หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บ่วงสวาททาสรักอสูร ตอนที่ 14 มันคืออะไรในหัวใจฉัน


ตอนที่ 14
มันคืออะไร ในหัวใจฉัน
ภามเดินวนไปเวียนมาด้วยความร้อนรุ่มในอก วงหน้าคร้ามแกร่งเคร่งเครียดแหงนมองด้านบนว่าเมื่อไหร่รสรินกับชานนท์จะลงมาเสียทีสลับกับกดโทรศัพท์ในมือหานันทิยานับสิบๆ ครั้งแล้วแต่คำตอบที่ได้รับกลับคืนมาก็คือทางโน้นปิดเครื่อง ความหงุดหงิดและโกรธกรุ่นเหมือนเปลวไฟเผาไหม้อยู่ในทรวง ในสมองมีแต่ภาพนันทิยาในอิริยาบถต่างๆ ตั้งแต่เด็กยันจนโตเป็นสาวและที่สำคัญคือ ความสัมพันธ์ที่มีกับเขาเมื่อคืนที่มันทำให้เขานั้นลืมไม่ลง เหมือนมันมีอะไรมาเปิดแย้มประตูใจที่เขาเพียรหากำแพงหนามากั้นไว้ แต่ตอนนี้มันเริ่มที่จะปริแตกแล้วด้วยฝีมือยัยตัวแสบนันทิยา
ศีรษะทุยสะบัดสะลัดแรงๆ ไล่ความคิดแปลกๆ ออกจากสมอง สองมือใหญ่ยกขึ้นเท้าสะเอว ผ่อนลมหายใจออกจากปอด คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับคำถามที่ว่า ทำไมนันทิยาถึงได้หนีไป เธอไม่รักและพยายามจะตัดใจจากเขาจริงๆ หรือ แล้วทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วย ที่สำคัญคือทำไมเขาถึงได้รู้สึกหงุดหงิดและโกรธเกรี้ยวเมื่อรู้ว่านันทิยายอมแพ้และหนีไป
ทั้งที่ความจริงแล้วการจากไปของหญิงสาวเป็นการดีกับเขาเสียอีก จะทำอะไรก็ทำได้ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจและกังวลว่าจะมีใครคาบข่าวไปบอกมารดา แต่ว่าการหายตัวไปของนันทิยามันกลับทำให้เขาร้อนรนกระวนกระวายในอกเหมือนกับมีไฟกองใหญ่เกาะกุมสุมทรวง ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้?
“เป็นอะไรคะพี่ภาม เดินเหมือนหนูติดจั่นเลย ทะเลาะกับพี่ไทนี่อีกหรือไง” รสรินเอ่ยทักพี่ชายอย่างรู้ดีว่าคนที่ทำให้อารมณ์โกรธของภามขึ้น เป็นใครไม่ได้นอกจากนันทิยาเพียงคนเดียว กวาดสายตามองปราดไปทั่วห้องแล้วหัวคิ้วเข้มก็ย่นเข้าหากันเล็กน้อย แปลกใจที่ไม่พบคนที่ทำให้พี่ชายโกรธจนวงหน้าแดงก่ำประกายในดวงตาเกรี้ยวกราด
 “แล้วนี่พี่ไทนี่ไปไหนคะ หรือว่าเถียงสู้พี่ภามไม่ได้แล้วต้องรีบถอยออกไปจากห้องก่อนที่จะทนไม่ไหวหาอะไรมาครอบปากของพี่นะ”
“ฉันไม่ใช่หมานะหนูรสที่จะต้องหาอะไรมาครอบปากไว้” คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ยังจะมากวนอารมณ์อีก ภามถลึงตาใส่น้องสาว
“อ๊ะ โกรธจริงๆ ด้วย” เมื่อไหร่ที่ภามโกรธคนพูดจากพี่จะกลายเป็นฉันทันที แต่แทนที่จะกลัวรสรินกลับหัวเราะคิกคัก “ว่าแต่พี่ไทนี่ทำอะไรให้โกรธอีกละคะ ถึงได้หันมาฟาดงวงฟาดงากับน้องนะ บอกเสียก่อนนะ น้องไม่ยอมให้พี่กัดแงดๆ โดยที่ไม่โต้ตอบหรอกนะคะคุณพี่ชายขา” โกรธหรือ...ยิ่งโกรธเธอก็ยิ่งจะยั่ว
ชานนท์ยกมือขึ้นมือตบมือเล็กเบาๆ เป็นการห้ามปรามเมื่อเห็นว่าภามโกรธจนหน้าเป็นสีแดงเข้ม “เกิดอะไรขึ้นครับพี่ภาม” ไม่ทันจะได้นั่งภามก็ยื่นกระดาษสีขาวมาตรงหน้า คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงอย่างไม่เข้าใจแต่ก็รับมาคลี่อ่านดูก่อนที่จะสลับมองระหว่างกระดาษและหน้าภาม ก็มันจดหมายถึงเขานี่น่าแล้วไปอยู่กับภามได้ยังไงกัน มิหนำซ้ำคนที่เขียนให้ก็เป็นนันทิยาอีก
“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ภาม” ชานนท์ถามเสียงแข็ง ในดวงตาคมกริบเป็นประกายเรืองรองสีแดงจัด แล้วจดหมายนี่ไปอยู่ในมือพี่ได้ยังไง
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่นนท์” รสรินถามและไม่รอคำตอบจากชานนท์ มือเล็กเรียวรีบดึงจดหมายไปอ่าน เพียงแค่ดวงตากลมโตไล่มองไปตามข้อความในจดหมายสลับมองหน้าภาม “เกิดอะไรขึ้นคะพี่ภาม เมื่อคืนหลังจากน้องรสแยกตัวออกมาแล้วพี่ภามคุยอะไรหรือทำอะไรให้พี่ไทนี่เจ็บอีกคะ”
ดวงตาของสองคนสี่คู่ที่มองมาอย่างค้นหาคำตอบ มันทำให้คนที่รู้ตัวว่าผิดเริ่มจะสู้หน้าหนึ่งน้องสาวและหนึ่งน้องของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียซึ่งเขาไม่อยากจะยอมรับ ก็มันยังไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนกันนี่น่า สองมือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋า
“ว่าไงคะพี่ภาม พี่ไปทำอะไรพี่ไทนี่”
ชานนท์นั่งรอฟังคำตอบจากภาม ดวงตาแข็งกร้าว กรามหนาขบกัดจนแก้มตอบนูนขึ้นสัน ไม่กล้าคิดถึงเรื่องบางเรื่องที่เขากำลังกลัวจับใจ ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิด เพราะคนที่จะเจ็บปวดที่สุดเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่นันทิยา แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีคำตอบจากปากภาม ทำให้ชานนท์คิดได้อย่างเดียว
ภามทำร้ายนันทิยาอย่างที่เขาคิด!!!
“กรี๊ด...” รสรินหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆ คนที่นั่งเคียงข้างเธอผุดลุกขึ้นอย่างเร็วรี่ มือหนึ่งกำคอเสือภามอีกมือกำหมัดพร้อมเงื้อมขึ้นสูง จนเธอแทบจะถลาตามติดไปห้ามไว้ไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งเสียงไปก่อน “พี่นนท์ปล่อยพี่ภามนะคะ คุยกันดีๆ อย่าใช้กำลังซิ” สองมือเล็กพยายามแกะมือและผลักร่างหนาใหญ่ของชานนท์ให้ถอยห่างพี่ชาย แต่อีกฝ่ายก็แข็งแกร่งเหลือเกินแทบจะไม่มีการเคลื่อนไหวของร่างกายห่างจากภามเลยสักนิด
