับเรื่องของเราละคะ พี่นนท์จะยังคิดถึงคำพูดของคนอื่นแล้วทำให้รักเรามีปัญหาอีกหรือเปล่าเธอเองก็เคยได้ยินเรื่องที่คนอื่นนินทาชานนท์หลายครั้งแล้วเหมือนกัน จนร่ำๆ อยากจะไปต่อยปากคนพูดสักทีสองทีแล้วก็ถามว่า
เป็นใคร เป็นอะไรกับเธอแล้วมายุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอทำไม การที่เธอจะรักจะชอบกับชานนท์หนักตัวหนักหัวคุณหรือไง
ไม่แล้วละ ก็น้องรสรักพี่นนท์นี่ครับ ยอมทำทุกอย่างให้พี่นนท์เห็นถึงความรัก แล้วอย่างนี้พี่นนท์จะทำร้ายน้องรสได้อีกหรือครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่คงจะเป็นคนใจร้ายจนถูกคนอื่นเขาประณามเป็นแน่ปลายนิ้วก้อยใหญ่เกี่ยวกับนิ้วก้อยเล็กและพากันเดินทอดน่องไปตามหาดทรายปล่อยให้สายน้ำเย็นๆ สาดซัด
พี่นนท์ขี่ตู่ น้องรสยังไม่ได้พูดสักคำว่ารักเลยนะหญิงสาวสะบัดค้อนให้ชานนท์ไปหนึ่งครั้งเต็มๆ แต่ในหัวใจเต็มตื้นไปด้วยความสุข อยากให้ชานนท์รีบเอ่ยปากขอแต่งงานแต่รอฟังเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน สงสัยจะต้องทำตามแผนสำรองซะแล้ว เพราะแม้ในคืนนี้จะได้ยินคำตอบแบบนี้ แต่ยังไงก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะรอบกายชายหนุ่มนั้นมีหญิงรายล้อมมากมาย ไหนจะปากเสียๆ ของคนอื่นที่ไม่ค่อยจะยอมให้คนอื่นได้ดีกว่าตัวเองอีกละ มีหวังกว่าที่เธอจะได้ครองรักครองเรือนกับชานนท์ก็คงจะเป็นตอนอายุเลยเลขสามหรือไม่ก็ตอนแก่หงำเหงือกทำอะไรไม่ได้แล้ว
หรือครับ แต่เอ๊ะ...ใครนะที่บอกเมื่อกี้ว่ารักพี่นนท์ รักมาก รักที่สุด...สองแขนใหญ่กอดกระชับร่างโปร่งเข้าหาและกดจมูกโด่งบนแก้มนุ่ม
ไม่พูดกับพี่นนท์แล้วละ มีแต่เสียเปรียบ ไปอาบน้ำนอนดีกว่าอายเกินกว่าที่จะทนอยู่คุยกับอีกฝ่ายแล้วละ ก็นะมีแต่เสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง ว้าย!!! ตายแล้ว
มีอะไรน้องรส
น้องรสลืมไปเสียสนิทเลยคะว่าปล่อยพี่ไทนี่อยู่กับพี่ภาม ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่ภามจะ...
พี่ไทนี่...งั้นพี่นนท์ไปส่งน้องรสก่อนแล้วจะแวะไปหาพี่ไทนี่ ว่าแต่พี่ภามกับพี่ไทนี่คุยกันตรงไหนตัดสินใจอย่างฉับไว มือใหญ่กระชับมือเล็กก้าวเดินไปยังบ้านหลังใหญ่ ในหัวใจร้อนรนกระวนกระวายด้วยความเป็นห่วงพี่สาว ไม่ใช่ว่าจะคิดไปเองแต่ช่วงนี้ภามรู้สึกจะมองพี่สาวเขาแปลกๆ ไม่ใช่ไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้ชอบ มันกึ่งๆ ปะปนกันจนแยกแยะไม่ออก
ได้คะรสรินรับปากทันควันด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับ ถ้าหากชานนท์ได้เห็นเขาคงจะต้องเสียววาบระคนพอใจ รีบสาวท้าวเดินตามร่างหนาใหญ่กลับเข้าไปในบ้านและไม่ลืมที่จะชี้บอกว่าเมื่อครู่นันทิยาและภามคุยกันตรงไหน และได้แต่หวังว่าชานนท์จะตามไปทันก่อนที่พี่ชายขี้โมโหจะระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ได้ เผลอทำร้ายนันทิยาจนสะบักสะบอมไปเสียก่อน

รายงานว่าอัพครั้งต่อไป...น้องไทนี่กำลังจะโดนพี่ภาม.........

