หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทัณฑ์เถื่อน ตอนที่ 6 มันคือนรกฤๅสวรรค์ (100%)


ตอนที่ 6
มันคือนรกฤๅสวรรค์
“โครม!! เพร้ง!!
เสียงเหมือนกับข้าวของแตกกระจายทำให้คนซึ่งกำลังให้ความสนใจกับรถลีมูนซีนคันใหญ่ที่ดูเหมือนว่าจะพุ่งตรงมายังคาสิโนของเขา กรามหนาขบกัดจนนูนเด่น ดวงตาเป็นประกายแข็งกร้าวพร้อมกับคำถามว่าสองพี่น้องจูโน่และจูปิเตอร์ยังไม่จัดการไอ้ตัวแสบที่จ้องจะงุบกิจการของเขาละความสนใจหันมามอง
“ฉิบหาย ยัยบ้าเอ๊ย!!” มือใหญ่เอื้อมไปเปิดประตูห้องทำงานดังปังใหญ่
“ใช้ให้ฉันทำงานใช่ไหม นี่แนะๆ เอาให้เละเป็นโจ๊กเลย”
จากความโกรธเมื่อมีโอกาสมณีมณฑ์ก็ไม่ยอมให้โอกาสดีๆ มันหายไป เพียงแค่มือจับด้ามไม้กวาดและไม้ถูกพื้นได้ สมองกมันก็ไหลลื่นจนรู้ว่าควรจะเอาคืนคนที่จับเธอมาอย่างไรดี
มือเล็กจับด้ามไม้แข็งๆ ไว้จนมั่นฝาดลงไปบนโต๊ะแก้วที่ใช้รับแขกอย่างไม่ยั้งจนเศษแก้วแตกกระจาย ก่อนจะตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่มีกระจกแก้วใสตั้งกั้นระหว่างข้าวของบนโต๊ะและตัวไม้สีดำมันวาวและที่สำคัญคือโต๊ะใกล้ๆ เป็นคอมพิวเตอร์ตัวใหญ่ที่หากทำได้สำเร็จก็คงจะทำให้ผู้ชายใจร้ายเสียหายได้เยอะทีเดียว
หึ...อยากรู้นักว่าไอ้บ้านั่นจะทำยังไง ถ้าต้องมาเจอข้าวของในห้องเละตุ้มเปะด้วยน้ำมือของเธอรอยยิ้มอย่างสะใจผุดขึ้นบนวงหน้ารูปหัวใจ พร้อมมือเล็กเรียวยกด้ามไม้ถูกพื้นจนสูง แต่ยังไม่ทันที่มือเล็กจะได้ยกแขนขึ้นก็มีเสียงดังเหมือนว่าอะไรบางอย่างหัก
“โอ๊ย!!!!” มณีมณฑ์ร้องเสียงหลงและรีหันมองดูคนที่ทำร้ายเธอ ก่อนวงหน้าที่ยิ้มอย่างสะใจจะถอดสีซีดเผือดยังกับกระดาษ “ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ฉันเจ็บนะโว้ย” พร้อมเสียงโวยวายจากปากอวบอิ่มดังลั่นห้องกับศอกแหลมคมที่พยายามกระทุ้งเข้าหาร่างที่ใหญ่ที่จับรั้งแขนเรียวยาวลงแรงบีบจนแทบจะหักขาดเป็นสองท่อน วงหน้าสวยบูดเบี้ยวเหยเก๋ ในดวงตารื้อไปด้วยน้ำตาที่มันเอ่อล้นแต่ผู้เป็นเจ้าของไม่ยอมให้มันไหลออกมา
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้โจรห้าร้อย” ลมหายใจที่สูดเข้าปอดแรงและเร็ว ฝืนตัวไว้ไม่ยอมไปตามแรงลากจูงแม้จะทิ้งตัวลงบนพื้นพรมที่ตอนนี้เต็มไปด้วยข้าวของระเกะระกะจากฝีมือของตนเองที่กวาดทุกอย่างจากชั้นลงมาวางทับถมจนเลยไปครึ่งน่อง มือเรียวยื่นไปคว้าขอบประตูซึ่งเธอไม่รู้เลยว่ามันมีอยู่ เพราะถูกซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียน
ด้วยความรำคาญว่าอีกฝ่ายฤทธิ์มากเหลือเกิน มือใหญ่สอดรั้งดึงเอาร่างเล็กบอบบางขึ้นจากพื้นและฝาดฝ่ามือลงไปบนสะโพกกลมมนแรงๆ จนอีกฝ่ายแผดเสียงร้องเสียงดังลั่นห้องอีกคราก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากคนตี มีเพียงการก้าวเดินอย่างมั่นคงไปจนถึงเตียงนอนใหญ่ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องก่อนจะโยนร่างบอบบางลงไปพร้อมทาบตัวเองตามไปติดๆ
“เธอนี่มันฤทธิ์มากจริงๆ นะผึ้งเผลอเป็นไม่ได้”  สองมือใหญ่จับรั้งมือเล็กเรียวที่พยายามตะกุยตะกายฟ้อนเล็บแหลมคมบนเรือนกายอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช ขาใหญ่ทาบตรึงลำขาเรียวยาวให้หยุดนิ่งกับที่
กว่าที่จะทำให้อีกฝ่ายหยุดใช้ร่างกายขัดขืนได้ก็เล่นเอาอพอลโล่เหงื่อตกไปได้เหมือนกัน แต่ยังมีอีกอย่างที่ยังทำไม่ได้นั่นก็คือเสียงร้องดังลั่นที่ได้ยินแล้วแก้วในหูลั่นเปรี๊ยะจนถึงกับมึนงงไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวจนต้องรีบเอามืออุดปากเอาไว้ แต่คนที่แผดเสียงร้องจนได้ยินไปสามบ้านเจ็ดบ้านก็ไม่ยอมแพ้ยังพยายามที่จะขบกัดนิ้วใหญ่ที่ล่วงล้ำเข้าไปภายในเต็มๆ แรง
“จะแหกปากร้องให้มันได้ด้วยขึ้นมาหรือไงแม่ตัวดี เดี๋ยวเธอก็จะได้ร้องสมใจแล้วละ แต่ไม่ใช่แผดเสียงร้องเหมือนกับสัตว์ถูกเชือดนะ แต่ร้องบอกว่า...”