“ถอยไปน้องรส พี่จะเอาเลือดของคนใจร้ายออก” ชานนท์ตวาดใส่รสรินด้วยอารมณ์โกรธที่มันหวี่ขึ้นเหมือนกับเปลวไฟที่ถูกราดด้วยน้ำมัน วงหน้าคร้ามแกร่งแดงปลั่งพอๆ กับประกายในดวงตาที่มองภามอย่างผิดหวังและเสียใจเป็นที่สุด
“พี่ภามทำอย่างนี้ได้ยังไง ไม่รักพี่ไทนี่ผมไม่ว่า แต่มาทำร้ายพี่สาวผมแบบนี้ได้ยังไง” ชานนท์แผดเสียงถามแหบพร่า เป็นความผิดของเขาเองที่เมื่อคืนถ้าหากว่าเมื่อเคาะประตูร้องเรียกแล้วนันทิยาไม่เปิดไม่ควรจะชะล่าใจ ถ้าเขาออกตามหามันคงไม่เป็นแบบนี้ พี่สาวเขาคงไม่ถูกภามข่มเหงย่ำยีทั้งร่างกายและจิตใจ
ภามไม่ขัดขืนถ้าหากว่าชานนท์จะต่อยเขาก็ให้ต่อย แต่ที่ยอมให้เพราะคิดว่าชานนท์จะต้องรู้ที่อยู่ของนันทิยา เขาไม่ยอมให้แม่ตัวดีนั่นหนีหายไปโดยที่เขายังเก็บเกี่ยวเอาความสุขจากเรือนร่างของหญิงสาวได้ไม่หมดหรอก
“พี่ภาม...พี่ภามพูดอะไรบ้างซิคะ” เมื่อเห็นว่าห้ามชานนท์ไม่ได้รสรินก็หันไปหาพี่ชายที่ยังนั่งนิ่งไม่รู้สึกรู้สา
“เธออยู่เฉยๆ อย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ดีกว่าหนูรส มันเป็นเรื่องของพี่กับนนท์”
“บ้าชิบ!!” สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นชานนท์ที่ทำไม่ได้ ปล่อยกายภามและดันร่างใหญ่ให้ถอยห่าง เดินไปหยิบจดหมายที่พี่สาวทิ้งไว้ให้ถลาจะกลับห้องเพื่อเก็บข้าวของ เพราะเขาไม่สามารถที่จะอยู่ดูหน้าคนที่ทำร้ายพี่สาวสุดที่รักได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว
ผมให้พี่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะพี่ภาม ต่อไปนี้พี่ห้ามมายุ่งเกี่ยวกับพี่สาวผมอีก มือใหญ่ยกขึ้นชี้หน้าภาม กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มสากนูนเด่น ประกายในดวงตาแข็งกระด้างและดุกร้าว “ถ้าไม่เชื่อผมเอาเลือดหัวพี่ออกแน่”
“เสียใจด้วยนะนนท์ เรื่องของพี่กับพี่สาวเธอที่จะต้องตกลงกันเอง แล้วตอนนี้ฉันว่านายควรที่จะบอกฉันมาดีกว่าว่าไทนี่ไปไหน อย่าให้ฉันต้องเหนื่อยหาตัวพี่สาวเธอด้วยตัวเอง เพราะถ้าฉันเจอพี่สาวเธอคงจะแหลกเหลวคามือฉันแน่ ขนาดว่าต้องการที่อยู่ของนันทิยาจนในอกในใจร้อนเหมือนถูกไฟเผาแล้วแต่ยังริขู่ชานนท์เสียอีก
พี่ภาม!!!” รสรินร้องห้ามพี่ชายเพราะกลัวว่าชานนท์จะระงับสติอารมณ์เอาไว้ไม่ได้ หันมามีเรื่องชกต่อยกันอีก เธอไม่อยากจะกลายตัวเองเป็นกรรมการห้ามมวย
ชานนท์หยุดชะงัก ตอนแรกก็ไม่อยากจะสนใจ แต่คำพูดที่ออกมามันดูถูกพี่สาวเขาเกินไป ใบหน้าคร้ามแกร่งดุกระด้าง พอๆ กับนัยน์ตาที่มันแดงก่ำด้วยความโกรธ กรามหนาบดเบียดจนนูนเด่น อยากจะหันไปต่อยหน้าภามให้เลือดกรบปาก แต่ก็ต้องระงับสติไว้ เพราะรู้ดีว่าพี่สาวคงไม่ต้องการให้เรื่องเป็นแบบนั้น
รสรินหันรีหันขวาง รู้ดีว่าภามกำลังทำปากแข็งแต่ความจริงนะอยากจะรู้เรื่องของนันทิยาจนนั่งแทบไม่ติดที่อยู่แล้ว มันเลยร้อนถึงเธอที่ทนไม่ได้ ถึงจะเคยลั่นวาจาเอาไว้ว่าถ้าภามทำให้นันทิยาเจ็บจนต้องหนีหายไปแล้วเธอจะหัวเราะให้ฟันหักและไม่คิดที่จะช่วยตามหาด้วย แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ เธอกลับทำไม่ได้ เพียงแค่ได้เห็นพี่ชายหน้าตก ร่างใหญ่ไหล่ห่ออู้ลงแม้มันจะทำให้เธอสมน้ำหน้าพ่อคนปากร้ายใจร้ายก็ตามทีเถอะแต่มันกระทบมาถึงตัวเธอด้วยนี่น่า เกินชานนท์เปลี่ยนใจประวิงเวลามาขอเธอก็ซวยซิ รสรินถลาวิ่งเร็วรี่ไปดักหน้าร่างหนาใหญ่ก่อนที่ชานนท์จะก้าวขึ้นบันไดบ้าน
“คุยกันก่อนซิคะพี่นนท์”
“ถอยไปน้องรส”
“น้องรสไม่ถอยคะ พี่นนท์ต้องบอกน้องรสก่อนว่าพี่ไทนี่ไปไหน”
“บอกให้คนบางคนตามไปทำร้ายพี่สาวพี่อีกนะหรือน้องรส” ชานนท์แขวะคนที่ยืนรอคำตอบจนหูผึ่งและตอบกลับสั้นๆ อย่างไม่คิดจะถนอมน้ำใจคนยืนฟัง “ไม่ละ” ความจริงแล้วเขาก็ไม่รู้หรอกนะว่านันทิยาไปอยู่ที่ไหน แม้จะอยากรู้แทบจะขาดแต่คิดว่าการไม่รู้จะดีกว่า เวลามีใครถามถึงก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าไม่รู้ ไม่ใช่ไม่เป็นห่วง แต่รู้ดีว่านันทิยาจะต้องปลอดภัย เขาเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
“พี่นนท์ไม่เป็นห่วงพี่ไทนี่หรือคะ”
นั่นไงคำถามแรกมาแล้ว รอยยิ้มนิดๆ ผุดขึ้นบนวงหน้าคร้ามแกร่ง “ห่วงซิ พี่สาวทั้งคนพี่จะไม่ห่วงได้ไง แต่ระหว่างห่วงแล้วตามหาให้ต้องมาเผชิญกับคนใจร้าย ทำให้เจ็บทั้งกายและใจ พี่ยอมที่จะไม่รู้และปล่อยให้พี่ไทนี่ทำใจให้ลืมอย่างที่ในจดหมายบอกไว้ดีกว่า”
“แต่น้องรสไม่ยอม” สองมือเล็กกางกั้นไม่ยอมให้ร่างใหญ่ไปง่ายๆ วงหน้าสวยงองุ้มบึ้งตึง ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า “ถ้าพี่นนท์ไม่ยอมบอกก็ไม่ต้องไปไหนเลย”
“เพราะนนท์เองก็ไม่รู้ว่าไทนี่ไปไหน ภามที่นั่งเงียบเอ่ยขึ้น
