หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เสน่ห์ลวงบ่วงมายา ตอนที่ 3 พรานล่าเนื้อ

ตอนที่ 3
พรานล่าเนื้อ
ดวงตากลมโตก็เบิกกว้าง จะหลบหนีวงหน้าคร้ามแกร่งที่โน้มลงมาก็ไม่พ้น กลีบปากหนาร้อนระอุทาบทับจากปลายจมูกโด่งเรื่อยลงไปถึงกลีบปากอวบอิ่ม กดทับบดคลึงขบเม้มกลีบปากอวบอิ่มล่างและอย่างเชื่องช้า ฝ่ามือใหญ่คลึงเคล้นเนินเนื้อนุ่มและเต่งตึงอย่างอ่อนโยน ขาใหญ่สอดแทรกแยกปลีขาเรียวยาวให้ค่อยๆ ห่างออก ถูกไถความแข็งแกร่งกับเนินเนื้อหญิงอันบอบบางและอ่อนไหว
โอ๊ย...ใครก็ได้ช่วยที ทำไมการที่ถูกผู้ชายใกล้ชิดและจูบถึงทำให้หมดเรี่ยวแรงแบบนี้
ราชาวดีตัวสั่นระริกวาบหวิวปั่นป่วนจนไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไรดี เมื่อถูกโจมตีอย่างช่ำชองและไม่มียั้ง ในท้องน้อยป่วนปั่นเหมือนกับมีลูกไฟขนาดย่อมไหลวิ่งเวียนวนอยู่และแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างอย่างรวดเร็ว สองมือบีบกำจนแน่น ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งบดเบียดเข้าหาไออุ่นร้อนที่มันแผ่กระจายมาจากอีกร่าง สองขาเรียวยาวขยับถูไถไปกับพื้นเสื่อทาทามิด้วยความรัญจวนใจ
“เผยปากหน่อยซิสาวน้อย” ริมฝีปากหนาเลาะเล็มกลีบปากอวบอิ่ม
กลีบปากบางนุ่มค่อยๆ เผยแย้มทีละน้อยให้ปลายลิ้นสากระคายสอดแทรกเข้าไปกระหวัดกวัดเกี่ยวกับปลายลิ้นเล็กอย่างไม่แน่ใจในตนเองว่าควรที่จะถอดถอยหนีและขับไล่หรือว่าจะตอบรับดี แต่สุดท้ายความวาบหวามไหวรัญจวนก็มีอำนาจเหนือกว่า ทำให้สาวน้อยที่เพิ่งจะลิ้มรสจุมพิตหวานเชื่อมในครั้งแรกยอมแพ้ ปลายลิ้นเล็กๆ ยื่นออกมาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นสากระคาย
“อืม...” ดวงตากลมโตหลับพริ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับความนุ่มหวานหอมเหมือนกับได้ลองลิ้มรสผลไม้แสนหวานรสเลิศ ความหวานติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้นจนมิอาจจะสลัดออกได้
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีอาการขัดขืนแล้วเซกิจิโร่ก็ปล่อยแขนเรียวให้เป็นอิสระ หลังมือหนาลากไล้จากหน้าผากกว้างไล่มาถึงโหนกแก้มหยุดที่บ่ากว้าง ดวงตาคมกริบมองคนใต้ร่างพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปากด้านหนึ่ง ศอกแหลมๆ เท้าบนเสื้อนุ่มพร้อมดึงเอาสาบเสื้อชุดยูคาตะให้ไหลหลุดออกมาพร้อมเกี่ยวเอาสายเสื้อชั้นในตามติดมาด้วยจนได้เห็นทรวงสล้างอวบอั๋นชูช่อไสวเหมือนกับดอกไม้บานแย้มรับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า
สวย...บอกได้คำเดียวเลยว่ากายสาวน้อยตรงหน้าสวยจนแทบจะละสายตาไม่ได้ สองเต้าอวบอิ่มสล้างสีน้ำผึ้งตัดกับปลายยอดสีทับทิมทำเอาเขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ทาบฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ ทาบทับบนทรวงสล้างเต่งตึงซึ่งบานเบ่งรับสัมผัสในทันที