“อือๆ ฮี้ฮามฮ่อยไฮฮี่ฮะ” (พี่ภามปล่อยไทนี่นะ) นันทิยาพยามยามบอกให้ภามปล่อยตัวเธอเสียงที่พยามยามพูดมันก็เป็นได้เพียงแค่สายลมพัดผ่านไปเท่านั้นเองเพราะชายหนุ่มไม่เพียงแค่จะไม่สนใจกลับเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนอนใหญ่ที่อยู่ปีกหนึ่งของตัวบ้านหลังใหญ่สองชั้น ห่างไกลจากห้องพักของรสริน ชานนท์ ลุงภีมและป้าโรสคนละมุมกันเลยทีเดียว ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่มัดปากเอาไว้ ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ผลอยู่ดีนั่นแหละ
“ไม่ต้องห่วงไทนี่ ฉันปล่อยเธอแน่ แต่ขอให้ถึงห้องฉันก่อนนะแม่ตัวแสบ” ภามตอบกลับ และก็ถึงห้องนอนเขาพอดี มือใหญ่ยื่นไปเปิดประตูห้องและปิดพร้อมกดล็อก
เสียงดังคลิ๊กที่แม้จะนิดเดียวแต่มันกลับดังสนั่นลั่นก้องหูนันทิยาบอกว่าเธอหมดโอกาสที่จะหนีจากภามแล้วในคืนนี้ แต่ถึงจะอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ ให้อีกฝ่ายได้ดูถูกหยามเหยียดมากไปกว่านี้แต่ก็ต้องรอจังหวะและเวลา ไม่เช่นนั้นนอกจากหนีไม่ได้แล้วยังจะถูกจับลงโทษให้ต้องเจ็บตัวอีก
เพราะร่างกายเต็มไปด้วยทรายและน้ำทะเลจนเหนียวเหนอะไปทั้งตัวภามเลยเดินตรงไปยังห้องน้ำ เพียงแค่ชายหนุ่มวางร่างนันทิยาลงบนพื้น แม้ปากและมือจะโดนมัดแต่แม่ตัวแสบยังไม่หมดฤทธิ์เดช เพียงแค่เท้าเล็กติดพื้นไหล่กว้างก็กระแทกเข้าที่กายใหญ่พร้อมวิ่งหนีอย่างเร็วรี่ แต่ภามก็ไม่พลาดเอื้อมมือไปคว้าแขนเรียวและดึงกลับมาพร้อมเหวี่ยงร่างโปร่งไปแนบชิดผนังห้องเย็นๆ
“เธอนี่มันฤทธิ์มากจริงๆ นะไทนี่ อย่างนี้ซิมันถึงจะสนุก” ปลายนิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นลากไล้ปลายคางมนไม่วายที่อีกฝ่ายจะถลึงตาใส่และสะบัดหน้าหนี พร้อมพยายามที่จะพูดให้เขาเลิกคิดที่จะทำอย่างใจต้องการ “หวังว่าเธอจะทำให้เตียงนอนฉันคงจะร้อนฉ่าเหมือนฤทธิ์ของเธอนะ”
หึหึ...เสียงหัวเราะของภามหัวเราะเหมือนกับซาตานที่มันผุดจากขุมนรกมาเพื่อการสำคัญ...ทำลายชีวิตเธอให้ป่นปี้ อยากจะร้องแต่มันร้องไม่ออกได้แต่มองอีกฝ่ายด้วยแววตาผิดหวัง เศร้าเสียใจ