ไหล่กว้างเลิกขึ้นสูง สองมือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหันกลับมามองคนถาม “รู้แล้วทำไม ไม่รู้แล้วทำไมละครับ” ตอบแบบกวนๆ พร้อมรอยยิ้มเยาะหยันเหมือนอย่างที่ภามทำใส่นันทิยาเสมอๆ “พี่ภามน่าจะดีใจมากกว่านะครับที่พี่ไทนี่ไปเสียได้ ก็พี่ไม่ชอบพี่สาวผมไม่ใช่หรือครับ เอ๊ะ...หรือว่าไม่ชอบแต่ปาก มาถึงตอนนี้ชักจะเสียดายพี่สาวผมขึ้นมาเสียแล้ว แต่เสียใจนะครับ ถึงผมจะรู้ว่าพี่ไทนี่อยู่ที่ไหน ผมก็ไม่บอกพี่”
“แต่พี่นนท์ต้องบอกคะ” รสรินพูดพร้อมเดินมายืนหน้าชานนท์ สองแขนเล็กเรียวยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นยิกๆ อย่างคนที่ถือไพ่เหนือหว่า
“หือ...แล้วทำไมพี่ต้องบอกด้วยละน้องรส บอกเหตุผลดีๆ มาสักข้อสองข้อซิครับ” แม้ปากจะพูดกับรสรินแต่สายตากลับมองอย่างยียวนไปที่ภาม คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง
“เพราะน้องรสรักพี่ภาม รักพี่นนท์และรักพี่ไทนี่ด้วย”
“พี่รู้ว่าน้องรสรักทุกคน แล้วมันเกี่ยวกันยังไงตรงไหนละครับ เพราะน้องรสรัก แต่คนบางคนเขาไม่ได้รักด้วยนี่น่า”
“จะพูดอะไรนะคิดถึงพี่สาวบ้างนะนนท์ อย่าให้มันเกินไปนัก” ภามขู่กลับบ้างเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตีรวนเขามากเกินไปแล้ว ร่างหนาผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง สองมือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กำลังจะเอ่ยพูดก็พอดีกับที่ชานนท์เอ่ยถามขึ้นมาเสียก่อน
ไหล่กว้างเลิกขึ้นสูง “งั้นพี่ภามบอกผมหน่อยซิครับ อยากรู้ที่อยู่ของพี่ไทนี่ทำไม”
คราวนี้เป็นภามอึ้งพูดไม่ออก ตัวเขาเองก็ยังบอกตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมถึงต้องการตัวนันทิยากลับมา รู้เพียงแค่ว่าการที่หญิงสาวจากไปมันทำให้เขารู้สึกผิด ยังไงอีกฝ่ายก็เกือบจะเป็นน้องสาวเขาคนหนึ่ง ทั้งเล่นทั้งเรียนมาด้วยกัน และพ่วงด้วยความโกรธที่อีกฝ่ายทำอะไรไม่คิด ไม่รู้หรือไงว่าการหนีหายไปแบบนี้นะมันทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงและเดือนร้อน
“ว่าไงละครับ” ชานนท์ยิ้มเยาะเย้ย สุดท้ายภามก็ยังคิดแต่ว่าจะทำให้พี่สาวเขาเจ็บปวดอยู่ดีนั่นแหละ “พี่ภามก็ตอบผมไม่ได้อยู่ดี งั้นก็สืบหาที่อยู่ของพี่ไทนี่เองก็แล้วกันครับ ถึงผมรู้ผมก็ไม่คิดที่จะบอกพี่”
ภามกัดฟันคราวนี้เป็นทีของชานนท์ที่จะเล่นตัวและก่อกวนยังไง ส่วนเขาก็ต้องยอมๆ ไปก่อน แต่เขาบอกว่าคนที่หัวเราะทีหลังย่อมดังกว่าเสมอ ให้เขาได้ตัวนันทิยามาก่อนเถอะ เขาจะเอาเรื่องในวันนี้ไปลงโทษกับหญิงสาวให้หลาบจำที่ทำให้คนอื่นต้องเหนื่อยและเดือดร้อน
“หรือว่านนท์อยากให้พี่ไทนี่เป็นของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวของพี่ ก็ได้นะ แต่ว่าอาฌอนกับอานีน่าจะรับได้หรือ ถ้ากลับมาถึงบ้านแล้วลูกสาว...”
ชานนท์ถึงกับกัดฟันจนมีเสียงดังกรอดๆ ประกายในดวงตาแข็งกร้าวและดุร้าย แต่ก็พยายามระงับสติอารมณ์ไม่เล่นตามเกมส์ของภาม หรือครับ...พ่อแม่ผมคงจะเสียใจนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจดีว่าอะไรเป็นอะไร ลิ้นสากระคายกระทุ้งกระพุ้งแก้มสลับไปมาทั้งสองข้างเบาๆ คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงพร้อมรอยยิ้ม แค่มองตาก็รู้แล้วว่าภามกำลังติดใจพี่สาวเขา หึ...ตอนเขาอยู่ใกล้ไม่คิดจะสนใจ พอเพชรหลุดมือถึงได้สำนึก เชื่อเถอะว่านันทิยาไม่ยอมคืนดีด้วยง่ายๆ หรอก เจ็บแล้วมันต้องจำกันบ้างและทำให้คนที่ทำให้เราเจ็บได้รู้สำนึกด้วย คราวต่อไปจะได้รู้จักคิดเสียบ้างก่อนจะทำอะไรลงไป
“พอได้แล้วพี่นนท์” สองมือเล็กยกขึ้นเท้าสะเอว จ้องเข้าไปในดวงตาของชานนท์ที่มีแต่ความเจ็บปวดและแค้นเคือง พร้อมที่จะกลายตัวเป็นเสือลำบากที่พอใครแหยมเข้าไปก็จะกัดได้ทุกเมื่อ “รีบไปหาที่อยู่ของพี่ไทนี่เลย ไปค่ะน้องรสช่วย แล้วไม่ต้องห่วงนะคะพี่นนท์”
รสรินหันหน้าไปประจันหน้ากับพี่ชายที่ตอนนี้ยืนหน้าซีดเหลือสองนิ้วเห็นจะได้แต่ก็ยังทำปากดี ไม่น่าจะช่วยเลยให้ตายซิ ศีรษะทุยส่ายเบาๆ พร้อมรอยยิ้มที่ชายหนุ่มจะต้องเสียววาบไปถึงข้างหลัง นี่แหละน้า...กรรมของคนที่ทำอะไรไม่คิด คงรู้แล้วซิว่าตัวเองไม่ได้เกลียดนันทิยาอย่างปากพูดนะ ดีสมน้ำหน้าถึงเจอนันทิยาแล้วเธอก็ขอให้หญิงสาวเล่นตัวจนคนตามนั่นแหละกระอักเลือด แล้วเธอนะไม่ถือว่าเป็นน้องของภามแล้วจะช่วยพี่ชายแต่เธอจะช่วยนันทิยาเพราะในฐานะของผู้หญิงที่เห็นใจผู้หญิงซึ่งถูกทารุณจิตใจ
“น้องรสไม่เข้าข้างพี่ภามหรอก แต่จะช่วยพี่ไทนี่เอาเลือดจากปากที่อมเจ้าสี่ขาของพี่ภามออกให้หมดก่อนจะยอมให้พี่ไทนี่คืนด้วยคะ”
“น้องรส!!!” ภามเรียกน้องสาว ถลึงตาใส่แต่อีกฝ่ายกลับส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้เสียอีก
“เรียกทำไมคะพี่ภามขา...” สองมือเล็กสอดเข้าไปคล้องแขนใหญ่ พร้อมวงหน้าสวยที่เชิดขึ้นสูงและสะบัดอย่างไม่กลัวคอจะหัก “ไปกันเถอะคะพี่นนท์ เราอย่าไปสนใจพวกคนที่กำลังจะกลายเป็นหมาหัวเน่าเลย ชิ...เหม็นจะตาย” ปลายนิ้วเล็กยกขึ้นแตะปลายจมูกเบาๆ สาวเท้าเดินตามชานนท์เข้าไปเอาของติดกายในห้องนอนก่อนจะเดินตามกันไปขึ้นเรือกลับฝั่งที่มีบ้านชานนท์เพื่อตามหาของที่ชายหนุ่มคิดว่าพอจะเป็นเบาะแสในการตามหาตัวนันทิยา