“อ๊ะ...” เสียววูบไล่จากศีรษะจรดปลายเท้า ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งลอยไม่ติดพื้น ปลายยอดถันสีเข้มแข็งตัวเป็นไตชูชันขึ้นในทันที
เซกิจิโร่ขยับฝ่ามือกดคลึงบนก้อนเนื้ออวบอิ่ม ปลายนิ้วสากระคายลากไล้ป่ายปัดคลึงไคล้บีบนวดปลายยอดสีทับทิมอย่างอ่อนโยน เสียงร้องครางแหบพร่าก็ดังมาจากกลีบปากอวบอิ่มซึ่งเห่อแดงด้วยแรงบดขยี้ ริมฝีปากหนาร้อนระอุทาบทับบนพวงแก้มนุ่ม ลากไล้ไปขบกัดติ่งหูนุ่ม สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายในช่องหูเล็ก
“เธอชื่ออะไร”
สติที่ยังหลงเหลืออยู่อีกน้อยนิดบอกว่าไม่อยากจะบอกชื่อให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แต่มือใหญ่ที่ขยับเคลื่อนไปทั่วทั้งเรือนกาย ทุกสัมผัสเน้นหนักดึงเอาสติที่มีเหลืออยู่ในน้อยให้หลุดลอยออกจากกาย น้ำเสียงใสๆ และแหบพร่าดังจากกลีบปากสีชมพูที่บวมเป่ง
“ชะ...ชื่อ..ชื่อราชาวดี”
“เอาชื่อเล่นซิ ยาวแบบนี้จะเรียกยังไงละ”
ริมฝีปากหนาร้อนระอุขยับเคลื่อนไล้ซุกไซซอกคอระหง ประทับจุมพิตร้อนระอุเหมือนกับเปลวเพลิงไปจนถึงหน้าอกอวบอิ่ม ทรวงสล้างไหวกระเพื่อมเย้ายวนใจให้เขารีบจัดการ ริมฝีปากนาขบกัดเลาะเล็มผิวเนื้อสีน้ำผึ้งแผ่วเบาทั่วก้อนเนื้อนุ่มๆ ที่ตอบสนองทุกการสัมผัสจนกายใหญ่ถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมาเช่นกัน
ดวงตาคมกริบเหลือบขึ้นมองวงหน้าแดงปลั่ง ริมฝีปากหนาขบกัดหยอกล้อกับทรวงอกอวบอิ่ม ครอบครองปลายยอดทรวงสีชมพูเข้ม ขบกัดดุนดันสลับใช้ปลายลิ้นสากระคายลากไล้ป่ายปัดตวัดปลายยอดสีเข้มที่ชูช่อไหวระริกสู้ลิ้น มือใหญ่ลากไล้ขยำนวดคลึงเคล้นลำตัวกลมกลึงไล่ลงไปตามสีข้าง เรื่อยลงไปถึงเอวเล็กคอดกิ่วจนถึงบั้นท้ายกลมกลึงหนั่นแน่น วาดลากไล้ไปถึงปลีขาเรียวยาว
 “อืม...ไม่นะ...อย่า...” ไม่รู้ว่าจะร้องห้ามอย่างไรดีแล้วด้วยเสียวซ่านป่วนปั่นไปทั้งเรือนกาย กล้ามเนื้อหน้าท้องเต่งตึงไหวกระเพื่อมรับรู้ถึงประกายไฟร้อนผ่าวที่มันลามเลียไปจนเกือบจะถึงลี้ลับของเรือนกายสาว ศีรษะทุยขยับส่ายไปมากับเพลิงไฟร้อนผ่าวที่มันลามเลียไปทั่วทุกส่วน เรือนกายกลมกลึงแอ่นโค้งส่งป้อนเนินเนื้อนุ่มสล้างให้กับปากหนาได้กัดกลืนกินอย่างถนัดถนี่
“ชื่ออะไร” มือใหญ่ขยำนวดปลีน่องกลมกลึงยาวเรียว ลากไล้ปลายนิ้วยาวร้อนระอุไล้เวียนวนบนผิวเนื้อต้นขาเนียนนุ่ม ขยับไล้ไปจนเกือบจะถึงกลีบกายบอบบางและอ่อนไหว ริมฝีปากหนาอ้างับยอดอกอิ่มสลับปลายลิ้นสากระคายตวัดไล้เลียดูดดื่มความหวานหอมอย่างหลงใหลและเพลิดเพลิน
ราชาวดีขบกัดฟันพยายามที่จะขัดขืนอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถแต่ทว่าปลายนิ้วยาวร้อนระอุเหมือนกับถ่านไฟที่มันเคลื่อนไหวคลึงเคล้นบนกลีบดอกไม้บริสุทธิ์ทำให้เธอยอมแพ้ จำต้องยอมบอกไปเสียงเบาหวิวและแหบพร่า