“แต่สภาพแบบนี้ฉันนอนกับเธอไม่ลงจริงๆ ไทนี่ เหม็นสาบและสกปรกสุดๆ มันต้องอาบน้ำให้สะอาดสะอ้าน กลิ่นตัวมันก็ต้องหอมกรุ่นก่อนใช่ไหม” มือใหญ่เอื้อมไปเปิดน้ำและดึงเอาร่างโปร่งบางไปยืนรับน้ำอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีอาการสำลักน้ำและตามติดด้วยอาการขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยเขากำลังเพลิดไปกับเรือนกายอวบอิ่มทุกส่วนที่พอได้รับน้ำก็มันชูช่อไสวเหมือนกับดอกไม้ที่บานแย้มรับแสงอรุณรุ่ง
“นี่ฉันตาบอดไปได้ยังไงนะไทนี่ หุ่นเธอนี่มันน่าฟัดเสียจริงๆ ให้ตายซิ...อกก็อวบใหญ่นุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือดีจัง” ไม่พูดเปล่าปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้จากลำคอระหงเรื่อยลงไปครอบครองทรวงอกอวบเคล้นคลึงอย่างหนักหน่วงไม่คิดจะทะนุถนอมเลยสักนิด
“โอ๊ะโอ่...แหมฉันทำแค่นี้ถึงกับร้องเลยหรือไงไทนี่ ภามไม่แคร์เลยที่ได้เห็นน้ำตาซึ่งไหลออกมาจากสองดวงตากลมโต อ๋อ...ลืมไปว่าปากเธอถูกมัดไว้ พูดไม่ได้”
ความทุกข์ความเจ็บปวดของนันทิยากลับกลายเป็นความสุขของเขา มือใหญ่แกะเอาเสื้อที่มัดปากและเข็มขัดที่มัดแขนนันทิยากออกแต่ไม่ลืมว่าหญิงสาวฤทธิ์มากขนาดไหน มือใหญ่เลยจับตรึงสองแขนเรียวไพล่ไว้ด้านหลังกอดกระชับร่างโปร่งนุ่มอุ่นเข้ามาแนบชิดและเป็นโอกาสดีให้กับนันทิยาได้ทาบปากบนต้นแขนแกร่งกดฟันกัดเนื้อหนาเต็มๆ แรง
“โอ๊ย!!! เจ็บนะยัยหมาไทนี่”
เมื่อภามเผลอปล่อยแขนฝ่ามือเล็กก็ยกขึ้นฝาดบนใบหน้าคมคร้ามติดๆ กันหลายครั้งจนภามหน้าหัน แสงไฟที่สาดส่องมาทำให้ได้เห็นวงหน้าสีแทนแดงเป็นรอยฝ่ามือและนิ้วทั้งห้านิ้วที่ประทับลงไป นันทิยาไม่ได้คิดที่จะทำเพียงแค่นั้น เท้าเล็กกระทืบไปบนเท้าใหญ่เต็มแรง จิกปลายนิ้วบนแผ่นอกกว้างและผลักสุดแรงที่มี
“นี่คือผลของการที่พี่ภามทำร้ายหัวใจไทนี่...เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!” นันทิยาฝาดฝ่ามือใส่หน้าคร้ามแกร่งไปอีกสองครั้งติดๆ กัน ก่อนจะถลาวิ่งออกจากห้องน้ำที่ยังไม่ปิดประตูไปยังประตูห้อง
“จะไหนไหนยัยไทนี่ตัวดี” นัยน์ตาคมกริบเปล่งประกายสีแดงเพลิงด้วยความเกรี้ยวกราด เจ็บกายไม่สู้เจ็บใจที่ถูกอีกฝ่ายทำร้ายโดยลืมคิดไปว่าก็เป็นตัวเองที่ทำร้ายนันทิยาก่อน ภามถลาวิ่งตามนันทิยาไปติดๆ
“ว้าย!! กรี๊ด...ปล่อยไทนี่นะพี่ภาม ปล่อย!!” นันทิยาหวีดร้องเสียงดังลั่นสลับกับร้องบอกให้ภามปล่อยแขนเรียวยาว มือเล็กข้างที่ว่างจิกทึ้งดึงมือใหญ่ออกจากแขน พร้อมฝืนตัวเอาไว้ไม่ยอมให้ถูกอีกฝ่ายกระชากลากถูกกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง แต่แรงเท่ามดอย่างเธอหรือจะสู้แรงช้างสารได้