“ได้เรื่องอะไรไหมนนท์” ภามที่ตามชานนท์มาติดๆ พยายามจะค้นหาข้อมูลด้วย แต่กลับถูกทั้งสองสาวตัวดีและชานนท์ซึ่งเข้าคู่กันดีเหลือเกินคอยแต่จะผลักไสไล่ส่งให้ไปไกลๆ เลยต้องมานั่งรอด้วยใจที่มันร้อนรุ่ม วงหน้าคร้ามแกร่งหงิกงอไม่สบอารมณ์
 ชานนท์เงยหน้าจากสมุดไดอารี่ที่ปกติแล้วพี่สาวจะพาติดตัวไปด้วยเสมอ แต่คราวนี้คงเป็นเพราะต้องการที่จะลืมตัดภามออกไปจากชีวิตให้ได้ดังที่เคยสัญญากับเขาไว้ เลยยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องและเป็นความทรงจำทั้งดีและไม่ดี แต่มันก็ดีที่ทำให้เขาได้เบาะแสของคนเป็นพี่สาวจากสิ่งเหล่านี้
“ทำไมละครับ” ชานนท์ตอบสั้นๆ แบบที่มันเลยไม่ถูกใจคนฟังถึงสองคน
“พี่นนท์ขา ตกลงพี่ไทนี่อยู่ไหนคะ จะตอบดีๆ หรือว่าจะต้องให้น้องรสลงมือก่อนคะ” ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ ส่งให้อย่างน่ารักและสะกดใจจนชานนท์ต้องรีบเมินหน้าแดงๆ หลบเพราะอาย
“บ้านเพื่อนมั้ง เอ๊ะ...หรือว่าจะไปหาพ่อกับแม่หว่า?” ไอ้เพื่อนนะภามคงไม่มีปัญหาที่จะโทรไปสอบถามหรอก แต่อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะกล้าโทรหาพ่อกับแม่เขาที่ต่างประเทศหรือเปล่า แต่ไม่ใช่ดูถูกนะ น้ำหน้าอย่างนั้นนะไม่มีทาง คนที่จะโทรถามนะหรือคงเป็นรสรินเสียมากกว่า ทั้งๆ ที่ความจริงเขาก็อยากให้โทรอยู่หรอกนะ แต่ถ้าพ่อกับรู้เข้ามันคงจะทำให้ท่านไม่สบายใจ จนต้องหยุดติการท่องเที่ยวที่พ่อต้องการทำให้แม่ด้วยความรักทั้งหมดที่มี
“ผมบอกได้แค่ว่าพี่ไทนี่อยู่บ้านเพื่อน แต่จะคนไหนพี่ภามคงจะต้องใช้ความสามารถของตัวเองแล้วละครับ ผมช่วยได้แค่นี้”
“พี่นนท์ก็ไม่รู้หรือคะว่าพี่ไทนี่ไปพักกับเพื่อนคนไหน”
ชานนท์พยักหน้ารับทั้งที่ความจริงแล้วเขาค่อนข้างจะแน่ใจเลยว่าคนที่นันทิยาไปพักด้วยนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในสองคนนี้...เอวิตรา เพื่อนที่มีนิสัยคล้ายผู้ชาย ห้าวๆ ลุยๆ ปากตรงกับใจและเกลียดภามเป็นที่สุด ไม่ใช่ไม่ชอบผู้ชายหรอกนะ แต่เผอิญว่าไม่ชอบคนหล่อและเจ้าชู้ ไม่มีครั้งไหนที่ภามและเอวิตราเจอกันแล้วไม่มีการประทะคารมกัน จนบางครั้งเกือบจะถึงขั้นวางมวยกัน เพราะความที่ต่างคนต่างก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้
ส่วนอีกคนก็รวิกานต์ เพื่อนที่ดูภายนอกจะเฉิ่มเชย เพราะชอบแต่งกายเรียบร้อยมากถึงมากที่สุด สวมใส่แว่นคันโตปกปิดสายตา ซึ่งคนนี้ค่อยดีหน่อยไม่เกลียดภามเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถูกชะตาด้วย เป็นคนที่มักจะคอยพูดกระแนะกระแหนแดกดันภามเสมอเช่นกันและเป็นคนที่พยายามบอกให้นันทิยาตัดใจจากภามเช่นกัน ถ้าหากว่านันทิยาเลือกที่จะไปอยู่กับหนึ่งในสองคนนี้รับรองได้ว่าภามจะต้องหนาวแน่นอนกว่าจะได้คุยกับนันทิยา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือว่า...
ภามไม่มีเบอร์และที่อยู่ของสองคนนี้
ชานนท์อยากจะหัวเราะให้ดังลั่นบ้าน สมน้ำหน้า มัวแต่คิดว่านันทิยาเป็นของตายเลยไม่คิดที่จะสนใจ เป็นไงละพอมาวันนี้พี่สาวเขาแข็งขืนหนีไป หาตัวไม่เจอมาร้อนถึงเขา
ภามลุกขึ้นจากที่นั่ง สองมือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เดินวนไปเวียนมาสองสามรอบ ก่อนจะจ้องมองไปยังชานนท์อย่างไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ สมุดเล่มนั้นมันจะต้องบอกอะไรมาบ้างแหละน่า “พี่ขอดูไดอารีนั่นหน่อยซินนท์”
“เสียใจด้วยครับพี่นนท์ มันเป็นความลับของพี่สาวผม ไม่สมควรให้คนนอกอย่างพี่ได้สอดรู้สอดเห็น”
ภามหน้าตึงเมื่อถูกอีกฝ่ายด่าใส่หน้า กรามหนาขบกัดจนแก้มสากระคายนูนเด่นขึ้นมาพร้อมประกายในตาเกรี้ยวกราด สองมือกำหมัดแน่น พี่สาวแกแต่เมียฉันนะโว้ยไอ้นนท์ เดี๋ยวเถอะไอ้น้องเวรนี้ เดี๋ยวเต๊ะตูดซะเลยไอ้น้องคนนี้ภามหงุดหงิดจนยืนไม่ติดที่ สองมือใหญ่ยกขึ้นทาบทับบนสะเอวสอบเพรียวบางส่วนของนิ้วสอดเข้าไปในตัวกางเกง ขาแข็งแกร่งพาร่างใหญ่เดินวนไปเวียนมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะหันมาประจันหน้ากับชานนท์
“จะเอายังไงนนท์ ว่ามาเลย”