“ชะ...ช่อ...ชะ...ช่อม่วง”
สองมือเรียวจิกปลายเล็บไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเต็มแรง เมื่อกลีบกายลี้ลับถูกบุกรุกแม้จะเพียงแค่ภายนอกก็ทำให้เธอถึงกับวาบหวิวปั่นป่วน สะโพกกลมกลึงขยับหนีแต่กลับถูกร่างหนาตรึงเอาไว้จนกระดิกไม่ได้ ขบกัดริมฝีปากจนฮ้อเลือดสลับเปล่งเสียงร้องครางผะแผ่ว สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง ลำขาสั่นระริกพอๆ กับกลีบกุหลาบบอบบางที่มันถูกแย้มกลีบให้คลี่บานก่อนถึงเวลาอันควร
โอ...กลีบกุหลาบสาวนุ่มชื้นและตอบรับดีเหลือเกิน เซกิจิโร่ร้องครางในลำคอ แก่งกายเต้นตุบๆ จากการที่กลีบกายสาวดูดกลืนปลายนิ้วจนต้องรีบเคลื่อนตัวออกอ่อนที่เขาจะทนไม่ไหวกระชากเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและหญิงสาวออกตรงนี้แล้วเริงรักจนลืมวันและเวลา
“กินอาหารก่อนดีกว่าไหมช่อม่วง แล้วเราค่อยมา...” ริมฝีปากหนาขยับเคลื่อนขึ้นไปตามลำคอระหงทาบทับบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มให้เปิดแยกสอดแทรกปลายลิ้นไปในโพรงปากนุ่ม เกี่ยวปลายลิ้นพลิกพลิ้วเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กๆ บดเบียดกายใหญ่อุ่นร้อนกับเรือนกายกลมกลึงอวบอิ่มด้วยส่วนเว้าส่วนโค้ง
“มาต่อให้มันถึงสวรรค์”
ไม่!!!...
“ไม่!!!” ไม่ใช่เพียงแค่คิดแต่ราชาวดีกลับตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เธอคิดว่ามันดังสุดๆ แล้วแต่กลับเป็นเพียงแค่สายลมแผ่วๆ ออกจากปากไปถึงหูอีกฝ่ายเท่านั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างเกือบจะเท่าไข่ห่าน ริมฝีปากขบกัดเข้าหากันเมื่อรู้ว่าได้พูดอะไรออกไป
ไม่...ศีรษะทุยสะบัดแรงๆ เป็นตายยังไงก็จะไม่ทำตามความต้องการอีกฝ่าย แต่เสียงหัวหึหึ...นุ่มทุ้มที่ดังมาจากปากหนากลับสั่นคลอนความมั่นใจของเธอเสียจนหมดสิ้น
“ไม่หรือช่อม่วง...ไม่ปฏิเสธและอย่าช้าใช่ไหมสาวน้อย” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นยังคงพยายามขัดขืนฝืนข่มอารมณ์ความต้องการเอาไว้ไม่ยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการปลุกเร้าของเขาโดยง่าย “เรามาดูกันสาวน้อย ยังไงคือนี้ฉันก็จะต้องได้เธอ” พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
ปลายนิ้วยาวใหญ่ขยับเคลื่อนไปตามเรือนกายกลมกลึงเนียนนุ่มเหมือนกับใยไหมก่อนหยุดทาบบนเนินเนื้ออิสตรีที่ตอนนี้มีเพียงแพนตี้น้อยปกปิด กดคลึงลากไล้จนกายสาวสั่นสะท้านไหวเหมือนต้นสนที่ขึ้นอยู่ริมทะเลแล้วโดนพายุจนฉ่ำน้ำอุ่นๆ กายใหญ่ร้อนผ่าวอยากที่จะสอดประสานกายเป็นหนึ่งเดียวกับราชาวดีเต็มทีแล้ว แต่รู้ว่าแม่สาวน้อยใต้ร่างยังไม่เคยเลยอยากที่จะมอบสัมพันธ์หวานๆ ที่ชวนให้อีกฝ่ายจดจำไปนานแสนนาน