แม้จะเจ็บแต่อพอลโล่ก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ใบหน้าคมคร้ามโน้มไปแทนที่มือใหญ่ที่ขยับเคลื่อนออกพร้อมซอกซอกเข้าไปในตัวเสื้อกอบกุมเนินเนื้อนุ่มนิ่มที่กำลังสะท้อนขึ้นและลงตามแรงหายใจหอบเร็วของพูดเป็นเจ้าของ บีบเคล้นเฟ้นด้วยความรุนแรงราว
“ร้องอ้อนวอน...เอาอีกๆ ไงผึ้ง” ริมฝีปากหนาก็กดคลึงแรงๆ ขบกัดกลีบปากบนล่าง สอดแทรกปลายลิ้นร้อนระอุซอกซอนไปกวาดไล้โพรงปากนุ่ม
“อือ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่คิดว่าสิ่งที่ทำลงไปเมื่อครู่จะก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าดี เรือนกายเล็กกลมกลึงพยายามผลักดันร่างหนาใหญ่ให้ออกห่าง แต่กลับกลายเป็นว่าไปยั่วยุอารมณ์ปรารถนาในกายหนุ่มให้ลุกลามเหมือนสะเก็ดไฟที่มันกระเด็นไปตกที่กองฟางและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ เพราะมีแต่รังจะให้เจ็บตัวจากมือใหญ่ที่จับลงมาด้วยความแรงไม่มียั้ง มณีมณฑ์ก็คิดใช้ร่างกายอันอ่อนแอของตัวให้เป็นประโยชน์ ร่างเล็กบอบบางเริ่มทำตัวอ่อนระทวยและหายใจรวยรินเหมือนกับคนที่กำลังจะสิ้นใจ
อพอลโล่รู้สึกแปลกใจเมื่ออาการแข็งขืนขัดขืนหยุดชะงักลง อีกทั้งคนที่อยู่ด้านล่างก็เกิดอาการเกร็งไปทุกส่วนของร่างกายและกระตุกถี่ๆ ดวงตาเบิกกว้างพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ มือใหญ่ละจากการฟอนเฟ้นทรวงสล้างขึ้นมาตบบนใบหน้าของคนที่เหมือนจะเป็นลมเบาๆ
“นี่เธอ ผึ้ง...ผึ้งเป็นอะไรนะ อย่าล้อเล่นซิ” อพอลโล่ร้องเรียกอย่างตกใจ ก็เกิดมาเขาไม่เคยเห็นใครมีอาการเหมือนกับคนจะตายแบบนี้มาก่อน เพราะเท่าที่เจอนะโป้งเดียงจอดทุกรายเสียมากกว่า
มณีมณฑ์เห็นว่าได้ผลก็ยิ่งทำตัวอ่อนระทวยพยายามสูดลมหายใจเข้าปอด ดวงตากลมโตที่ปิดสนิทเมื่อครู่หรี่ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะปิดลงอย่างรวดเร็ว “แม่ขา...ช่วยผึ้งด้วย ผึ้งกลัว” แถมยังทำตัวสั่นและน้ำเสียงแหบแห้งและเบาหวิวจนแทบจะไม่มีเสียงออกมาจากปาก
“ไม่ต้องมาทำสำออย เจ้าเล่ห์มารยาให้ฉันใจอ่อนเลยนะผึ้ง” ยังไงอพอลโล่ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ได้เห็น เพราะรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าร้อยเล่ห์เจ้ามารยาหลอกคนให้หลงเชื่อด้วยท่าทางไร้เดียงสาที่ปั่นแต่งไว้ราวกับนางร้ายในละคร ตอนแรกก็อ่อนหวานและอ่อนแอ แต่ภายในจิตใจกลับซ่อนความร้ายกาจเอาไว้อย่างมิดชิด เผลอตัวเมื่อไหร่ก็กลับกลายตัวเป็นงูพิษฉกกัดคนที่ไม่ชอบให้พิษร้ายค่อยๆ แทรกซึมแต่ตรงเข้าหัวใจให้ตายสนิทในทันที
ความเงียบจากคนใจร้ายทำให้มณีมณฑ์นอนตัวสั่น หัวใจดวงน้อยยิ่งกระหน่ำเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินและจับไต๋ได้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ เสียดายอย่างเดียวก็คือร่างกายที่ไม่เย็นจัดอย่างที่ต้องการ ดวงตากลมโตค่อยๆ หรี่ขึ้นทีละน้อยอย่างต้องการเหลือบดูว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไรต่อไป
วงหน้าคมคร้ามเหมือนกับไม่แน่ใจและตกใจทำให้มณีมณฑ์แอบดีใจ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกจากอกเมื่ออีกฝ่ายค่อยๆ ถอยห่างไป ไม่ว่าจะยังไงแผนการนี้ก็ยังใช้ได้ผลเสมอ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องเป็นห่วงเป็นใยในตัวคนที่กำลังป่วย ไม่เว้นแม้แต่คนที่ใจแข็งอย่างเช่นผู้ชายตรงหน้า อยากจะยิ้มเยาะเสียเหลือเกินตามณีมณฑ์ก็รู้ว่าตอนนี้ยังไม่ควรทำอะไรให้อีกฝ่ายสงสัยและจับได้ เขาถึงบอกว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า งานนี้ก็เหมือนกัน
“บ้าชิบ...” อพอลโล่สบถเสียงเขียวเข้ม ละล้าละลังทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเมื่อเจอกับคนเป็นลม ร่างหนาใหญ่ผุดลุกจากเตียง มือใหญ่ยกขึ้นลูบลำคอ ดวงตาจับจ้องที่ร่างเล็กบอบบางซึ่งนอนกระสับกระส่าย เหงื่อแตกซิก แต่แล้วเหมือนกับมีอะไรฉุกใจให้เขาคิดมองวงหน้าเปื้อนดำเพราะคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เปรอะเปื้อนอยู่ควรจะซีดเผือดอย่างคนเป็นลม แต่นี่กลับแดงปลั่งไปด้วยเลือดฝาด