ภามเหวี่ยงร่างโปร่งแนบชิดผนังห้องน้ำ สองมือใหญ่จับตรึงแขนเรียวยาวที่ยังไม่หยุดประทุษร้ายร่างกายเขาเท่าที่ทำได้แนบกับผนังห้อง ตรึงสองขาเรียวยาวด้วยสองขาแข็งแกร่ง “เธอนี่มันฤทธิ์มากจริงๆ นะไทนี่ ทำไมก็ฉันจะยอมเสียสละตัวเองเป็นผัวเธอแล้วไง ไม่ชอบหรือไงห๊า...” ชายหนุ่มกัดฟันถามเสียงแข็ง วงหน้าหน้าคร้ามแกร่งซุกไซร้ลำคอระหงและขบกัดแรงๆ จนผิวขาวนวลเนียนแดงปลั่งขึ้นทันตา
“ไม่...ไทนี่ไม่อยากได้พี่ภามเป็นผัว ปล่อยไทนี่นะพี่ภาม ปล่อย!!” ไม่วายเบือนหน้าหนีแม้จะรู้ว่าไม่พ้นก็ตามที
เสียงกรีดร้องด่าทอที่ดังมาจากปากอวบอิ่มเลือนหายไปในอุ้งปากหนา ริมฝีปากหนาขบกัดดูดกลืนกลีบปากอวบอิ่มแรงๆ ให้ได้เจ็บ ภามจับแขนเรียวไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็เคลื่อนลงมาจิกทึ้งดึงเอาเสื้อผ้านันทิยาออกจากกายอย่างไม่สนใจว่ามันจะอยู่ในสภาพเช่นไร
เสื้อผ้าสวยๆ กลายเป็นเศษผ้าที่นำกลับมาใช้การอีกไม่ได้แล้วพร้อมกันน้ำตาของนันทิยาที่มันไหลอาบสองแก้มจนในดวงตาแดงก่ำลามไปถึงขอบตา กายโปร่งกลมกลึงพยายามดันกายใหญ่ให้ห่างไปแต่สุดท้ายเรี่ยวแรงที่มีก็ดูจะลดน้อยถอยลงไป
ภามลากร่างนันทิยาไปยืนใต้สายน้ำอุ่นใหม่อีกครั้งทั้งที่ยังไม่ยอมถอนจุมพิต มือใหญ่ลูบไล้ไปปัดเศษทรายออกจากกายกลมกลึงพร้อมนวดเฟ้นปลุกปั่นอารมณ์นันทิยาไปในตัว ริมฝีปากหนาขบกัดกลีบปากอวบอิ่มบนล่างสลับกันแรงๆ มือใหญ่บีบปลายคางมนด้วยเพราะนันทิยายังคงดื้อรั้นไม่ยอมให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นไปในโพรงปากนุ่มง่ายๆ ดื้อได้ดื้อไปเขาไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าเขาต้องการไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่ในนิยาม
แม้ใจจะบอกว่าไม่...ไม่...แต่ร่างกายกลับไม่ฟัง ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไหวจากฤทธิ์ฝ่ามือใหญ่ที่มันคลึงเคล้นไปจนทั่วแม้กระทั่งปลายยอดทรวงที่ถูกฝ่ามือใหญ่ถูไถจนต้องแอ่นหยัดกายให้แนบชิด สองเท้าเริ่มยืนไม่ติดที่ด้วยความปั่นป่วนด้วยลูกไฟเล็กๆ ที่มันไหลวนอยู่กึ่งกลางเรือนกาย
“พี่ภาม ปล่อยไทนี่นะ อย่าทำแบบนี้เลย ไทนี่ขอร้อง” เพียงแค่ปากเป็นอิสระนันทิยาก็รีบห้าม สองมือที่ไม่รู้ว่าถูกปล่อยเมื่อไหร่ทาบทับบนบ่ากว้างดันด้วยแรงเท่ามดให้กายใหญ่ถอยห่างแต่กลับถูกภามจับไปลูบไล้อกกว้างล่ำสันด้วยลอนซิกแพ็กแทน