“เอาเป็นว่าตอนนี้ เธอจัดการเอาอาหารที่บอกมาไปให้ฉันที่ห้องอย่างเร็วที่สุดก่อนดีไหมสาวน้อย แต่นะ...” เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะต้องไม่ทำตามคำสั่งเขาง่ายๆ “ถ้าหากคิดหนีเธอนะช่อม่วง รับรองได้ว่าไอ้หน้าใสๆ ของเธอจะต้องมีบาดแผลจนลืมไม่ลงทีเดียวสาวน้อย” เซกิจิโร่ข่มขู่ ริมฝีปากหนาทาบทับไปบนกลีบปากอวบอิ่มดูดกลืนความหวานนุ่มจนชุ่มฉ่ำใจก่อนจะยอมปล่อยกายเล็กแต่ดวงตายังจับจ้องมองกายกลมกลึงไม่คลาดสายตา
จะบอกว่าไม่หิวก็ไม่ใช่ เพราะเขาเดินทางไปจัดการกับคนทรยศที่สหรัฐต่อท้ายด้วยออสเตรเลียก่อนจะมาที่ประเทศไทยแห่งนี้ หลายวันและหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเวลาให้นอนก็ไม่มีเลย เวลาอาหารมีให้บ้างแต่ทว่าเขากลับกินอะไรไม่ลงเองต่างหาก
เพียงแค่ร่างหนาใหญ่ขยับห่างไปราชาวดีก็ถลาลุกไปซุกตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง สองมือสั่นเทาจับทึ้งดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางด้วยความกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริกจนขบกัดเอาไว้ วงหน้านวลปลั่งซีดสลับแดง อาย โกรธ เจ็บปวดและขลาดกลัวเกาะกุมจนเต็มหัวใจ ดวงตากลมโตแดงก่ำฉ่ำน้ำก่อนมันจะเอ่อล้นไหลลงมาอาบสองแก้มอย่างไม่สามารถหักห้ามได้
“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ”
“แล้วไง” เซกิจิโร่ถามกลับอย่างยียวน กวาดสายตามองไล่ไปตามลำตัวเล็กแต่กลมกลึงและน่าจับต้อง “ใช่หรือไม่ใช่...ฉันตัดสินเอง แล้วตอนนี้ฉันว่า เธอรีบไปจัดการตามที่ฉันสั่งดีกว่าไหม ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่กินอาหารแต่จะกินเธอเป็นอาหารแทน”
ไม่ทันจะสิ้นเสียงพูดจากปากหนาดี ราชาวดีก็รีบกระวีกระวาดลุกขึ้นถลาวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็วเหมือนกับลูกกระสุนที่ออกจากกระบอก สองมือยกขึ้นปิดใบหูเมื่อยังได้ยินเสียหัวเราะหึหึที่ดังลอยตามลมมา

มือเล็กเรียวเย็นและสั่นเทายกขึ้นทาบบนกลีบปากอวบอิ่ม ในดวงตาฉ่ำน้ำกวาดมองไปทั่วๆ ทางที่กำลังเดินอยู่อย่างเลิกลักระมัดระวังตัวจนเป็นตื่นตระหนก ในสมองแบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่ายและเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ฝ่ายหนูบอกว่าทำไม่ได้ อย่าทำอย่างนั้น แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าให้รีบๆ ไปให้เร็วที่สุด ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว ถ้าขืนยังไปตามที่ผู้ชายคนนั้นบอกเธอไม่มีทางรักษาสิ่งสำคัญที่สุดเอาไว้ได้ ไม่เข้าใจทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้ทำอย่างนี้กับเธอ ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับเธอ
และแล้วในที่สุดความกลัวก็เป็นฝ่ายชนะ ราชาวดีตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจากที่นี่ในทันที ถึงแม้จะรู้ว่าการทำอย่างนี้มันไม่เป็นการดีกับเพื่อนของพี่สีดา แต่เธออยู่ไม่ได้อยู่ที่นานขึ้นอีกเพียงแค่วินาทีเดียวก็ไม่ได้ มือเล็กเรียวเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งปกคลุมและสั่นรีบคว้ากุญแจที่เก็บซ่อนเอาไว้ผิดๆ ถูกๆ คิดว่ากว่าที่เธอจะคว้ากุญแจออกมาไขล็อกเกอร์ได้ก็คงจะผ่านไปหลายนาทีเลยทีเดียว ลมหายใจผ่อนออกจากปอดคว้าเอาเสื้อผ้าและถลาวิ่งไปที่ห้องน้ำสับเปลี่ยนเอาชุดทำงานออกจากกายจนเรียบร้อย
สองมือเล็กยกขึ้นปัดปลายผมที่มันยุ่งเหยิงให้เข้าที่เข้าทาง สองมือยกขึ้นปาดเช็ดริมฝีปากและส่วนต่างๆ ที่ถูกจับต้องอย่างอุกอาจ แต่ทำอย่างไรมันก็ไม่สามารถลบล้างความร้อนผ่าวที่ทาบทับอยู่บนผิวกายไม่ได้อยู่ดี ยิ่งเช็ดดูเหมือนว่ามันจะยิ่งซอกซึมเข้าในหัวใจและความรู้สึกมากยิ่งขึ้น
น้ำตาอุ่นร้อนไหลพรากจากสองดวงตาคู่สวยแม้จะยกมือขึ้นปาดซับน้ำตาที่มันไหลล้นเหมือนกับสายน้ำฝนที่ตกจากฝากฟ้า แต่ยิ่งกดซับมากเท่าไหร่มันกลับยิ่งเอ่อไหลมากยิ่งขึ้น ร่างเล็กบอบบางสั่นสะท้านไหวด้วยแรงสะอื้นทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้อง ทำไมเธอถึงต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย เธอเพียงแค่อยากทำงานเก็บเงินไปหาพี่สาว แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นต้องทำอย่างนี้กับเธอด้วย
ไม่...เราจะมามัวพิรี้พิไรอยู่อย่างนี้ไม่ได้ เราต้องรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นจะรู้ว่าเธอไม่ได้ทำตามค่ำสั่งและหันมาตามล่าเธอเพียงพาขึ้นเตียง เธอรู้ว่ามันจะต้องทำได้ คนมักมากอย่างนั้นย่อมที่จะทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ซึ่งความต้องการ
เมื่อตัดสินใจได้แล้วราชาวดีก็ผุดลุกพร้อมสองมือเล็กเรียวยกขึ้นกดซับน้ำตาบนใบหน้า ร่างเล็กบอบบางเดินตรงไปที่อ่างล้างหน้าเปิดรองรับน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดใส น้ำผ้าที่ใส่กลับไปไว้ที่เดิม แอบเดินหลบเลี่ยงไม่ให้ใครเห็นออกมาจนพ้นส่วนของพนักงาน ลมร้อนๆ เป่าพ่นออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มเมื่อคิดว่าตัวเองรอดแล้ว

ร่างหนาใหญ่ยืนเอนอิงตัวกับขอบผนังสีน้ำเหลือง ดวงตาจับจ้องที่ร่างเล็กบอบบางอย่างไม่มีคลาดคลาแม้แต่วินาทีเดียว มือใหญ่ข้างหนึ่งสอดไขว้ระหว่างอก ศอกคมอีกข้างวางทับปลายมือตวัดปากกาเล่นอย่างสบายอารมณ์
คิดไว้แล้วเชียวว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมทำตามความต้องการเขาง่ายๆ ดีนะที่สั่งให้ลูกน้องคอยเฝ้าจับตามองเลยสามารถดักเอาตัวไว้ได้ทันการ ก่อนที่จะปล่อยให้หญิงสาวหลุดรอดมือไปในค่ำคืนนี้ รู้ว่าการจะหาตัวราชาวดีนะไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับเขา แต่ก็ไม่อยากที่จะต้องรอนี่น่า อยากได้เธอในคืนนี้ ผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิดกับแม่ดอกบุษบาแรกแย้มให้ชุ่มฉ่ำกายซะหน่อย