วงหน้าคร้ามแกร่งผุดรอยยิ้มแวบหนึ่งที่มุมปาก พร้อมดวงตาเป็นประกายมีเลศนัย เมื่อนึกถึงประวัติของมณีมณฑ์ที่ลูกน้องส่งมาให้ได้อ่าน นี่เขาโดนอีกฝ่ายเล่นงานเข้าอีกแล้วใช่ไหมนี่...เกือบไปแล้วไหมเรา มารยาร้อยเล่ห์จริงๆ นะผึ้ง
“อดทนนิดนะผึ้ง เดี๋ยวฉันจะพาไปหาหมอนะ” ร่างหนาใหญ่รีบก้าวไปยืนอีกฝั่งของตั่งเตียงนอนอีกฝั่ง พร้อมสองแขนใหญ่สอดเข้าไปดึงร่างเล็กบางลอยขึ้นจากเตียง แต่ไม่ใช่ว่าจะพาออกไปจากห้องนอนที่เขาใช้พักผ่อนหย่อนอารมณ์กับหญิงสาวหลากหลายนามและจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงาน ห้องนี้จึงเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบครัน แม้กระทั่งห้องน้ำก็ใหญ่โต สะดวกสบายและสะอาดสะอ้าน
มณีมณฑ์รู้สึกแปลกๆ ในใจเมื่อหูแววได้ยินเหมือนกับเสียงอะไรบางอย่างตกกระทบอีกอย่างเป็นเสียงซู่ซ่า เหมือนเสียงน้ำแฮะ แต่แม้จะอยากหรี่ตามองสักเท่าไหร่ก็ต้องข่มกลั้นความอยากรู้เอาไว้ในอก ก่อนที่ความอบอุ่นจากกายใหญ่จะกลับกลายเป็นเสียงหวีดร้องเสียงดังลั่น
“กรี๊ด!!!!! แค๊กๆ ”
มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำออกจากใบหน้าอย่างเร็วรี่ ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับอย่างเอาเรื่องจ้องไปที่ร่างหนาใหญ่ซึ่งกำลังส่งเสียงหัวเราะดังลั่น สองมือเล็กทาบไปบนขอบอ่างพยุงตัวเองลุกขึ้นหมายจะเข้าไปทำร้ายร่างกายใหญ่แต่กลับลื่นถลาตัวไปด้านหน้า แต่ดีกว่าแขนใหญ่ยื่นออกมาคว้าได้ทันแถมออกแรงเพียงแค่นิดเดียวร่างเล็กเบาหวิวไปทาบตรึงไว้กับผนังห้องเย็นๆ
“เธอนี่มันเจ้าเล่ห์เพทุบายและมารยาเก่งจริงๆ นะผึ้ง ทำท่าเหมือนกับว่าจะเป็นไข้ให้ใครเขาสงสารและเห็นใจ นี่คงจะแอบหัวเราะคนอื่นเขาลับหลังมามากต่อมากแล้วซิ”
แขนใหญ่สอดกระชับร่างเล็กบางดึงจนลอยขึ้นจากพื้น “แต่เสียใจด้วยนะแม่ตัวแสบ เผอิญฉันไม่โง่พอให้เธอหลอกเอาบ่อยๆ ”
มือใหญ่จับสองขาเรียวโอบรอบสะโพกสอบบดเบียดกายใหญ่และแข็งแกร่งเสียดสีกับกลีบกายอิสตรีก่อนจะไล่ไปจับดึงเสื้อตัวเล็กที่เปียกชื้นดึงไปจนมันหลุดออกจากศีรษะแต่ชายหนุ่มยังไม่ยอมให้มันหลุดจากกายสาวด้วยไปพักและพันๆ ที่ข้อมือเล็กจนกลายเป็นเชือกเหนียวหนึบชั้นดีมัดสองแขนเรียวให้ติดกันและสอดศีรษะเข้าไปจนสองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งที่ไม่มีทางหลุดออกได้เลย
“ปะ...ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้สารเลว ไอ้หน้ารังแกผู้หญิง” วงหน้าสวยสะบัดหนีพร้อมด้วยกายเล็กที่พยายามดึงหนีมือใหญ่
“ฉันยอมเป็นทุกอย่างตามที่เธอว่าผึ้ง เพราะผู้หญิงอย่างเธอมันฤทธิ์มาก แล้วก็ไม่ต้องโทษคนอื่นเลยนะผึ้ง ถ้าจะโทษก็ให้โทษตัวเองที่ทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ แล้วต่อจากนี่ก็รับโทษทัณฑ์จากฉันได้แล้วแม่ตัวดี” ริมฝีปากหนาร้อนระอุเหมือนเคลือบไว้ด้วยลาวาจากใต้ปล่องภูเขาไฟทาบบนหน้าผากโหนกนูนไล่ลงไปตามพวงแก้มอิ่มเต็มหอมกรุ่นก่อนประทับบนเรียวปากอวบอิ่มที่ขยับอ้ากรีดร้องและด่าทอ
ผิวกายยัยใจร้ายหอมหวานชวนลุ่มหลงจนถอนกายถอนใจไม่ขึ้น ผิวเนียนนุ่มเหมือนกับใยไหมชั้นดี จับลูบไปทางใดก็ล้วนแล้วแต่ลื่นมือไปเสียหมด หวานหอมเหมือนกับไวน์รสเลิศ มือใหญ่ลูบไล้บีบนวดผิวกายเนียนนุ่ม ริมฝีปากขบกัดดูดเม้มกลีบปากบนและล่าง สอดแทรกกวาดไล้ไปทั่วไรฟัน กระพุ้งแก้ม เกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กที่พยายามผลักไสขับไล่ลิ้นสากระคายให้ออกห่างกลายเป็นลิ้นต่อลิ้นเกี่ยวพันสำรวจตรวจกันและกัน อพอลโล่ดูดดื่มความหวานปานน้ำผึ้งจากโพรงปากนุ่มด้วยความหลงใหลเนิ่นน่าไม่รู้จักเบื่อหน่าย
“อือ...”