ชานนท์ผุดยิ้มระรื่นบนวงหน้า แต่ประกายในตากลับนิ่งสนิทเหมือนท้องน้ำในทะเลลึกไม่อาจที่จะกวนให้ขุ่นได้ “ไม่เอาไงนี่ครับ อยากเจอพี่สาวผม อยากคุยอยากง้อก็...” ไหล่กว้างเลิกขึ้นเล็กน้อย ร่างหนาเดินไปนั่งเอนตัวอิงโซฟาตัวนุ่ม ขาแข็งแกร่งข้างหนึ่งตวัดขึ้นทาบทับอีกข้างด้วยท่าทางสบายๆ ไม่เคร่งเครียด
“พี่เก่งอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ทีจีบผู้หญิงพร้อมกันหลายคนยังสับรางได้เลยนี่น่า หาตัวพี่สาวผมเพียงคนเดียวคงจะไม่เกินความสามารถหรอกมั้งครับ”
“พี่นนท์ขา” รสรินหันไปขยิบตากับพี่ชายก่อนจะขยับร่างเข้ามาใกล้ๆ กับชานนท์ สองเล็กวางทับบนมือใหญ่ “เอางี้ไหมคะ ไม่ต้องบอกทั้งหมดก็ได้ แค่แย้มๆ ให้น้องรสฟังสักนิดก็ยังดี”
“อืม...เอางั้นหรือน้องรส” ชานนท์ถาม เสียดายว่าในสมุดเล่มนี้ไม่มีเบอร์ของทั้งเอวิตราและรวิกานต์ แต่เอ๊ะ...หรือว่าจะมี ชายหนุ่มเปิดสมุดไดอารี่หน้าที่มีชื่อเอวิตราพร้อมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดตามหมายเลขที่เห็นอย่างไม่แน่ใจหรอกนะว่าไอ้หมายเลขที่มันมีอยู่นะ ทั้งสองสาวเพื่อนซี้ของพี่สาวจะยังใช้งานอยู่ไหม แต่ยังไงมันก็ควรที่จะลองดูไม่เสียหายอะไร
“นั่นพี่นนท์จะโทรไปไหนคะ”
คำถามของรสรินทำให้ภามหูผึ่ง แม้จะบอกว่าเพราะเขาอยากรู้ที่อยู่เพื่อจะตามจัดจัดการยัยตัวแสบนั่นให้หนำใจแล้วค่อยทิ้ง แต่มันกลับขัดแย้งกับความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ในใจ ของที่อยู่ใกล้มือ ตอนอยู่มันคือสิ่งเกะกะให้น่ารำคาญและหงุดหงิด แต่เมื่อไหร่ที่มันหายไปในใจมันก็รู้สึกโหวงเหวงและเสียดายอย่างสุดหัวใจ ถึงจะอย่างนั้นภามก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดีแหละว่าที่เขารู้สึกอย่างนั้น เพราะเขาเริ่มที่จะคิดอะไรกับนันทิยาแล้วและเลือกที่จะดึงเอาความโมโหโกรธามาปิดกั้นเอาไว้ ขาแข็งแกร่งพาร่างหนาใหญ่ไปใกล้ๆ กับชานนท์เพื่อจะฟังการสนทนาให้ชัดเจนเต็มสองหู
ชานนท์เลือกที่จะโทรหาเอวิตราก่อนแต่เมื่อกดหมายเลขไปแล้วก็เบะหน้าเพราะไม่สามารถติดต่อได้ ฝ่ายโน้นคงจะเลิกใช้เบอร์นี้ไปแล้ว ทีนี้ก็ยังเหลือแต่เบอร์ของรวิกานต์ที่เขาเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะยังใช้งานอยู่หรือเปล่า แต่ไงมันก็ต้องเสี่ยงดู เพราะถ้าได้รู้ว่าพี่สาวพักอยู่ที่ไหนเขาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง ปลายนิ้วใหญ่ลังเลที่จะกดหมายเลขของรวิกานต์ แต่พอเหลือบสายตาไปมองทั้งภามและรสรินที่รอฟังผลอย่างใจจดใจจ่อแล้ว คนหลังนะไม่เท่าไหร่แต่ไอ้คนแรกนะซิมันทำให้เขาไม่อยากที่จะกดเลยแต่สุดท้ายก็มีมือเล็กๆ จากหญิงสาวที่นั่งใกล้ๆ มากดแทน
รวิกานต์ละมือจากหม้อข้าวต้มที่ตระเตรียมไว้ให้เพื่อนสาวที่มาถึงก็หลับสนิทจนถึงตอนนี้ก็ปาไปหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่ตื่น แม้จะสงสัยว่าอีกฝ่ายไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา แต่การจะปลุกให้คนที่หลับลุกขึ้นมาตอบคำถามก็ใช่ที่ เวลายังอีกถมเถที่จะให้เธอนั้นซักฟอกอีกฝ่าย มือเล็กเรียวยื่นไปปิดวาล์วแก๊ส เดินหันหลังเดินมาหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงอยู่บนโต๊ะวางทีวีโดยไม่มองหมายเลขที่โทรเข้าหาด้วยคิดว่าคนที่โทรหาคงไม่ใช่ใคร...เจ้านายจอมเอาแต่ใจของเธอนั่นแหละ วันหยุดทั้งที่ ไม่เคยที่จะได้หยุดพักผ่อนสบายๆ เหมือนกับคนอื่น ต้องถูกอีกฝ่ายโทรตามติดให้ต้องไปทำโน่นทำนี่ด้วยเสมอ
“สวัสดีค่ะ มีอะไรกับก้อยอีกคะเจ้านาย”
“สวัสดีครับพี่ก้อย ผมนนท์น้องพี่ไทนี่นะครับ” ชานนท์แนะนำตัวด้วยความดีใจที่อีกฝ่ายไม่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์
อ้าวนนท์เองหรือ รวิกานต์หน้าเหวอ มือเล็กยกขึ้นเกาศีรษะเบาๆ อย่างอับอายนิดๆ “โทษทีๆ พี่นึกว่าเจ้านายเลยใส่ไปซะเต็มที่”
“ครับ ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่โทรมารบกวน แต่คือผมอยากรู้ว่า...” ไม่ทันที่ชานนท์จะเอ่ยถามต่อรวิกานต์ก็ถามกลับมาเสียก่อน
“เรื่องพี่ไทนี่ใช่ไหมละ พี่ก็คิดว่าอีกสักเดี๋ยวจะโทรไปถามเราอยู่เหมือนกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับไทนี่ ใครทำอะไร ทำไมเพื่อนพี่ถึงได้ร้องห่มร้องไห้เป็นเผาเต่านะ” เกือบจะหลุดไปว่าตามตัวมีร่องรอยแดงช้ำจนตอนนี้บางส่วนของมีสีเขียวแล้วออกไป แต่คิดว่าไม่ให้อีกฝ่ายรู้ดีกว่า ดีไม่ดีชานนท์อาจรู้ตัวคนทำ แล้วเกิดระงับอารมณ์โกรธเอาไว้ไม่ไหวบันดาลโทสะไปทำร้ายคนนั้นเขา เดี๋ยวเรื่องมันจะลุกลามใหญ่โตไปเสียเปล่าๆ