“จะไปไหนละช่อม่วง ไม่อยู่คุยกันก่อนหรือสาวน้อย”
ราชาวดีสะดุ้งเฮือกกับเสียงนุ่มทุ้มและแข็งกระด้างที่ดังมาจากด้านหลังของเรือนกาย รับรู้โดยสัญชาติญาณว่าคนที่ร้องทักเป็นใคร เท้าเล็กเรียวที่รีบขยับเดินไปด้านหน้าอย่างรีบเร่งหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวไปอีก แต่เธอก็เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น แขนเรียวยาวถูกจับและกระชากกลับไปด้านหลังพร้อมกับเสียงหวีดร้องของคนที่กำลังตื่นตระหนก
“กรี๊ด...ว้าย!!! ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้คนลามก” มือเล็กเรียวที่เงื้อมขึ้นสูงหมายจะตบตีอีกฝ่ายและขืนฝืนตัวเองเอาไว้ไม่ยอมถลาไปตามแรงลาก แต่สุดท้ายมดตัวเล็กอย่างเธอก็ต้านแรงช้างสารไม่ได้ กายเล็กเลยถลาไปแนบชิดกายใหญ่
หึหึ...เซกิจิโร่หัวเราะแผ่วพลิ้วในลำคอ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่รับรู้ถึงความร่ำรวยและมีอำนาจของเขาคงจะต้องรีบวิ่งเข้าใส่ แต่ราชาวดีไม่ใช่ หญิงสาวเลือกที่จะหลีกหนีเขาไป แต่เธอหารู้ไม่ว่านั่นยิ่งเป็นการยั่วยุให้เขาตามติดและกักขังเอาไว้ด้วยเพลิงเสน่หาอันเร่าร้อนที่จะเผาผลาญสองร่างให้มอดไหม้เป็นผงธุลี
“ฤทธิ์มากจังเลยนะเธอนี่ ว่าแต่จะรีบไปไหนละ เรามีนัดกันไม่ใช่หรือไง”
แขนใหญ่สอดกระชับดันร่างบอบบางเข้ามาจนแนบชิด ริมฝีปากหนาทาบทับไปบนลำลาดไหล่กว้างที่อยู่เหนือตัวผ้านุ่ม ขบกัดขยับเคลื่อนทีละน้อยไปตามลำคอระหงจนถึงใบหูเล็ก ริมฝีปากหนาขบกัดสลับสอดแทรกปลายลิ้นไปในช่องหูจนกายเล็กสั่นไหวยะเยือกเหมือนกับอยู่ท่ามกลางลมพายุแรง
“ไม่...ฉันไม่ได้นัดกับคุณเลยสักนิด ปล่อยฉันนะ ฉันจะกลับบ้าน” ราชาวดีตอบกลับเสียงสั่นเทา ขนตามเรือนกายลุกชันกับสัมผัสวาบหวามที่อีกฝ่ายบรรจงมอบให้ ในหัวใจไหววูบสลับเต้นแรงรัวเร็วจนแทบจะหลุดออกมากองอยู่ด้านนอก จะขยับกายแม้น้อยนิดก็ไม่กล้าเพราะกลัวการบดเบียดเสียดสีของสองร่างที่จะนำพาอารมณ์แปลกๆ วาบหวามมาสู่ร่างกาย ริมฝีปากอวบอิ่ม
“แน่ใจหรือที่ว่าไม่ได้นัดกับฉัน แล้วเมื่อกี้ที่เราตกลงกันอยู่ในห้องอาหารละ แล้วเราก็...” สองมือใหญ่จับรั้งร่างเล็กให้หันมาประจันหน้าด้วย มือใหญ่ยกขึ้นจับปลายคางมนบังคับให้ศีรษะทุยแหงนหงายขึ้นพอที่จะได้คุยกันโดยที่เขาไม่ต้องก้มหน้าลงไปหา ปลายนิ้วยาวร้อนลากไล้จากปลายคางขึ้นไปจนถึงกลีบปากนุ่มอุ่น
“หยุดพูดนะคนสารเลว ไอ้หน้ารักแกผู้หญิง” วงหน้าสวยพยายามเบือนหนี พร้อมกับความอยากจะยกมือขึ้นปัดมือใหญ่ที่จับตรึงปลายคางอยู่ ไหนจะปลายนิ้วยาวเรียวที่มันลากไล้เคลื่อนไหวตามอำเภอใจอยู่บนวงหน้าทำให้เรือนกายเล็กสั่นสะท้านไหว หัวใจเต้นแรงและเร็วจนแทบจะหลุดออกมากองอยู่ด้านนอก