มณีมณฑ์ตัวสั่นระริกจากความเย็นจัดเหมือนกับน้ำแข็งกลับกลายเป็นความร้อนรุ่มเหมือนกับอยู่ท่ามกลางกองเพลิงขนาดใหญ่ อยากที่จะขัดขืนเหลือเกินแต่เพียงแค่ถูกแตะต้องด้วยความเร่าร้อนที่ชำนาญกาลใจมันก็อ่อนยวบเหมือนกับขี้ผึ้งถูกลนด้วยไฟ กายอ่อนระทวยหมดไร้เรี่ยวแรงอย่างกะทันหัน ความพยามในการขัดขืนหมดสิ้นไปด้วยฤทธิ์จุมพิตวาบหวามและเร่าร้อนที่เรียกร้องให้ต้องตอบสนอง
ปลายลิ้นเล็กๆ เกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นสากระคายดูดดื่มความหวานเย็นเหมือนกับได้ทานขนมหวานฝีมือแม่ที่อร่อยลิ้นให้ต้องตามติดดูดดื่มความหวานที่ได้รับอย่างชุ่มฉ่ำใจ ปลายนิ้วเล็กๆ จากที่ทุบตีบ่าและแผ่นอกกว้างเริ่มขยับเคลื่อนเท่าที่จะทำได้ ลากไล้ไปตามลำขอแข็งแกร่งสอดแทรกเข้าไปในเส้นผมหนานุ่ม บดเบียดกดคลึงเรือนกายนุ่มนิ่มเข้ากับความแข็งแกร่งและอบอุ่นของกายใหญ่
“อืม...ผึ้ง...” อพอลโล่รู้สึกเหมือนกับมีไฟร้อนผ่าวไปทั่วกายาเมื่อมณีมณฑ์ตอบสนองกลับมาอย่างไร้เดียงสาแต่ความเร่าร้อนกลับมีมากกว่าสาวที่มีความช่ำชองเสียอีก
กลีบปากบางนุ่มหวานเปิดแยกให้ปลายลิ้นสากระคายได้ล่วงล้ำไปกวาดไล้ซอกซอนหาความหวานง่ายและถนัดถนี่ขึ้น สองขาเสลารัดรอดสะโพกสอบเพรียวและแข็งแกร่งบดเบียดถูไถสัดส่วนกลีบกายสาวให้แนบชิดอีกร่างจนกายใหญ่ถึงกับสั่นสะท้าน สองขาแกร่งก้าวเดินออกจากห้องน้ำตรงกลับไปเตียงนอนอย่างรีบเร่ง
สองร่างทาบทับบนเตียงนอนใหญ่อย่างแนบชิด มือใหญ่ลากไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่ม ไล่ไปตามสีข้างเคลื่อนไปบีบนวดบั้นท้ายงามงอนไล่ลงไปลูบไล้ขยำนวดลำกลมกลึงสลับเคลื่อนกลับไปบีบนวดสะโพกกลมกลึงไล้ไปลากไล้ผิวเนื้อหน้าท้องแบนราบเรียบ ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวถอนเคลื่อนไปตามพวงแก้มอิ่มเต็มปลั่งไปด้วยเลือดฝาด ขบกัดใบหูนุ่ม สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายในช่องหูเล็กๆ จนไรขนตามเรือนกายสาวลุกชัน
มือใหญ่ลูบไล้ขึ้นไปตามลำตัวกลมกลึงครอบครองฟอนเฟ้นเนินเนื้ออวบอิ่มซึ่งขยับไหวแรงและเร็วด้วยอัตราการเต้นของหัวใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดและเคราจูบไซ้ครูดไปจนผิวเนื้อลำคอระหงบวกกับความแรงของจุมพิตร้อนผ่าวเหมือนกับเพลิงไฟที่ดูดเม้มจนเป็นรอยแดงช้ำ
“อืม...สุดยอดเลยผึ้ง เธอนี่มัน...” ความหวานของกายสาวที่ตอบสนองมาทำให้อพอลโล่แทบจะพูดไม่ออก สองมือใหญ่สอดใต้อกอวบจนมันนูนเด่น ดวงตาคมกริบเหลือบมองขึ้นไปบนวงหน้าขาวสวยที่ตอนนี้แดงปลั่งอย่างน่ามองเสียและน่ากินเสียเหลือเกิน ปลายลิ้นสากระคายลากไล้ริมฝีปากหนาอุ่นอย่างหิวกระหาย ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้ทั่วก้อนเนื้อนุ่มๆ ที่สนองตอบทุกจังหวะการแตะต้อง
ริมฝีปากหนาทาบทับเหนือทรวงสล้างข้างที่มีเสียงเต้นรัวเร็วเหมือนกับปืนกล อีกมือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปตามกายสาวนุ่มนิ่ม เคลื่อนไหวอย่างกับผีเสื้อโบยบินไปเกาะดอกไม้จนไปหยุดนิ่งกึ่งกลางกายสาว ปลายนิ้วร้อนระอุสอดเคลื่อนสอดไปในกางเกงผ้ากดลากไล้รอยแยกกลีบปุบผานุ่มผ่านเนื้อผ้าบางเบาอีกชั้น สอดแทรกจนได้พบกับมุกมณีอันอ่อนไหว ปลายนิ้วใหญ่ลากไล้เวียนวนกดคลึง