“อย่ามาทำสะบัดสะบิ้งให้ฉันสะอิดสะเอียนเล่นดีกว่าไทนี่ อยาก...ก็บอกว่าอยากซิ มาพิรี้พิไรรู้ไหมว่ามันน่ารำคาญและฉันจะทำให้เธอเจ็บตัวด้วย...เดี๋ยวผิวกายสวยของเธอจะช้ำเพราะฝีมือฉันหมด มันน่าเสียดายใช่หยอกอยู่นะไทนี่” ปลายนิ้วยาวร้อนระอุเหมือนกับถ่านไฟสะกิดปลายยอดยอดทรวงลากไล้เวียนรอบเม็ดเล็กๆ ที่มันแข็งตัวเป็นไต แล้วเมื่อเห็นว่านันทิยาแง้มปาก...
“หยุดพูดได้แล้ว รำคาญ” ไม่อยากได้ยินเสียงคนพูดไม่รู้ฟัง แต่อยากได้ยินเสียงครางหวานๆ ต่างหาก
สองมือใหญ่ลูบไล้สองเต้านุ่มคลึงเคล้นอย่างหนักหน่วง ปลายนิ้วปลายปัดปลายยอดสีเข้มแผ่วเบาก่อนจะช้อนมันขึ้นมาพร้อมริมฝีปากหนาที่ขบเคลื่อนลงไปจากแอ่งชีพจร ไหปลาร้าเคลื่อนลงไปจนถึงทรวงเต่งตึง ปลายลิ้นอุ่นร้อนไล้เลียริมฝีปากตัวเองเหมือนกระหาย คอแห้งผากเมื่อได้เชยชมความอวบอิ่มงดงามเบื้องหน้าชัดๆ 
“เธอนี่มันแม่มดชัดๆ ไทนี่”
นันทิยาไม่เข้าใจความหมายในคำพูดที่ได้ยิน แต่ก็ไม่คิดที่จะเอื้อนเอ่ยถามออกไป ด้วยรู้ดีว่ายังไงมันก็ไม่มีคำตอบดีๆ กลับมาให้เธอชื่นใจอยู่แล้ว
“รู้ไหมฉันไม่เคยพบทรวงอกของใครสวยเท่าของเธอมาก่อนเลย ใหญ่โตอวบอัดเต็มไม้เต็มมือ เหมาะกับมือฉัน...” ไม่พูดเปล่าปลายนิ้วยาวใหญ่ปัดไล้ลากผ่านปลายยอดทรวงสีเข้มนุ่มที่มันชูชันสู้มือ “และปากฉันที่สุดเลย” ภามพูดเสียงนุ่มทุ้มแหบพร่า โน้มใบหน้าหน้าเข้าหาสองเต้านุ่ม ปลายนิ้วสะกิดตุ่มไตสีหวานแผ่วเบา
“อ๊ะ...ไม่นะพี่ภาม...” นันทิยาสะดุ้งเฮือกรีบจับมือใหญ่ออกแต่ภามกลับส่ายหน้าห้ามปราม
จะอายไปทำไมไทนี่ ให้ฉันได้ชื่นชมร่างกายสวยๆ ของเธอถนัดๆ หน่อยนะซิแม่ตัวแสบ” ภามมองทรวงอกอวบขาวนวลเนียนตาวามวาว “ยังไงฉันก็เคยเห็นมันมาแล้วนี่น่า แถมยังได้จับต้องเสียด้วยจำไม่ได้หรือไง”
นันทิยาอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน วงหน้าและลำตัวแดงราวกับกุ้งต้มสุข ก้มมองมือใหญ่ที่มันกำลังลูบไล้จับต้องตามร่างกายกลมกลึงของเธอย่างจาบจ้วงและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ไม่มีส่วนใดที่ภามไม่ได้แตะต้อง ทุกส่วนจะต้องถูกชายหนุ่มตีตราประทับและทิ้งความร้อนผ่าวไว้ทุกหนแห่ง
สวย...สวยมากเลย” ภามเอ่ยพูดเหมือนกับละเมอ...เหมือนถูกมนตร์สะกดกับเรือนกายงดงามราวกับประติมากรรมชั้นเลิศที่มนุษย์คู่หนึ่งได้สร้างเอาไว้ อกอวบอิ่มนุ่มใหญ่เต็มไม้เต็มมือ...เอวเล็กคอดกิ่วสะโพกผายกลมกลึงรับกับเรียวขากลมกลึง
“เธอรู้ตัวไหมว่าตัวเองสวยแค่ไหนไทนี่ สวยไปหมดทั้งตัวเลย สวยจนฉันอดใจไม่ไหวอยากที่จะทำอย่างนี้กับเธอ...” ภามยื่นปลายลิ้นสากร้อนออกมาหยอกล้อกับยอดทับทิมสีทับทิม สองมือกดแผ่นหลังเนียนให้ทรวงอกอวบได้รับรับสัมผัสจากปากอุ่นร้อนโดยไม่หลีกหนี
“ฉันอยากที่จะรักเธอให้เตียงเร่าร้อนเป็นไฟ อยากทำมันทั้งวันและทั้งคืนไม่มีหยุด” 
“พี่ภาม!!” นันทิยาครางเสียงหวานเชื่อม แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายพูดไปเพียงเพราะความต้องการทางร่างกาย แต่สำหรับเธอแล้วมันเหมือนกับเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่ได้ยินคำนี้จากปากเขา อดที่จะดีใจไม่ได้ที่ร่างกายสวยงามพอให้ชายหนุ่มต้องการจนมิอาจที่จะระงับเอาไว้ แต่ทว่าความร้ายกาจที่เขาทำเอาไว้มันก็ยังมีมาพอที่จะดึงสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงให้หวนกลับมาสู่ห้วงเวลาปัจจุบัน ที่หากว่าเธอยอมให้เขาพรากสิ่งสำคัญไปง่ายๆ รู้ไว้เลยว่าเขาจะเก็บเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้มาตราหน้าว่าเธอมันง่าย...ง่ายจนเขาสะอิดสะเอียน
“ไม่...หยุดนะพี่ภาม อย่าทำอย่างนี้”
“ทำไมละไทนี่ เธอยังจะอิดออดอะไรอีก อยากให้ฉันบอกรักเธอหรือไง...เอาน่าอย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นซิ เราก็รู้กันดีอยู่แล้วนี่ ฉันและเธอ เราต้องการกันแค่บนเตียงเท่านั้นเอง”
นันทิยาน้ำตาหยดไหลกับคำพูดที่มันบาดลึกเข้าไปในความรู้สึก นี่ตัวเธอมันไร้ค่าถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไร้ค่าจนเขาเป็นเพียงแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง ยามที่ต้องการก็เรียกใช้ ยามที่ไม่ได้ดังใจก็จิกกัดด้วยคำพูด ตบหัวแล้วลูบหลัง
“เอาน่ายังไงฉันก็ไม่ใจร้ายกับเธอมากนักหรอก รับปากว่าจะไม่ทิ้งเธอเร็วๆ เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นละกัน”
ไม่รอให้นันทิยาขัดขืนอีกปากหนาอุ่นร้อนทาบทับไปบนปลายยอดถันซึ่งนูนเด่นแข็งตัวเป็นไต ดูดกลืนปลายยอดทรวงสีชมพูเข้มที่กำลังเบ่งบานราวกับว่าเขาคือผีเสื้อเจ้าชู้ที่ได้พบดอกไม้แสนสวย น้ำผึ้งในดอกไม้นั้นมันทั้งหอมและหวานมิสมควรที่จะปล่อยให้หลุดรอดมือไปได้
สองขาเรียวยาวถูกลำขาแข็งแกร่งสอดแทรกแยกออกให้ร่างหนาแทรกระหว่างกลาง ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งจนแผ่นหลังไม่ติดกับผนังห้องจนปลายยอดทรวงนูนเด่นผลิบานในอุ้งมือใหญ่และปากหนาร้อนที่มันดูดกลืนอย่างหลงใหล นันทิยาหูอื้ออึง สมองเริ่มที่จะไม่ทำงานตามที่ใจสั่งการแล้ว
นันทิยาปล่อยให้ร่างสูงใหญ่อิงแอบแนบชิดเรือนกายโปร่งบางและอ่อนนุ่มอย่างไม่รู้ว่าจะขัดขืนยังไงดีและหัวใจเธอเองมันก็พร้อมที่จะให้ภามทำอะไรก็ได้ด้วยอย่างไม่จำความเจ็บช้ำที่ได้รับ ใบหน้าแหงนหงายไปด้านหลัง สองแขนเรียวโอบรอบคอแกร่ง ปลายนิ้วเรียวแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดพัวพันเล่นกับเส้นผมดกหนาบนศีรษะทุยได้รูปของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
            “เธอนี่มันนังแม่มดจริงๆ ไทนี่” ภามครางเสียงแหบพร่า ริมฝีปากหนาขบกัดกระเซ้าเย้าแหย่ยอดทรวงงามสลับซ้ายย้ายขวา ลากไล้ปลายลิ้นอุ่นร้อนตามจุดสำคัญๆ ของเรือนกายสาว มือใหญ่ลากไล้เคล้นคลึงไปจนพานพบกับกลีบกายที่มันซ่อนเร้นอยู่และอย่างรวดเร็วที่ชายหนุ่มเปิดแยกกลีบดอกไม้ให้ผลิบาน กรีดไล้ปลายนิ้วไปบนเกสรสวาทนุ่ม จนนันทิยาถึงกับร้องครางเสียงแหบพร่า บิดตัวเร่าด้วยความวาบหวิวสยิวซ่าน
ภามดันตัวนันทิยาให้หันหลังปากก็พูดพร่ำด้วยความหลงใหลในความหวานของกายสาว และเริ่มประพรมจูบไปทั่วลำคอสวย ขบเม้มเบาๆ พอให้หญิงสาวได้สะดุ้ง ลากจุมพิตไล้เรื่อยลงมาตามแผ่นหลังเนียนงามผ่านส่วนโค้งส่วนเว้าอันสวยงาม มือหนาฟอนเฟ้นเบาๆ เป็นการทักทายก่อนจะค่อยดึงรั้งร่างบางให้หันกลับมาหาและดันเบาๆ อีกทีจนแผ่นหลังเนียนแนบไปกับความเฉียบเย็นของผนังห้องน้ำ
ความเย็นจากผนังห้องไม่สู้ความร้อนผ่าวที่มันแนบชิดกลีบกายบอบบางและอ่อนไหว สอดแทรกเข้าไปอย่างแนบสนิทและลึกล้ำ นันทิยาปล่อยกายให้ชายหนุ่มจูบไซร้ไปทั่วบริเวณอย่างนุ่มนวลก่อนจะทวีความหนักหน่วงและดุเดือด กายโปร่งบางอ่อนระทวยเอนตัวซบกับร่างใหญ่ ใบหน้าหวานซุกอกกว้างอย่างยอมแพ้ เหมือนกับว่าเธอได้ก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนตะแกรงที่มีไฟสีแดงลุกไหม้อยู่เบื้องล่างคอยแผดเผาให้สติมันขาดหายไปจนเรียกคืนกลับมาไม่ได้
สองมือใหญ่กระชับสะโพกงามงอนไม่ให้ส่ายหนี ปากหนาดูดกลืนเกสรนุ่มสลับสอดแทรกเข้าไปในช่องทางลี้ลับคับแน่นแรงรัดตอดรัดเป็นจังหวะของหัวใจเต้น แก่นกายร้อนระอุขยายใหญ่ดุนดันกางเกง ทำเอาภามถึงร้องคำรามดังลั่นด้วยความปวดร้าว การเคลื่อนไหวจึงดุดันและหนักหน่วงมากขึ้น สอดแทรกลึกล้ำสุดทาง ขยับไล้วนตามผนังเนื้ออ่อนนุ่มขยับเข้าและออกกวาดไล้กินเนื้อในฉ่ำหวานทุกหยาดหยด
“พี่ภาม...ได้โปรด...” หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อม ระบบภายในบีบรัดตัวตอดรับความร้อนผ่าวที่มันรุกล้ำแทรกลึกเป็นจังหวะ
“ต้องการอะไรละไทนี่” ภามถามเสียงแหบพร่า ทาบทับจุมพิตเคลื่อนขึ้นไปตามผิวเนื้อใยไหมอย่างช้าๆ
นันทิยาถอยหายใจเล็กน้อยเมื่อความร้อนผ่าวที่รัดรึงอยู่ในกายห่างหายไป มีทั้งความยินดีระคนเสียดายอย่างบอกไม่ถูกแต่มันก็หายไปเพียงแค่ชั่วประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น
“อ๊ะ...พะ...พี่ภาม...” ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งเมื่อทรวงอวบอิ่มถูกคลึงเคล้นกัดกินอย่างเป็นเจ้าของ สองมือเล็กถูกมือใหญ่จับลากไปทั่วกายแข็งแกร่งล่ำสัน
“ฉันยังไม่ถอดกางเกงเลยไทนี่ ช่วยหน่อยซิ” มือใหญ่บังคับอย่างกลายๆ ให้นันทิยาปลดตะขอกางเกง รูดซิบและดึงเอาเจ้าสองชิ้นที่ปกปิดกายใหญ่ไว้โยนทิ้งไป ก่อนจะนำพามือเล็กกอบกุมความเป็นตัวตนของเขา
“พี่ภาม...” ตอนนี้นันทิยาได้แต่ร้องเรียกชื่อชายหนุ่มเพียงอย่างเดียวและทำตามความต้องการของภามอย่างว่าง่าย สายน้ำที่ยังไหลรินอยู่ช่วยชะล้างทรายที่มันติดสองกายจนหมดสิ้น แต่ไม่สามารถชำระล้างความร้อนผ่าวที่โอบรอบสองกายมีแต่จะทำให้ร้อนเร่ายิ่งขึ้น
“ต้องการอะไรละไทนี่...” แม้จะปวดร้าวกับความต้องการที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับนันทิยาแต่เขาก็ยังอยากได้ยินจากปากหญิงสาวเองว่าเธอยอมเขา ไม่อยากได้ยินคำกล่าวหาว่าใช้กำลังข่มขืน แต่ถ้ารักกันแบบรุนแรงหน่อยนะไม่ว่ากัน
“ช่วยไทนี่ด้วย” เสียงนุ่มหวานแหบพร่าขาดเป็นช่วงๆ จากริมฝีปากอวบอิ่มที่เห่อบวมแดง
“ได้ซิ เดี๋ยวฉันจัดให้...” ภามเคลื่อนตัวไปประทับจุมพิตบนเรียวปากอวบอิ่ม มือใหญ่เอื้อมไปปิดน้ำก่อนจะช้อนกายโปร่งบางเดินไปวางบนเตียงนอนทั้งที่ยังไม่ถอนจุมพิต


3 ความคิดเห็น:

  1. แซ่บเวอร์ไปป๊ะ คุณไรเตอร์คนงาม...........หุหุ..ไม่เว้นให้รีดเดอร์หายใจหายคอเลยนะจ๊ะ.......แต่ก็ชอบอ่ะ....

    ตอบลบ
  2. เย้ๆๆ พี่สาวชอบๆๆ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2555 เวลา 01:43

    ดูเดือนจริงคู่พี่ภามนี่

    ตอบลบ