“อ้าว...ก็ผู้หญิงอย่างเธอมันน่าให้รังแกนี่น่า หวานซะจนฉันอยากที่จะ...” เซกิจิโร่รู้สึกหมั่นเขี้ยวอีกฝ่ายจนต้องกดปลายจมูกโด่งเป็นสันลงบนพวงแก้มนุ่มที่แดงปลั่งเหมือนเชอรี่ ยิ่งทำให้เขาทวีความอยากได้ใคร่สำรวจความหวานของอีกฝ่ายขึ้นมาจนแทบจะระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ได้แล้ว
แปลกแต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เขาต้องการราชาวดีมากจนถึงกับยอมถูกหญิงสาวด่าว่าเป็นคนเลว...แต่ยังไงเขาก็เป็นอยู่แล้วนี่น่า ถูกด่าว่ารังแกผู้หญิงอีกหน่อยจะเป็นไรไป
ไหล่กว้างเลิกขึ้นสูง ปกติแล้วผู้หญิงสำหรับเขาคือเครื่องระบายความใคร่และความเครียดที่มันจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ทว่าเมื่อได้พบกับราชาวดีความรู้สึกนั้นก็ได้เริ่มเปลี่ยนไป อย่างที่เขาเองก็ไม่อยากจะรู้ด้วยว่ามันเพราะเหตุใดกันแน่ รู้เพียงอย่างเดียวว่าจะเก็บหญิงสาวเอาไว้บนเตียงก่อนจะเบื่อแล้วเมื่อนั้นก็ค่อยคิดอีกทีว่าจะเอายังไงกับเธอดี
“ปล่อยฉันนะไอ้คนเลว ไม่งั้นฉันจะร้องเรียกให้คนช่วย” เพราะเห็นว่าตอนนี้มีผู้คนเดินสัญจรไปมาอย่างขวักไขว่ ถ้าหากว่าใจกล้าสักหน่อยร้องเรียกให้คนช่วย คงจะทำให้เธอมีเวลาพอที่หนีอีกฝ่ายไปได้   
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู” ชายหนุ่มเอ่ยท้า เพราะรอโอกาสอยู่แล้วและเพียงแค่อีกฝ่ายเปิดปากเท่านั้นใบหน้าคมคร้ามก็โน้มลงประทับจุมพิตบนกลีบปากอวบอิ่มทันทีพร้อมสอดแทรกปลายลิ้นสากระคายล่วงล้ำเข้าไปควานหาความหวานหอมจากโพรงปากอุ่นนุ่ม
“อือ..อื้อ...”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเสียงที่จะร้องเรียกขอความช่วยเหลือกลับกลายเป็นถูกอีกฝ่ายรังแกเอาอีกแล้ว สองมือเล็กกำหมัดแน่น เรือนกายสั่นสะท้านไหวกับเปลวเพลิงไฟที่มันเริ่มต้นลามเลียไปทั่วกายาอีกครั้ง เรียวลิ้นเล็กที่พลิกพลิ้วขยับหนีสลับกับดุดดันขับไล่ลิ้นใหญ่และร้อนผ่าวยิ่งเป็นการยั่วยุให้อีกฝ่ายนั้นทำตามใจปรารถนาจนเธอรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังโดนสูบเอาวิญญาณออกจากกาย
เซกิจิโร่บดเบียดกลีบปากร้อนระอุ ซอกซอนปลายลิ้นตวัดไล้เกี่ยวพัวพันกับลิ้นเล็กๆ สองแขนแข็งแกร่งสอดกระชับร่างเล็กจนแนบชิดทั่วสรรพางค์ วาดมือไล้ไปตามเรือนกายเล็ก เรือนกายเล็กที่เห็นว่าอรชนอ้อนแอ้นแต่เมื่อได้สัมผัสจริงๆ กลับรับรู้ถึงความอิ่มเต็มกลมกลึงทุกสัดส่วนให้ต้องจับต้องคลึงเคล้น ในกายหนุ่มร้อนฉ่าเหมือนกับอยู่ท่ามกลางกองเพลิง จนต้องรีบถอนจุมพิตแผดร้อนออกอย่างเสียดาย เพราะกลัวระงับอารมณ์ตัวเองไม่ไหวปล้ำหญิงสาวเสียบนสนามหญ้าหน้าโรงแรมนี้เสียก่อน
“ว่าไงช่อม่วงยังจะร้องให้คนอื่นช่วยอีกไหมสาวน้อย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงกระเส่า ซุกไซ้ใบหน้าระหว่างลำคอระหงและใบหูนุ่มขบกัดสอดแทรกปลายลิ้นสากระคายไปในช่องหูเล็ก ปลายนิ้วยาวใหญ่ขยับเคลื่อนมากดคลึงทรวงอวบอิ่มส่งความร้อนระอุ่นผ่านเนื้อผ้าบางเบาที่หญิงสาวสวมใส่