“อ๊ะ...” ไฟร้อนผ่าวที่ทาบอยู่บนเรือนกายอ่อนไหวทำให้ร่างเล็กสั่นสะท้าน ท้องไส้ปั่นป่วนจนไม่รู้ว่าจะคลายความทรมานนี้อย่างไรดี ใบหน้าแดงปลั่งด้วยเพลิงพิศวาสที่ห้อมลอมแหงนหงายไปด้านหลัง ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งเหมือนกับคันศรให้ทรวงสล้างได้แนบชิดกับใบหน้าสากระคายที่แม้จะครูดไปบนผิวเนื้อให้ต้องเจ็บปวดแต่มันกลับสอดแทรกความเสียวซ่านระคนสุขสม
“คุณ...” หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อม ในท้องน้อยเหมือนกับมีสายน้ำอุ่นไหววน
“ฉันชื่อซัน” อพอลโล่บอกชื่อเสียงงึมงำด้วยหลงใหลในผิวกายเนียนนุ่มหวานที่ได้สัมผัสและลิ้มชิมรส ตุ่มไตสีชมพูเข้มดุนดันตัวผ้าออกมาให้น่าลิ้มลองว่ามันจะหวานลิ้นอย่างที่คิดอยู่หรือเปล่าและอย่างไม่รอช้าชายหนุ่มก็ส่งปลายลิ้นสากระคายปากไล้ไปบนผลทับทิมที่นูนเด่นสลับไปมาทั้งสองฝั่งอย่างไม่ยอมให้มันต้องรู้สึกน้อยใจว่าถูกหมางเมินจนผ้าลูกไม้บางเบาเปียกชื้นอย่างหลงใหล
“อืม...หวานจริงๆ ผึ้ง” อพอลโล่พูดเสียงหวานแหบเครือแนบชิดปทุมถันอวบสล้าง แต่ความหวานนุ่มที่ได้รับทำอย่างไรเขาก็รู้สึกไม่อิ่มเต็มและเพียงพอเสียแล้ว
สองมือใหญ่ลูบไล้ผ่านผิวกายด้านหน้าไปตามสีข้างจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่มมือ ปลายนิ้วสอดแทรกสะกิดตะขอเล็กๆ จนเสื้อชั้นในตัวเล็กหลุดออกปลดปล่อยเนินเนื้อขาวอวบอิ่มให้เป็นอิสระ ปลายลิ้นสากร้อนลากไล้ริมฝีปาก น้ำลายเหนียวๆ ไหลลงคอกับความสวยงามและนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัส
และอย่างไม่รอช้าใบหน้าคมคร้ามโฉบลงไปประทับบนเชอรี่ผลนุ่มปลั่งพร้อมเสียงครางเมื่อได้ลิ้มความหวานของผลไม้รสทิพย์ เมื่อครู่เขาว่าหวานหอมและอร่อยแล้วแต่พอได้สัมผัสแนบชิดโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้นก็เหมือนกับได้กลืนกินผลไม้รสเลิศจากสรวงสวรรค์ทีเดียว
กายใหญ่ขยับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยโดยที่วงหน้ายังคมคร้ามซบซุกสลับกัดกลืนกินทับทิมผลหวานนุ่มทั้งสองฝากฝั่งอย่างเพลิดเพลินและหลงใหล เพียงครู่เดียวเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อนุ่มพลิ้วก็หลุดลอยหายไปจากกายใหญ่และเสื้อตัวเล็กที่ใช้แขนเรียวยาวตามติดไปด้วยอีกตัว
เพียงแค่มือเล็กเป็นอิสระแทนที่มันจะผลักไสกายใหญ่ดังใจคราแรกมณีมณฑ์กลับโอบกอดกระชับร่างใหญ่อย่างแนบชิด มือเล็กเรียวลากไล้คราวใดที่ความวาบหวิวปั่นป่วนไหลแรงเหมือนกับสายน้ำเชี่ยวกราดปลายเล็บยาวจิกลงไปและลากแรงๆ  อย่างไม่สนใจจะทำให้ผิวกายหนากร้านนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยจากเล็บอันแหลมคม
“โอ๊ะ...” กายใหญ่สะดุ้งกับคมเล็กแหลมคมที่จิกลากบนแผ่นหลังกว้าง แต่ตอนนี้เขากลับหูอื้ออึงลุ่มหลงในความหวานฉ่ำนุ่มเหมือนกับน้ำหวานรสเลิศล้ำที่ติดตรึงตัวถอนใจไม่ขึ้นความปวดแสบปวดร้อนที่เกิดขึ้นจึงกับเหมือนไม่ระคายผิวหนาๆ