“หรือว่าอีตาภามปากเสียใจร้ายนั้นทำร้ายอะไรเพื่อนพี่อีก รู้ว่าภามนะเป็นคู่หมั้นนันทิยา แต่ชายหนุ่มที่ไม่เค้ยไม่เคยจะทำตัวเป็นคู่หมั้นที่ดีดูแลนันทิยาให้ได้รับความสุขมีรอยยิ้มบนวงหน้า มีแต่จะทำให้เสียใจและเสียน้ำตาอยู่เสมอ “ถ้าหากอยู่แถวๆ นั้นฝากบอกด้วยนะว่าถ้ามาให้พี่เห็นหน้าเมื่อไหร่ละก็ พี่จะเอาไม้หน้าสามฝาดให้หน้าแหกแตกจนหมอไม่กล้ารับเย็บเลย”
ชานนท์หัวเราะ ไม่ว่ากี่ปีๆ รวิกานต์ก็ยังเป็นสาวน้อยที่ร่าเริงสดใสไม่เคยเปลี่ยนแปลง อย่างนี้เขาพอจะสบายใจได้หากว่านันทิยาอยู่กับอีกฝ่าย เพราะเชื่อว่ารวิกานต์จะช่วยทำให้นันทิยาสบายใจได้เร็วขึ้น “พี่ภามหรือครับ...เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่แถวๆ นี้แหละครับ พี่จะพูดด้วยไหม”
รวิกานต์เบะปากและส่ายศีรษะทันทีอย่างไม่รั้งรอ “ไม่ละ พี่กลัวจะทนไม่ไหวด่ากราดไปทางโทรศัพท์ มันเปลืองเงินของนนท์เสียเปล่าๆ ว่าแต่เราเถอะสบายดีไหม แต่งงานหรือยัง”
“ยังครับ ผมคงรอพี่ก้อยอยู่มั้ง ไม่รู้เมื่อไหร่พี่จะหันมามองผมบ้าง” ชานนท์ตอบกลับพร้อมกับวงหน้าที่นิ่วด้วยความเจ็บเมื่อหญิงสาวที่นั่งใกล้ๆ หยิบเนื้อแล้วบิดแรงๆ เพราะรู้ว่าเขาเคยใช้บริการของรวิกานต์ขอเลิกกับสาวๆ ชั่งตื้อบางคนตอนที่ยังเรียนมหาลัย
ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงไปกระซิบที่หูคนหยิก “พี่เจ็บนะน้องรส เดี๋ยวเถอะคืนนี้จะเอาคืน”
“หือ...นนท์ว่าอะไรนะ พี่ได้ยินไม่ถนัด”
“เปล่าครับพี่ก้อย ว่าแต่พี่ก้อยยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่าครับ เพื่อว่าคนบางคนเขาจะแวะเวียนไปหา พี่จะได้เตรียมพวกมีดไม้ไว้ต้อนรับ”
“จะมาแน่เร้อ พี่ชักจะไม่แน่ใจนะนนท์ แต่ก็เอาเถอะ บ้านพี่ยังตั้งอยู่ที่เดิม ถ้ายังจำได้และอีกอย่างก็บอกให้รีบมาเร็วๆ ด้วยนะพี่จะลับมีดไว้คอย อ๋อ...เกือบลืม” รวิกานต์มองหน้าเพื่อนที่แม้จะหลับอยู่แต่วงหน้านั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้าสร้อยและเจ็บปวด “ถ้ามาช้าพี่ไทนี่โดนคนแถวนี้ฉกไปพี่ไม่รับผิดชอบนะ เห็นเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียวฝ่ายชายก็อยากจะสานความสัมพันธ์ด้วยแล้วละ นี่ตอนเย็นก็นัดทานข้าวกันนะ”
โทษทีนะไทนี่...เจ้านาย แต่แบบนี้จะทำให้ภามเร่งมาหาแก แล้วฉันจะได้ช่วยเอาคืนให้สาสมใจ
รวิกานต์ขอโทษทั้งสองคนอยู่ในใจและแม้ว่าใจตัวเธอเองจะรู้สึกแปลบๆ ในตอนที่เอ่ยพูดคำนี้ไป แต่คิดว่าการพูดแบบนี้ไปทำให้นันทิยามีค่ามากขึ้น เพื่อนเธอไม่ใช่ของเหลือเลือกของใคร มีหนุ่มๆ มากมายที่ต้องการได้หญิงสาวไปเป็นคู่ครอง เรื่องอะไรจะต้องไปจมปลักอยู่กับไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่ไม่คิดจะถนอม มีแต่คำพูดและการกระทำที่เป็นเสมือนมีดค่อยทิ่มแทงให้เลือดอาบไหลนองหัวใจ
“หรือครับ ว้าว...พี่สาวผมนี่เสน่ห์แรงจริงๆ ” ชานนท์แสร้งร้องเสียงดัง ในดวงตาเป็นประกายพราวระยับชอบใจ “ดีจริงๆ เลยครับ งั้นรบกวนพี่ก้อยช่วยหาคนดีๆ ให้พี่สาวผมละกันนะครับ อ๋อ...อีกอย่างบอกพี่ไทนี่นะครับว่าให้แต่งตัวสวยๆ หน่อย คนมาจีบเขาจะได้ตัดสินใจขอแต่งงานเร็วๆ ไม่ต้องรอคนบางคนให้มันช้ำใจ”
“ไอ้นนท์!!!” ภามทนฟันไม่ไหวร้องเรียกหนุ่มที่เกือบจะเป็นน้องชายเขาน้ำเสียงลอดไรฟัน หงุดหงิดกับการก่อกวนด้วยคำพูดของชานนท์ จนร่ำอยากจะถวายบาทาให้กินสักทีสองที สองมือใหญ่เท้าสะเอว ขบกัดฟันกรามจนแก้มตอบขึ้นสัน แม่ง...ไอ้บ้าเอ๊ยกวนตีนชะมัดเลยมึง มือใหญ่ชี้หน้าชานนท์และแทนที่ชายหนุ่มจะกลัวเขา กลับยิ้มรับหน้าตาระรื่น
“แค่นี้ก่อนนะครับพี่ก้อย ผมกลัวคนแถวนี้จะกัดเอานะครับ” ชานนท์บอกลารวิกานต์ หันไปมองภามที่ตอนนี้เดินลิ่วๆ ไปอย่างไม่รั้งรอพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจและรีบลุกเดินตามไปเอนตัวอิงขอบประตูบ้าน สองมือสอดเข้าในกระเป๋ากางเกงมองภามที่ก้าวขึ้นรถด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน
“โชคดีนะครับพี่ภาม หวังว่าคงจะได้คุยกับพี่สาวผมโดยไม่ถูกพี่ก้อยตีจนเลือดอาบ แล้วพี่สาวผมไม่ถูกมือดีฉกเอาไปเสียก่อน อย่างนี้แหละครับ คนดีๆ และน่ารักอย่างพี่สาวผม ใครเขาก็อยากได้ ผิดกับคนบางคนเห็นเพชรอยู่ใกล้ตัวแต่เสือกไปเห็นพลอยหุงมีค่ามากกว่า สมน้ำหน้านะครับ” อยากให้พี่สาวมาเห็นสภาพในตอนนี้จังเลย เสียดายเมื่อกี้แอบลืมเก็บบันทึกภาพเอาไว้ส่งให้พี่สาวดู
“พี่นนท์นะ เล่นแรงเกินไปหรือเปล่าคะ” ยังไงรสรินเดินตามมาเอ่ยถามเบาๆ ถึงยังไงเธอก็ยังเห็นใจพี่ชายอยู่ดี อีกอย่างเธอยังอยากได้นันทิยาเป็นพี่สะใภ้นี่น่า ขืนมีใครมาชิงตัวไปซะก่อนก็เสียดายแย่
“ไม่หรอกน้องรส พี่ภามจะต้องถูกหนักกว่านี้จากทั้งพี่ก้อย พี่และพี่ไทนี่” ชานนท์ตอบกลับอย่างรู้นิสัยนันทิยาดี ยอมได้ทุกอย่างเพื่อรัก แต่เมื่อไหร่ที่ทนไม่ไหวหัวใจที่มันเคยอ่อนก็จะแข็งกระด้างเหมือนกับเพชรที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรมันก็จะไม่มีวันแตกร้าว ภามคงจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดละถึงจะทำให้นันทิยายอมคืนดีด้วย แต่คงยากที่จะเรียกคืนความรักที่เคยมอบให้นอกจากเขาจะใช้ความรักเท่านั้นกะเทาะเปลือกนอกคือความเจ็บปวดที่ห่อหุ้มนันทิยาไว้
“ปล่อยให้พี่ภามเขาจัดการปัญหาส่วนตัวของเขาดีกว่า” แขนใหญ่ตวัดร่างโปร่งบางมาอิงแอบแนบชิด ปลายนิ้วใหญ่ยกขึ้นจับรั้งปลายคางมนให้แหงนหายขึ้น “ส่วนเรา พี่ว่ามาต่อเรื่องเมื่อตอนเช้าให้จบดีกว่าไหมจ๊ะ”
“ไม่ค่ะ” รสรินปัดมือใหญ่ออกจากปลายคาง อีกมือก็ปลดรั้งแขนใหญ่ให้ออกห่าง และรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปในบ้านอย่างลืมตัวว่ามันจะทำให้เธอนั้นเพลี่ยงพล้ำเอาง่ายๆ พวงแก้มนุ่มป่องออกเล็กน้อย สองมือเล็กเรียวยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก “พี่นนท์จะต้องเคลียร์เรื่องพี่ก้อยมาก่อนและที่สำคัญคือต้องบอกน้องรสก่อนว่าเมื่อไหร่จะบอกให้อาฌอนกับอานีน่ามาขอน้องรส”
“โอ๋ คนสวยอย่างงอนพี่ซิครับ” ชานนท์สาวเท้าก้าวตามรสรินไปติด ค่อยๆ ดันให้ร่างโปร่งบางติดกับเขาที่มุมหนึ่งของตัวบ้านพร้อมด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มบนใบหน้า ในดวงตาเป็นประกายเว้าวอนอ่อนหวาน เรื่องจะให้พ่อกับแม่มาขอก้อย รอนิดได้เปล่าจ๊ะคนดี ให้เรื่องพี่ไทนี่เคลียร์เรียบร้อยก่อนนะครับ ชายหนุ่มเอ่ยเว้าวอนเสียงหวานนุ่ม ปลายนิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นลูบไล้ปลายคางมนแผ่วเบา
“ส่วนเรื่องของพี่ก้อยนะมันเก้าเก่านานมากแล้วนะครับ น้องรสอย่าหึงเลยนะครับ”
“ถอยไปนะพี่นนท์ ไม่ต้องมาใช้มุกนี้เลย น้องรสไม่หลงกลหรอกคนเจ้าชู้หรอก” รสรินไม่ยอมแพ้ สองมือยกขึ้นดันร่างหนาใหญ่ที่บดเบียดเข้ามา มันทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เดี๋ยวอีกฝ่ายก็จะใช้ความช่ำชองดึงรั้งสติของเธอให้จมหายไปในลาวาอารมณ์อันร้อนแรงจนลืมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นต้องรีบพูดรีบคุยให้มันเคลียร์กันไปเลย “ตัวเองยังรักยังชอบพี่ก้อยอยู่ใช่ไหมละ ถึงได้พูดแบบนั้นนะ” 
ชานนท์ยิ้มใส่ตาคนหึง สองมือใหญ่จับรั้งสองแขนเล็กเรียวขึ้นไปเหนือศีรษะ ปลายนิ้วยาวเคลื่อนตัวลงมาลากไล้เหนือเนินทรวง โน้มใบหน้าไปทาบขบกัดกลีบปากบนล่างอย่างแผ่วเบา “อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันในใจพี่นนท์มีแต่น้องรสคนเดียวเท่านั้นจ๊ะ”
โอ๊ย!! หัวใจละลาย
“น้องรสครับ...น้องรสจะยอมยกโทษให้คุณสามีสุดหล่อคนนี้ได้ไหมครับ” ชายหนุ่มกระพริบตาให้ปริบๆ อย่างที่คิดว่าน่ารักและละลายหัวใจฝ่ายตรงข้ามได้
“แล้วสัญญาได้ไหมละว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก” คนใจอ่อนเอ่ยถาม ค่อยๆ ดึงแขนออกจากมือใหญ่วางไพล่บนบ่ากว้าง “รู้ไหมว่าน้องรสเจ็บแค่ไหนที่ได้ยินแบบนั้น เพียงแค่คิดว่าพี่นนท์แอบปันใจไปให้ใคร น้องรสก็แทบจะขาดใจแล้ว” รสรินต่อว่าหน้าเศร้าหมอง ประกายในดวงตากลมโตค่อนไปทางแดงและฉ่ำน้ำใสๆ
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษนะครับคนดี พี่นนท์ผิดเองครับ เอาเป็นว่าขอพี่นนท์แก้ตัวด้วยการ...” ชานนท์กระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูนุ่มและไม่รอให้รสรินได้ปฏิเสธ สองแขนใหญ่ช้อนร่างโปร่งบางลอยขึ้นจากพื้นก้าวเดินยาวๆ ไปยังห้องนอนตัวเอง