มาถึงตอนนี้ราชาวดีทำอะไรไม่ถูกแล้ว กายเล็กสันเทาเอนอิงร่างหนาใหญ่ ลมหายใจหอบแรงและเร็ว วงหน้าสวยแหงนหงายขึ้นมองสบดวงตาคมกริบกึ่งโกรธกึ่งเขินอายแต่ถ้าจะถามว่าความรู้สึกไหนมากกว่ากัน บอกได้เลยว่าเป็นความรู้สึกหลังที่มันรุนแรงเหมือนกับค้อนที่มันทุบลงท้ายทอย
ปลายลิ้นเล็กๆ ยื่นออกมาลากไล้กลีบปากนุ่ม ดวงตากลมโตมองสบกับดวงตาคมกริบที่มันกำลังสะกดจิตเธอให้ลุ่มหลงในรสชาติแปลกๆ อย่างที่หักห้ามเอาไว้ไม่ได้ แวบหนึ่งที่เธออยากรู้ว่าหากยื่นมือขึ้นไปแตะต้องวงหน้าคร้ามแกร่งซึ่งสะท้อนกับแสงไฟให้ดูลึกลับหน้าค้นหาจะเป็นอย่างไรบ้าง และไม่ต้องรอให้ต้องตัดสินใจอีกครั้ง มือเล็กเรียวก็ยื่นขึ้นไปทาบทับบนปลายคางสากระคาย
เมื่อครู่ตอนที่มันบดคลึงอยู่บนผิวกายของเธอทำให้เสียงวูบวาบเหมือนกับถูกไฟช็อต แม้ตอนนี้เองก็ไม่แตกต่างไปเลยแต่ยิ่งจะเป็นหนักกว่าเก่าเพราะคนร่างใหญ่ดูท่าจะไม่ยอมปล่อยเนื้อออกจากปากเสือเลย แต่ถึงกระนั้นราชาวดีก็แปลกใจเช่นกันที่ตัวเองไม่ได้นึกจะกลัวและรังเกียจกับสัมผัสที่ได้รับเลยแม้แต่น้อยนิด
ประกายในดวงตากลมโตวาววับสะท้อนกับแสงดวงไฟที่อยู่ไม่ไกลด้วยแววกึ่งอยากรู้อยากเห็นและอยากลอง ปลายนิ้วเล็กเรียวลากไปตามกลีบปากหนายักเล็กน้อยที่ร้อนระอุ ยามที่มันบดขยี้ทาบทับไปบนผิวกายทำให้เธอสั่นสะท้านไหวเหมือนได้เดินไปหยุดอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟ
ริมฝีปากหนาขบกับไล้เลียปลายนิ้วเล็กๆ จ้องมองด้วยสายตาแห่งปรารถนาอันเร่าร้อน กายใหญ่ย่อลงพร้อมสอดแขนระหว่างข้อพับดันกายเล็กขึ้นในวงแขนและก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างที่ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำพูด เพราะดูเหมือนว่าราชาวดีเองก็จะยอมรับในสิ่งที่มันจะต้องเกิดขึ้นแล้ว
“ฉันรอไม่ไหวแล้วช่อม่วง ไปห้องฉันกันเถอะสาวน้อย” เซกิจิโร่ย่อตัวลงเล็กน้อย สอดแขนระหว่างข้อพับดึงร่างเล็กขึ้นมาจากพื้นเหมือนกับว่าร่างราชาวดีนั้นเป็นเพียงแค่ปุยนุ่นไม่มีน้ำหนัก
ค่ะราชาวดีตอบรับเสียงหวานนุ่มพลิ้วในลำคอ วงแขนเรียวยาวโอบรอบลำคอแกร่ง ซบหน้ากับอกกว้างตรงส่วนที่หัวใจของเขาเต้นอยู่ ดวงตากลมโตหลับพริ้มอย่างยอมรับความจริงว่าถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการเขาไม่มีวันที่จะปล่อยเธอไปแน่นอน

4 ความคิดเห็น:

  1. จะรอดหรือเปล่าเนี้ย ตั้งใจซะขนาดนี้แล้ว

    ตอบลบ
  2. อ๊ากกกก
    สารเลวงิอีเซ
    หนูช่อก็
    กระแทกเข่าไปที่หว่างขาแล้วตื้บซ้ำสัก 2-3 ทีเร้ยยย
    อย่าได้กลัว

    ตอบลบ
  3. มารออ่านนะคะ....เป็นกำลังใจให้ค่ะ

    ตอบลบ
  4. แง...แง....มารออ่านอ่ะค้าาาา เมื่อไรจะอัฟต่อคะ?????

    ตอบลบ