 มือใหญ่ลูบไล้ตั้งแต่สีข้างไล่ลงไปถึงสะโพกหนั่นแน่นขยำนวดหนักเบาตามแรงอารมณ์ที่มันประทุ ก่อนจะเคลื่อนไล่ลงไปตามลำขาเสลาไล่ไปถึงปลีน่องเนียนเรียว ก่อนวกกลับขึ้นลากไล้บีบนวดต้นขากลมกลึง ปลายนิ้วสอดแทรกเข้าไปกดคลึงกลีบกุหลาบอ่อนเยาว์ผ่านผ้าเนื้อนุ่มและบางเบา
“อืม...คุณซัน...ฉัน...” ปากอยากจะปล่อยให้ปล่อยแต่กลับพูดไม่ออกและยิ่งบดเบียดเรือนกายเข้าหากายใหญ่ด้วยเพลิงไฟพิศวาสที่มันโอบล้อม เป็นสุขระคนเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สองมือเล็กวาดไล้ไปบนผิวกานกร้านหนาและสากระคายด้วยมือ ปลายนิ้วหยอกล้อกับเม็ดแข็งๆ บนอกกว้างอย่างไม่ประสา หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมเป็นลอนตอบรับกับจุมพิตร้อนผ่าวที่ทาบไล้วนไปทั่ว
ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งงอกับความร้อนที่แทรกไปในช่องเล็กซึ่งอยู่ตรงกลาง แต่ยังไม่รู้ความร้อนผ่าวที่มันแนบชิดกลีบกายอิสตรีอันบอบบางและอ่อนเยาว์ มันซาบซ่านวาบหวิวและป่วนปั่นกึ่งกลางเรือนกายจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับร่างกายให้ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกเหมือนกับทรมานแต่สุกสม เหมือนกับว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ร่างกายของตัวเธออีกแล้ว แต่กลายเป็นก้อนดินที่อีกฝ่ายจะเสกสันปั้นแต่งเป็นรูปทรงอย่างใดก็ได้ เพราะไม่ว่าชายหนุ่มจะตับต้องไปตรงส่วนใดก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เธอเสียวซ่านระคนสุขสม
“ต้องการอะไรละผึ้ง” อพอลโล่เอ่ยถามเสียงแหบพร่า วงหน้าคร้ามแกร่งลากจุมพิตร้อนผ่าวเคลื่อนลงไปหาเนินกายสาวที่กำลังขยับโยกย้ายส่ายสะโพกเหมือนกับนกยูงกำลังร่ายรำอวดความสวยงามของแพหางใหญ่ สองมือใหญ่สอดแทรกดึงกางเกงผ้าตัวเล็กเคลื่อนลงไปตามลำขาเรียวยาวพร้อมกับเสียงอื้ออึงที่ดังในลำคอ
ในวินาทีนี้คำว่าลงทัณฑ์ได้หายไปจากความคิดของอพอลโล่เมื่อได้เจอกับความสวยสดและงดงามของปุบผาดอกน้อยที่ยังไม่เคยมีภมรตัวใดมาแย้มกลีบกายเปิดออกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ กลีบกายบอบบางและอ่อนเยาว์ซุกซ่อนอยู่กึ่งกลางพงไหมเส้นนุ่ม ปลายนิ้วยาวร้อนค่อยๆ คลีกลีบดอกออกอย่างเชื่องช้า แผ่วเบา นุ่มนวลและอ่อนโยนด้วยกลัวกุหลาบดอกน้อยจะบอบช้ำ
ปลายลิ้นร้อนผ่าวลากไล้ทั่วกลีบปากหนา ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากว่ามีคนเอ่ยปากบอกว่าเขานั้นเป็นคนหื่นกระหายหลงจมอยู่ในวังวนแห่งความปรารถนาเขาคงเอ่ยคัดค้านแต่ในนาทีนี้ยอมทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของกุหลาบอิ่มสวยดอกนี้ แม้จะต้องแลกกับการเจ็บตัวก็ยอม
ลิ้นสากร้อนยื่นออกไปแตะไล้วนรอบมุกมณีเม็ดงามอย่างไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้เห็นอยู่นี้จะเป็นของจริงหรือว่าเขากำลังฝันไปกันแน่
“คะ...คุณซัน...”