13 ความคิดเห็น:

  1. เริ่มสนุกแล้ว สะใจนายภาม

    ตอบลบ
  2. สมน้ำหน้า
    ตอนเค้าอยู่ไม่เคยเห็นค่า

    ตอนนี้เป็นไงล่ะ

    เค้าหนี

    พี่นนท์อย่าไปบอกนะ ดัดหลังซะให้เข็ด
    -----------
    พี่นนท์ ตอบว่า พี่จะไม่ยอมให้พี่ภาม ทำร้ายพี่ไทนี่อีก

    ตอบลบ
  3. กว่าจะเม้นได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน

    ตอบลบ
  4. เมื่อไหร่จะรักนางเอกซะที อีพี่ภามเนี่ย น่าหมั่นไส้ ที่สุดเลย ไรเตอร์

    ตอบลบ
  5. นายภามเนี่ยจะเสียของรักยังปากไม่ดีอีก... Tiffy

    ตอบลบ
  6. ปากแข็งน่าดู อดแล้วจะรู้สึก

    ตอบลบ
  7. ไรเตอร์ฮ้า
    ขอเดี๊ยนเข้าฉากสักตอนได้มั้ยฮ้า
    จะเอา "เป็ด" ไปกรอกปากอีภาม
    ผู้ชายสันดานเสียแกมชั่วสักแกลลอน
    แง่ง

    ตอบลบ
  8. ปากแข็งน่าดู อดแล้วจะรู้สึก

    ตอบลบ
  9. นายภามปากแข็งน่าดู อดแล้วจะรู้สึก nooyai

    ตอบลบ
  10. นายภามปากแข็งน่าดู อดแล้วจะรู้สึก nooyai

    ตอบลบ
  11. สมน้ำหน้า พี่นนท์น่าจะแกล้งให้เยอะกว่านี้

    ให้หาจนพลิกแผ่นดินก่อน แล้วค่อยบอก

    ตอบลบ
  12. รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อเลยค่ะ อยากรู้ว่า พี่ภาม จะโดนเอาคืนยังไง จัดหนักค่ะ ไรเตอร์ เพราะทำร้ายทั้งร่ายกายและจิตใจ นางเอก น่าสงสาร

    ตอบลบ
  13. มาต่อไวๆนะคะ
    จะลงแดงแล้วววอยากอ่านต่อมากๆเลยคะ
    ชอบคู่คุณเจ้านายกับเลขา น้องงก้อยน่ารัก ^^

    ตอบลบ