แต่เสียงหวีดร้องระงมหวานล้ำที่ยินและความหวานนุ่มที่ได้รับทำให้อพอลโล่แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน กายใหญ่สอดแทรกระหว่างสองขาเรียวยาวให้วงหน้าคร้ามแกร่งแนบชิดเนินเนื้ออุ่นนิ่มและหอมจรุงใจ สองมือใหญ่สอดแทรกขยำนวดต้นขากลมกลึงไล่ไปถึงสะโพกกลมมน ปลายลิ้นสากระคายสอดแทรกล่วงล้ำเข้าไปในโถน้ำผึ้งอุ่นร้อนลิ้มรสน้ำผึ้งฝาดหวานที่มันไหลซึมมาทีละน้อย
“อืม...คุณซัน...” สองมือเล็กลากไล้ไปบนกายใหญ่อย่างสะเปะสะปะจิกทึ้งเส้นผมหนานุ่มสลับกดศีรษะทุยให้แนบชิดกับความอ่อนไหว สะโพกงามงอนส่ายร่อนช้าเร็วสลับกันไป ลมหายใจหอบแรงและร้อนผ่าว ใบหน้าแหงนหายไปด้านหลังกับเสียงกรีดร้องที่ดังระงม
“ได้โปรด...” มณีมณฑ์อ้อนวอนขอให้ชายหนุ่มช่วยปลดปล่อยเธอจากความทรมานแต่แสนสุขนี่เสียที
ริมฝีปากหนาขบกัดเกสรสีสด ปลายลิ้นสากระคายแทรกลึกจุ่มจ้วงซอกซอน...กวาดไล้น้ำผึ้งรวงจากโถอย่างเพลิดเพลินในความหวานหอมเหมือนกับคนที่หลงติดอยู่ในท้องทะเลทรายอันมีแต่ความแห้งแล้งแล้วได้เจอกับโอเอซิสที่มีน้ำให้ดื่มกินไม่มีวันจะหมดสิ้น ลิ้นสากและร้อนระอุสอดลึกสุดเส้นทางสวาทอบอุ่นและนุ่มหอมด้วยกลิ่นสายสาวอันบริสุทธิ์
“อืม...หวาน...หวานเหลือเกินผึ้งจ๋า...” อพอลโล่ร้องครางเสียงหลง สัญลักษณ์แห่งเรือนกายสำแดงเดชอยากออกมาซุกไซ้ในความอุ่นร้อนละเมียดละไมที่จะโอบอุ้มไว้จนสุดความแข็งแกร่งและร้อนผ่าว ยามที่มันกำลังขับเคลื่อนพุ่งไปข้างหน้าเหมือนสปอร์ตคันหรูที่เขาชอบขับคงจะมีความสุขจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ อย่างไม่รอช้ามือใหญ่เคลื่อนไปปลดเปลื้องอาภรณ์เนื้อดีออกจากกายอย่างรีบเร่ง ในขณะที่ใบหน้าคมคร้ามยังไม่ยอมละจากการดื่มกินความน้ำผึ้งฉ่ำหวานอย่างเพลิดเพลินและหลงใหล
มณีมณฑ์ได้แต่ร้องครางเรือนกายสั่นสะท้านไหวเหมือนกิ่งไผ่ต้องลมพายุพิศวาสร้ายที่เร่าร้อนเผาพลาญลามเลียไปทั่วกายน้อยให้ขยับส่ายดิ้นเป็นประวิง วงหน้ารูปหัวใจแดงปลั่งส่ายไหว ท้องน้อยไหวเป็นเกลียวคลื่น ปทุมถันอวบอิ่มไหวกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจที่แรงและเร็วเหมือนกับคนที่วิ่งระยะทางไกลด้วยลิ้นร้อนระอุสอดแทรกแหวกว่ายส่งให้เธอค่อยๆ ไต่บันไดสายรุ้งทีละน้อย
“อือ...อ๊ะ...” มันเหมือนจะทรมานแต่ก็ไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะมีความสยิวซ่านไปทั่วทั้งทรวงและเรือนกาย ปั่นป่วนใช่ท้องกึ่งกลางเรือนกายที่อ่อนไหวง่ายขยิบตัวเป็นประวิง ปลายนิ้วยาวเรียวสอดแทรกจิกทึ้งสลับกดรั้งให้ศีรษะทุยแนบชิดตรงเนินดอกรัก
ไม่ไหวแล้ว...มณีมณฑ์บอกกับใจที่กำลังเต้นตึกตักรัวเร็วเหมือนกับปืนกล เหมือนกับตอนนี้ร่างกายได้ลอยละล่องไปตามกระแสพิศวาสอันรุนแรงก่อนจะมีระเบิดลูกใหญ่แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมสายน้ำอุ่นร้อนที่มันไหลหลากหายไปในอุ้งปากอุ่นร้อนที่ส่งปลายลิ้นกวาดไล้ทุกหยาดหยด
สองมือใหญ่ขยำนวดต้นขากลมกลึงไล่ไปบีบนวดบั้นท้ายงามงอน พร้อมจุมพิตร้อนผ่าวที่เคลื่อนกลับขึ้นไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม จบจนถึงปทุมทรวงสล้างและขาวผ่องซึ่งขยับไหวยั่วใจให้เกิดความกระหายอยากจนหักห้ามใจเอาไว้ไม่ได้ต้องรีบทาบริมฝีปากหนาร้อนลงไปอ้างับปลายยอดถันที่ชูชันด้านหนึ่ง
“ผึ้งจ๋า เธอนี่หวานจริงๆ แม่คนใจร้าย” ชายหนุ่มงึมงำแนบชิดบัวตูมนุ่มหวาน ปลายลิ้นลากไล้เวียนวนรอบป้านนุ่มนิ่ม ดูดดื่มกลืนกินกินผลไม้สีชมพูเข้มความหวานนุ่มอย่างหลงใหล
มือใหญ่ลากไล้บีบนวดเรือนร่างกลมกลึงและนุ่มนิ่มหนักสลับเบาตามแรงอารมณ์ที่มันประทุ จับลำขาเสลาโอบรอบสะโพกสอบบดเบียดความเป็นชายชาตรีที่ดุดดันตื่นตัวแนบชิดกลีบกายบอบบางและอ่อนไหว พร้อมปลายนิ้วสอดแทรกกดคลึงเกสรสวาทสลับสอดแทรกซอกซอนลากไล้ผนังเนื้ออ่อนนุ่ม ขยับเคลื่อนไหวแทรกลึกจุ่มจ้วงอย่างเป็นจังหวะเนิบนาบเปิดแยกกุหลาบดอกน้อยให้บานเบ่งพร้อมพรั่งที่จะกลืนกินหนอนตัวใหญ่ยักษ์โดยที่มีความเจ็บปวดน้อยที่สุด
“อ๊ะ...คุณซัน...ได้โปรด...” มณีมณฑ์อ้อนวอนขอเสียงนุ่มหวาน แหบพร่าและเซ็กซี่ หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อม ระบบภายในร่างกายบีบขยำรัดรึงรอบความร้อนผ่าวที่สอดแทรกจุ่มจ้วงเป็นจังหวะ สะโพกงามงอนส่ายร่อนขยับโยกซ้ายขวาตามติดมือใหญ่ที่ขยับเข้าและออกรัวเร็วถี่ยิบ
“ได้ซิผึ้ง ก็เธอร้อนแรงและง่าย ยอมฉันหมดทุกอย่างขนาดนี้ ต้องการอะไรฉันให้หมดเลยแหละ” อพอลโล่ตอบกลับ ทาบทับเรือนกายใหญ่แนบชิดกายบอบบางทั่วทุกสรรพางค์ แก่นกายแข็งแกร่งและร้อนระอุขยับเคลื่อนสอดแทรกไปในความอุ่นนิ่มและอบอุ่น
“นายครับนาย...นายครับ...ก๊อกๆ นายครับนาย...นายครับ...”
เสียงร้องเรียกอย่างหงุดหงิดและเสียงทุบปึกๆ ที่ดังจากประตูห้องทำให้กายใหญ่ที่กำลังสอดประสานหวังเป็นหนึ่งเดียวกันกับกายเล็กต้องหยุดชะงัก จะไปต่อก็ได้แต่ทว่าเสียงที่มันร้อนรนกระวนกระวายทำให้เกิดความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมถึงได้มีลูกน้องที่ไม่ใช่จูโน่มาร้องเรียกกวนเขาอยู่แบบนี้ กายแกร่งแทบจะปริออกด้วยความปวดร้าวที่ต้องหยุดชะงักกิจกรรมการทำกรรมแห่งความสุขกลางคัน กรามหนาบดเบียดจนกรามแข็งแกร่งนูนเด่นขึ้นมาพร้อมดวงตาเป็นประกายแข็งกร้าว เสียงสบถเสียงเขียวดังจากปากหนา
“เออ...จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ มีอะไรวะ บ้าชิบ” อพอลโล่ข่มกัดความเจ็บปวดทางร่างกายผุดจากร่างบอบบางที่นอนตัวแดงก่ำเหมือนกับกุ้งต้มสุข มือใหญ่คว้าเสือผ้าที่หล่นกลาดเกลื่อนบนพื้นมาใส่อย่างลวกๆ ดวงตากวาดมองไปยังร่างเล็กบอบบางที่คว้าผ้านวมมาคลุมกายอย่างรีบเร่งด้วยความอายที่มีน้อยนิดกับความโมโหเกรี้ยวกราดที่มันพุ่งพล่านขึ้นมาสลับมองไปที่ประตูห้องด้วยความเกรี้ยวกราดและปวดร้าวที่มีอยู่ในร่างกาย
ความโกรธที่มันพุ่งพล่านเป็นเหมือนกับไฟเผาไหม้สุมทรวงให้ต้องร้อนระอุแทบจะหายใจไม่ออกแสดงสองออกมาทางสองมือเล็กที่กำผ้าห่มนวมจนเส้นเอ็นปูดโปน ผ่านทางดวงตากลมโตที่เป็นประกายโชนแสงและริมฝีปากอวบอิ่มที่ขบกัดจนฮ้อเลือดแต่ก็เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาแม้แต่น้อย
ความโกรธและเกลียดที่อีกฝ่ายส่งมาเป็นเหมือนขนมชิ้นหวานที่มันจะต้องได้รับการเติมเต็มสู่ร่างกายอีกหลายครั้งก่อนที่แบททีเรียจะทำลายให้มันกินไม่ได้อีก มือใหญ่ดึงแขนเรียวที่พยายามสะบัดแรงๆ ดวงตาคมกริบมองสบเข้าไปในดวงตากลมโตฉายแววโมโหและเกรี้ยวกราด
“หึ...อย่าดีใจไปละผึ้ง บทลงโทษของเรามันไม่จบ เดี๋ยวฉันจะมาลงโทษเธอต่อแม่สาวใจร้าย”
ใบหน้าคร้ามโน้มไปประทับจุมพิตร้อนผ่าวที่ซอกคอกระหงซุกไซ้จนไรหนวดเคราครูดไปกับผิวสีขาวกลายเป็นสีแดงเข้ม ก่อนจะเคลื่อนขึ้นไปประทับบดขยี้ขบกัดกลีบปากอวบอิ่มบนและล่างแรงๆ “แล้วอย่าคิดว่าคราวหน้าจะมีคนมาขัดจังหวะช่วยเธอแบบนี้อีก”
ดวงตากลมโตวาววับเหมือนกับนัยน์ตาเสือแม่ลูกอ่อนมองร่างใหญ่ที่เดินจากไปอย่างเกรี้ยวกราดและเจ็บใจ มือเรียวทุบตีไปบนเตียงนอนใหญ่แรงๆ ฟันขาวสะอาดขบกัดริมฝีปากจนแทบจะได้กลิ่นเลือดปะแล่มๆ คอยดูนะเธอจะต้องเอาคืนไอ้บ้านี่ให้มันต้องเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
คนอย่างเธอ...มณีมณฑ์ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เป็นแน่...

2 ความคิดเห็น: