หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทัณฑ์เถื่อน : ตอนที่ 2 การตัดสินใจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิต


ตอนที่ 2
การตัดสินใจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิต
ศรวัณหันมองแม่สาวน้อยร่างเล็กใหม่อีกครั้ง วงหน้ารูปหัวใจ เครื่องหน้าประกอบด้วย ตา จมูกและปากนิดหน่อยที่พอมาประกอบกันแล้วเรียกว่าน่ามองเห็นแล้วต้องมองซ้ำ เท่าที่จำได้เด็กหญิงมณีมณฑ์แม่เด็กน้อยขี้โรคผอมกะหร่องกระแหร่ง แต่คนตรงหน้าให้ดูเท่าไหร่กลับไม่คุ้นตาเลยสักนิด
หรือว่าเป็นเพราะเขาจากบ้านไปหลายปีจนเกินไป ยัยเด็กผอมกะหร่องกะแหร่งขี้โรคที่ตามติดเหมือนกับตังเมเหนียวๆ แกะไม่ออก คอยร้องเรียกแต่จะเอาโน่นนี่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาปวดหัวเวียนเกล้าและรำคาญจนอยากจะกระทืบให้จมดินอยู่บ่อยครั้ง เลยเปลี่ยนแปลงกายเป็นสาวน้อยที่แสนจะน่ารักตรงหน้า ศรวัณเพ่งพิศและมองดูอย่างพินิจพิเคราะห์แทบไม่ให้ส่วนใดบนหน้าสวยและกายสาวหลุดรอดไปเลยแม่แต่น้อย
รูปกาย...ถ้าเป็นเมื่อก่อน แม่เด็กขี้โรคจะต้องมีแขนขาเล็กและเก้งก้าง มีแต่หนังหุ้มกระดูก แต่ในตอนนี้กลับบอบบางแต่ดูกลมกลึงและอวบอิ่มไปหมดทั้งตัว
วงหน้า...แม่เด็กขี้โรคจะมีแก้มที่ตอบซีดเหมือนกระดาษ เรียกว่าเห็นทีไรแล้วต้องเกิดอาการเซ็งและรำคาญในฉับพลัน ดวงตาก็ลึกโป๋เหมือนจะถลนออกมานอกเบ้าเห็นแล้วก็นึกถึงพวกผีในละครที่ได้เห็นเป็นประจำ ส่วนปากก็ซีดแตกระแหง แต่คนตรงหน้ากลับไม่ใช่เลยสักนิดมองไปทางไหนก็ล้วนแล้วแต่น่ามองไปแทบทั้งสิ้น ที่สำคัญคือ…
ประกายในดวงตากลมโตคู่นั้นซึ่งมันไปสะกิดต่อมความจำของเขาให้ตื่นขึ้นมาในทันใด ดวงตาที่มันเปิดเผยให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ จงรักและภักดีต่อเขา ไม่มีเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะวันนี้หรืออดีตที่ผ่านมา มันทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมในหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
“ผึ้ง...ผึ้งจริงๆ หรือนี่ โตขึ้นและสวยจนพี่จำไม่ได้เชียวนะเรา” ศรวัณถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นนุ่มทุ้มเหมือนจะหยอกเย้าอยู่ในที นัยน์ตาเป็นประกายวาววับและเริงรื่นทักทายอย่างชอบใจขึ้นมาเล็กน้อยกับประกายนัยน์ตาหวานที่ส่งมอบให้
กายหนุ่มกระชุ่มกระชวยเหมือนกับปลากระดี่ได้น้ำ แม้เขาจะชอบผู้หญิงหุ่นอวบอัดที่จับแล้วเต็มไม้เต็มมือ แต่การที่มีสาวน้อยวัยใสและน่ารักมาให้ความสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว เขาไม่ได้เจ้าชู้นะ แต่ผู้ชายถ้าผู้หญิงเชิญชวนให้ท่าขนาดนี้ถ้าไม่รับมากินมันคงจะโง่จนควายยักเรียกพี่ทีเดียวละ
“ใครหรือคะสอง” นิศามณีเอ่ยถามซ้ำอีกครั้งและพยายามที่จะแทรกการสนทนาให้อีกฝ่ายแนะนำให้เธอได้รู้จักเด็กสาววัยรุ่นหน้าไม่อายคนนี้ด้วย ดูซิกลางวันแสกๆ ยังส่งสายตายั่วยวนให้ท่าคู่หมั้นจอมเจ้าชู้ของเธอจนแทบจะเปลื้องผ้าให้แล้ว น่าเกลียดจริงๆ เชียว นี่ถ้าอยู่กันสองต่อสองเธอคงจะตบให้หน้าบวมเบ่งจนไม่กล้าเอาหน้าให้ท่าผู้ชายออกมาโชว์อวดใครเขา
ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดสะกดกลั้นความเกรี้ยวกราด พยายามซุกซ่อนแววตาแห่งความเกลียดชังและร้ายกาจเอาไว้อย่างมิดชิด ต่อหน้าศรวัณเธอคือหญิงสาวอ่อนหวานเรียบร้อยที่ซ่อนความเข้มแข็งไว้ภายใน แต่ยามที่อยู่ต่อหน้าหญิงสาวคนใดก็ตามที่พร้อมจะแย่งชิงคู่หมั้นไปจากอก เธอก็พร้อมที่จะแปลงกายเป็นนังมารร้ายในทันทีเช่นกัน ในเมื่อตัดสินใจปล่อยศรวัณไม่ได้ ก็มีทางเดียวที่ทำได้ต่อสู้ยื้อให้ชายหนุ่มอยู่กับเธอให้นานที่สุด
“เด็กข้างบ้านผมเองจ๊ะมุก ชื่อผึ้ง” ศรวัณบอกเล่าสั้นๆ ว่าเมื่อก่อนนั้นมณีมณฑ์ตามติดแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาจนออกนอกหน้า เขาให้ความสนใจผู้หญิงคนไหน เข้าใกล้ใครหญิงสาวก็จะหาเรื่องหาราวใช้อาการป่วยของตนเองให้เป็นประโยชน์ ตอนแรกๆ เขาก็ใจอ่อนนะ แต่พอนานวันเข้าก็เริ่มระอิดระอาและรำคาญใจ เมื่อจบม.6 เลยเลือกที่จะขอบิดามารดาไปเรียนต่อเมืองนอกเพื่อให้พ้นสถานการณ์ที่ทำให้ชวนลำบากใจ
“แล้วน้องเขามายืนขวางทางเราทำไมคะ” นิศามณีแสร้งถามเหมือนกับตัวเองเป็นคนโง่ที่รู้ไม่ทันใครสักคน ปรายสายตามองแม่สาวน้อยที่พอศรวัณเอ่ยทักชื่อถูกก็มีสีหน้าระรื่นแช่มชื่นขึ้นมาทันใดอย่างดูถูกเหยียดหยาม คิ้วเข้มได้รูปเลิกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอวบอิ่มกลับแสยะออก มือเล็กเรียวสอดเข้าไปในแขนใหญ่ บรรจงวางบางนิ้วทาบไปหลังมือให้เพชรเม็ดเล็กๆ สะท้อนแสงพระอาทิตย์และส่งประกายเข้าในดวงตาน้องสาวนอกไส้ได้รู้ว่าผู้ชายตรงหน้ามีเจ้าของแล้ว
“ทำไมสองไม่แนะนำให้มุกรู้จักน้องเขาละคะ มุกว่าคงจะเป็นการดีนะคะ ถ้าหากว่ามุกมาถึงเมืองไทยแล้วมีเพื่อนคอยพาไปไหนมาไหนด้วย ในขณะที่สองก็คอยไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ อีกอย่าง...” นิศามณีเอนตัวอิงแอบแนบไปกับแขนใหญ่ “น้องเขาน่ารักดี ถ้าได้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาว”
สิ่งที่ได้รับรู้ทำให้มณีมณฑ์รับไม่ได้ สายตาที่มองไปยังศรวัณกับผู้หญิงที่ชื่อว่ามุกจากที่มีสองคนกลับแปลเปลี่ยนเป็นหลายคนและลอยไปมา มีลมพุ่งมาจากทุกทิศทุกทางจนในหูอื้ออึ้ง ปลายมือปลายเท้าเย็นเฉียบแม้กระทั่งร่างกายก็เย็นเฉียบเหมือนกับมีน้ำแข็งเกาะอยู่ ในทรวงอัดแน่นไปด้วยแก๊สทำให้หายใจไม่ออก และแล้วร่างเล็กบอบบางก็ค่อยๆ อ่อนระทวยลงเหมือนกับใบไม้ที่มันปลิดปลิวลงจากต้น
“ว้าย!!! คุณผึ้ง”
“ผึ้ง!!!
แน่งน้อยร้องอุทานเสียงหลง ร่างเล็กกะทัดรัดถลาเข้าไปรับร่างนายสาวอย่างเร็วรี่ แต่น้ำหนักตัวของมณีมณฑ์ก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยทำให้เธอเซถลาดีว่าศรวัณก้าวมาได้ทัน แขนใหญ่สอดระหว่างข้อพับและแผ่นหลังบางยกร่างบอบบางขึ้นเหมือนกับว่ามันไม่มีน้ำหนักก่อนจะถูกดันออกไปอยู่วงนอก
“ช่วยผมหน่อยมุก เปิดประตูรถให้ที” ศรวัณร้องบอกคู่หมั้นเสียงเหมือนจะตวาดด้วยความเป็นห่วงแม่สาวน้อยที่มาปลุกความต้องการในกายให้ลุกเป็นไฟย่อมๆ ได้ไม่น้อย
ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนเป็นเส้นตรง แม้ไม่ชอบใจเท่าไหร่แต่เมื่อเห็นคนตรงไร้สติ นิศามณีก็จำต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ร่างโปร่งบางถลาไปที่รถเปิดออกพร้อมควานหาอะไรที่พอจะนำมาใช้พัดวีลมให้ผึ้งฟื้นจากอาการเป็นลมอย่างเร็วที่สุด มือเล็กเรียวควานหาข้าวของที่จะสามารถช่วยเหลือผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาป่วนและแย่งชิงคู่หมั้นไปจากอกจนพบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กจากกระเป๋าใส่ประจำกายพร้อมน้ำแร่สะอาดที่มีอยู่ครึ่งขวดถูกนำมาเทใส่และกดซับบนวงหน้าขาวซึ่งซีดเผือดเหมือนกับกระดาษ กดซับสลับผัดวีลมให้อย่างเบามือ
“ท่าทางจะไม่ดีขึ้นเลยคะสอง เอาไงดีคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อบนวงหน้าที่คิดว่าตอนนี้คงจะแดงปลั่งเพราะความร้อนที่มันสุมทุมมาจนระบบภายในร่างกายแทบจะสุกไหม้
“ผมว่าพาผึ้งเข้าไปในบ้านก่อนดีกว่าไหม” ศรวัณเสนอทางเลือก
“ก็ดีเหมือนกันคะ มุกเองก็ร้อนจนคิดว่าจะเป็นลมไปอีกคนเหมือนกัน ทำไมเมืองไทยมันถึงร้อนอย่างนี้ก็ไม่รู้” นิศามณีตอบรับและบ่นตาม
“งั้นมุกไปยืนรอผมใต้ร่มไม้นะ ผมจะพาผึ้งไปส่งบ้านก่อน แล้วจะออกมารับ” ศรวัณตัดสินใจ แม้จะยินดีกับการได้เจอสาวน้อยแสนสวยเข้ามาทักทายทอดสะพานให้ แต่การเดินทางอันยาวนานจากอังกฤษมาถึงเมืองไทยบวกกับอากาศที่ร้อนจัดจนระบบในร่างกายปรับตัวไม่ทัน รับไม่ไหว ร้อนจนอึดอัดและปวดศีรษะริ้วๆ มาเหมือนกัน
“ได้ค่ะ เร็วๆ นะคะสอง” นิศามณีแม้ไม่อยากจะปล่อยให้ศรวัณหายไปกับผึ้ง แต่ก็ขัดขวางไม่ได้เช่นกัน ร่างโปร่งบางรีบวิ่งไปหยุดใต้ร่มไม้ใหญ่ มือเล็กยกขึ้นพัดวีลมเข้าหากายให้คลายร้อนกายและร้อนใจที่ทำยังไงมันก็ไม่หายตราบเท่าที่ยังไม่ได้เห็นหน้าและกายศรวัณที่จะมายืนเคียงข้างเธอ

ฟันขาวสะอาดขบกัดริมฝีปากจนเริ่มจะมีสีแดงก่ำ ในดวงตากลมโตเหม่อลอยเหมือนกับคนที่ไม่มีวิญญาณ ด้วยนับตั้งแต่วันนั้นที่เป็นลมจวบจนถึงวันนี้ก็ปาไปเกือบจะเดือนแล้วที่มณีมณฑ์ไม่ได้แต่แอบมองศรวัณผ่านประตูบ้านของตัวเอง บ่อยครั้งที่เธอแอบหนีมารดาไปดักรอชายหนุ่ม
แต่เมื่อได้เจอจริงๆ แม้ศรวัณจะปรายสายตาหวานฉ่ำส่งมาให้ กับริมฝีปากแดงเหมือนกับผลเชอรี่ขยับบอกให้รอคอยเดี๋ยวเขาจะกลับมาหา แต่ก็เหมือนกับการรอคอยที่ไร้จุดหมาย เพราะชายหนุ่มจะถูกผู้หญิงคนนั้นนิศามณี คู่หมั้นคู่หมายที่ชายหนุ่มตกลงจะแต่งงานด้วยตามและออกไปทำธุระประสาคนที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกัน
มือเล็กยกขึ้นจับหน้าอกเมื่อรู้สึกเหมือนกับว่ามีเข็มเล่มเล็กๆ นับหมื่นนับแสนเล่มที่มันกำลังกระหน่ำทิ่มตำจนเจ็บไปทั้งทรวง ความเย็นเกาะกุมทั่วร่าง เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นจนเต็มวงหน้า กายเล็กบอบบางขยับไหวโยกเป็นจังหวะ ฟันขาวสะอาดขบกัดริมฝีปากที่ในวันนี้แห้งแตกระแหง ในดวงตากลมโตหวานอมโศกมีน้ำตาคลอหน่วย
เพียงแค่คิดว่าจะต้องสูญเสียผู้ชายที่รักให้กับผู้หญิงคนอื่น อย่าถึงขนาดนั้นเลย เพียงแค่ได้เห็นว่ามีหญิงสาวที่ไม่ใช่เธออยู่ในอ้อมแขนของศรวัณเธอก็เจ็บปวดเหมือนใจถูกไฟเผาไหม้เป็นผุยผง กายบอบบางสะอื้นฮัก น้ำตาไหลอาบสองแก้มเหมือนกับใครปล่อยน้ำจากก๊อกและไม่ยอมปิด มือเล็กกำหมัดทุบไปบนเตียงนอนแรงๆ  
ไม่...ต้องไม่ยอมให้พี่สองแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แล้วจะทำยังไงถึงจะขัดขวางการแต่งงานในครั้งนี้ได้ละ เป็นคำถามที่คอยตอกย้ำในใจและสมองมณีมณฑ์ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าศรวัณจะแต่งงานกับนิศามณี ขาวปลากินไม่ได้ แม้กระทั่งยามนอนในสมองก็ยังไม่หยุดทำงาน ครุ่นคิดถึงวิธีขัดขวางไม่ให้สองคนนั้นได้แต่งงานกันจนร่างกายซูบตอบ
ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแต่สายตายามที่ศรวัณมองผ่านกระจกรถมานั้นบอกว่าเขามีใจให้เธอ เขารักเธอและกำลังเสียดายว่าเจอกันช้าไป มันจะต้องติดอยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วยที่คอยควบคุมทุกฝีก้าวไม่ให้ศรวัณปลีกตัวมาหาเธอได้ ศรวัณคงจะกำลังรอให้เธอช่วยทำบางสิ่งบางอย่างเผื่อขัดขวางไม่ให้มีพิธีแต่งงานเกิดขึ้น จากนั้นเขาและเธอก็จะได้รักกันและครองคู่กัน ใช่...มันจะต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ 
มณีมณฑ์หมกมุ่นอยู่กับความคิดความเชื่อของตัวเองจนลืมนึกถึงเหตุผลความเป็นไปได้และความเป็นจริง สมองน้อยๆ หมุนเป็นเกลียวเหมือนลูกข่าง หลายต่อหลายแผนการที่คิดขึ้นมาได้ ดูดีและเลิศหรูแต่ดูเหมือนว่าในความเป็นจริงมันจะใช้ไม่ได้สักอย่าง
ชีวิตจริงไม่เหมือนกับละครที่คนดูกันที่นางอิจฉาจ้องจับพระเอกลงทุนวางแผนวางยาให้กินแล้วถ่ายรูปไว้แบล็กเมย์ หรือไม่ก็ยั่วยวนให้นางเอกมาพบเข้าจะได้เข้าใจผิดและประกาศยกเลิกงานหมั้นหรืองานแต่ง ก่อนที่พระเอกจะตามง้อและพิสูจน์ความจริงใจ แล้วทั้งคู่ก็จะรักกันใหม่และตกลงแต่งงานกันอย่างสายฟ้าแลบ ท่ามกลางความยินดีของคนที่รักทั้งคู่ ในขณะที่นางอิจฉาก็จะต้องโดนมรสุมชีวิตไปในทางร้ายๆ จนเข้าหน้าใครไม่ติด ในเมื่อเธอคิดทำได้ คนอื่นก็ต้องจับพิรุธได้
ยิ่งคิดภายในใจของมณีมณฑ์ก็ร้อนรนเหมือนกับถูกเปลวเพลิงไฟแห่งความริษยากัดกินจนนั่งไม่ติดที่ ร่างบอบบางผุดลุกจากเก้าอี้เดินวนไปเวียนมาพร้อมกับฟันขาวสะอาดที่ยังคงกัดแทะเล็บตัวเองไม่ยอมหยุดสลับมือเล็กที่ยื่นขึ้นไปลูบไล้ลำคอระหงสลับกันไปมาก่อนที่ร่างเล็กบางจะย้อนกลับมานั่งบนเก้าอี้ด้วยลมหายใจหอบแรงที่มันพ่นออกจากจมูกและปาก
“โว้ย!!!!!! ทำไมมันถึงคิดไม่ออกเสียทีนะ”
สองมือเล็กยกขึ้นขยี้ผมบนศีรษะแรงๆ จนเส้นผมที่ยุ่งเหยิงเพราะไม่ได้รับการหวีจะยิ่งยุ่งเหยิงปรกใบหน้าบวกกับดวงตาลึกโป๋และใบหน้าซีดเซียวเพราะการอดตาหลับขับตานอนเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงการทำลายพิธีวิวาห์ของศรวัณจึงทำให้เห็นเป็นเหมือนกับผีก็ไม่ปาน
สองมือเล็กที่ฝ่ามือมีเหงื่อเหนียวๆ ปกคลุมอยู่พร้อมกับความเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งจับบีบกัน ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะยกขึ้นให้ริมฝีปากกัดแทะเหมือนกับหนูแทะเมล็ดทานตะวัน บ้างเคลื่อนลงมาถูกไถกันเองและลำขาเรียวยาวที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้น สองเท้าขยับถูไถกับพื้นพรมนุ่นๆ  
ก่อนประกายในดวงตาเศร้าหมองจะเปล่งประกายขึ้นทันควันเมื่อคิดถึงแผนการบางอย่างที่น่าจะใช้ยืดระยะเวลาเข้าพิธีแต่งงานระหว่างศรวัณและนิศามณี วงหน้าสวยยิ้มกริ่ม สายตามองลอดผ่านหน้าต่างบ้านไปยังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ติดกัน ระยะทางห่างไกลไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมองของมณีมณฑ์แม้แต่น้อย ทำให้เธอได้เห็นตัวมารที่ขัดขวางความสุขของเธอกลังนั่งอ่านหนังสือจิบน้ำส้มเย็นเพียงลำพักกลางสวนดอกไม้สวยเพียงลำพังอย่างสบายใจ
“เธอเสร็จฉันแน่ยัยมุกมีตำหนิ งานนี้พี่สองต้องเป็นของฉัน”
ประกายในดวงตากลมโตมุ่งหมายมาดร้ายและกร้าวแข็งดุร้ายพร้อมรอยยิ้มมาดหมายที่ผุดขึ้นบนวงหน้า ในสมองมีแต่ความคิดร้ายๆ จนผิดกับรูปกายที่บอบบางอรชนอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม
วงหน้าสวยยิ้มแย้มหวาน เสียงผิวปากเป็นเพลงรักหวานซึ้งดังจากเรียวปากอวบอิ่มกับร่างเล็กผุดลุกวิ่งเข้าไปในห้องนอน เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่มณีมณฑ์คิดถึงสายน้ำเย็นที่มันจะราดรดบนเรือนกาย อาหารอร่อยๆ ฝีมือแม่สุดที่รักและเตียงนอนนุ่มๆ ที่จะฝังกายลงทุกค่ำคืน หวังว่าวันหนึ่งจะมีคนที่ปรารถนามานอนเคียงข้าง เมื่อถึงวันนั้นเธอคงจะสุขใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นจะต้องรอไปอีกเล็กน้อยเพราะเธอจะต้องจัดการธุระสำคัญให้สำเร็จเสียก่อน

“นายครับนาย...นายครับ...” ชายร่างหนาใหญ่ผิวคร้ามแดด ผมสีทองน้ำตาลเข้มวิ่งกระหืดกระหอบ ท่าทางตื่นตระหนกและตกใจด้วยข่าวร้ายที่ต้องนำมาแจ้งนายผู้เป็นที่รัก สำหรับคนนอกนายคือคนโหดร้าย ใจดำทำได้ทุกอย่างเพื่อความพอใจของตนเอง แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่สักนิดเดียว นายเป็นคนใจดีรักลูกน้อง คอยดูแลด้วยใจภายใต้ทาทีเรียบเฉยเหมือนจะไม่แคร์สิ่งใด
นายมองเห็นแม้เพียงแค่สิ่งเล็กน้อยที่ถ้าเป็นนายคนอื่นคงจะไม่สังเกตว่าเขาไอหลายครั้งถี่ๆ บังคับให้พักผ่อนรักษาตัว วันเกิดนายก็มีของขวัญแม้จะเล็กน้อยแต่มันกลับมีคุณค่าทางใจสำหรับลูกน้องทุกๆ จนถึงกับปาวนาตัวเองว่าสามารถตายแทนได้ นายไม่เคยไปทำร้ายหรือระรานใครก่อน เพียงแค่ตอบโต้และป้องกันตัวเองและลูกน้องทุกคนเท่านั้นเอง
“ว่าไงจูโน่ ใครเป็นอะไรตายอีกละนายถึงได้วิ่งกระหืดกระหอบเหมือนกับหมาหอบแดด” อพอลโล่ทักลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยกึ่งล้อกึ่งประชดประชัน หน้าตาก็ไม่หล่อทีหนึ่งแล้วพอเกิดอะไรขึ้นก็ดันมีนิสัยตื่นตระหนกผลีผลามง่ายแบบนี้นะซิ ผู้หญิงเขาถึงไม่สนใจจะผูกสัมพันธไมตรีด้วย
แต่ลักษณะท่าทางใบหน้าแดงปลั่งเต็มไปด้วยความร้อนรนกระวนกระวายแบบนี้มันชักจะน่าสงสัยว่ามีเรื่องอะไรใหญ่นักหนาจูโน่ถึงได้ทำท่าเหมือนกับว่าญาติข้างไหนตายจริงๆ นั่นแหละ คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นสูงพร้อมกับมือใหญ่ขยับเล็กน้อยก่อนจะยกขึ้นจิบทีละน้อยค่อยๆ ชิมรสชาติหวานลิ้นของไวน์ฝรั่งเศสที่สั่งหามาเฉพาะเพื่อใช้สำหรับลูกค้าวีไอพีที่มาใช้บริการโรงแรมและคาสิโนว่าคุณภาพเหมาะสมกับราคาหรือเปล่า
เคยเหมือนกันที่ถูกลองดีด้วยการนำไวน์คุณภาพต่ำสอดใส่ปะปนมา คงจะคิดว่าเขาสั่งคราวละมากๆ และเช็คของไม่ดีเลยกล้าที่จะทำ ก็ดีที่ทำให้เขาได้เขียนเสือให้วัวกลัวด้วยการทำให้คนอื่นเห็นเป็นตัวอย่างว่าการที่มากล้าลองดีกับเขานั้นสมควรจะได้รับผลกรรมอย่างไร
“คุณเพิร์ลครับนาย คุณเพิร์ล”
“เพิร์ล...หลานสาวฉันเป็นอะไร” อพอลโล่ถามกลับด้วยความสงสัย ก็หลานสาวตัวแสบชั่งออดอ้อนเขากำลังมีความสุขกับคู่รักคู่หมายจอมเจ้าชู้และปากหวานที่ควงคู่กันมาหลายปีดีดักนี่น่า ป่านนี้คงจะมีความสุขหน้าตาเริงรื่น จนลืมอาคนนี้ไปแล้วก็เป็นได้ อพอลโล่ถอนหายใจเมื่อคิดถึงหนุ่มใหญ่ผิวขาวใบหน้าตาชั้นเดียวที่ปากหวานจนสามารถเอาชนะใจหลานสาวที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับผู้ชายคนไหนไปครอบครองได้อย่างสวยงาม
แต่ไอ้บ้านั่นกลับเป็นเหมือนลิงได้แก้ว ไก่ได้พลอยที่พอเห็นว่าฝ่ายหญิงให้ความสำคัญก็เริ่มออกลายปรายตามองสาวคนอื่นให้นิศามณีต้องนอนช้ำใจน้ำตาตกในร้อนถึงเขาที่เป็นฝ่ายทนไม่ได้เมื่อเห็นน้ำตาหลานสาวสุดรักสุดดวงใจ จำใจต้องออกโรงปกป้องและขู่เข็นให้อีกฝ่ายรู้จักรักษาน้ำใจคนที่รักเสียบ้าง เพราะหลานสาวเขาเมื่อทุ่มไปทั้งกายและใจก็ควรได้รับกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อถึงวันหนึ่งความอดทนและความปรารถนาที่มีจางหายไปเมื่อนั้นจะมาเสียใจไม่ได้เมื่อเขาเอาหลานสาวกลับคืนมา
กรามหนาขบกัดเข้าหากันจนวงหน้าคมคร้ามอยู่แล้วดุและแข็งกร้าว ประกายในดวงตาสีสนิมเปล่งประกายเหมือนกับมีเพลิงไฟกำลังลุกไหม้อยู่ หรือว่าไอ้บ้านั่นจะผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ทำให้หลานสาวเขาเสียใจอีกแล้ว เดี๋ยวไปงานแต่งงานคงต้องตักเตือนกันยกใหญ่อีกแน่
เขาไม่ชอบคนรักของหลานสาวสักนิด เพียงแค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั้นมันหวังฟันแล้วทิ้ง แต่พอเจอลูกเล่นของหลานสาวเขาเข้าก็เลยเปลี่ยนเป็นอยากได้มาอยู่เคียงข้างกาย แต่ก็ไม่วายสอดส่ายสายตามองหญิงอื่นอยู่ร่ำไป ส่วนเขาถึงจะเป็นห่วงและไม่ปรารถนาให้ทั้งสองคนคบหาและผูกพันกันสักเพียงใด แต่เมื่อใจและกายหลานสาวมอบให้ไอ้หนุ่มนั่นไปแล้วเขาจึงทำได้เพียงแค่อย่างเดียว
เฝ้ามอง...
เฝ้าติดตามดูแลไม่ให้คลาดสายตา หากว่าเมื่อไหร่ไอ้หนุ่มนั่นทำให้นิศามณีแม่ไขมุกหลานสาวแสนสวยน่ารักของเขาต้องเสียใจและเจ็บช้ำอย่างที่เคยเป็นมาอีกละก็ คราวนี้เขาจะไม่ใจดีปล่อยให้มันหยามน้ำหน้าแล้วลอยนวลไปได้อีกแน่ มันจะต้องกำราบให้ต้องหลาบจำและเข็ดไปจนตาย
“คุณเพิร์ล...คุณเพิร์ลถูกรถชนอาการสาหัสครับนาย” จูโน่รายงานน้ำเสียงขาดกระท่อนกระแท่นและขาดเป็นห้วงๆ จนจับคำแทบไม่ได้ และเตรียมรับพายุอารมณ์ของเจ้านาย
อพอลโล่รักหลานสาวญาติสนิทที่ทำให้เขายังรู้สึกว่ายังมีครอบครัว หาใช่คนไร้ญาติขาดมิตรอย่างที่คนในเกาะอาคีโอสพยายามนินทาลับหลังว่า คุณนายผู้หญิงไอริสท้องกับใครมาก็ไม่รู้แล้วโดนผู้ชายคนนั้นขับไล่ไสส่งต้องระหกระเหินหอบความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจกลับมาหาพ่อซึ่งกำลังป่วยใกล้จะตาย แต่กลับกลายเป็นว่าการได้รู้ว่าลูกสาวซึ่งเลยวัยที่ควรจะมีครอบครัว เพราะมัวแต่วุ่นวายดูแลพ่อซึ่งป่วยเป็นนอนแบบอยู่กับที่มาเป็นสิบปี กลับฟื้นตัวขึ้นมามีชีวิตชีวาในฉลับพลัน และมีแต่คนในเท่านั้นที่รู้ว่าคุณผู้หญิงไอริสยังคงติดต่อกับคนรักอยู่เสมอ
จวบจนทั้งคุณผู้หญิงและนายท่านเสียชีวิตไปอพอลโล่ก็เป็นฝ่ายติดต่อกับญาติทางพ่อที่อีกฝ่ายไม่มีใครยอมรับเขาสักคนเพราะคิดว่าการที่ชายหนุ่มติดต่อไปนั้น เพราะต้องการมีส่วนในทรัพย์สินเงินทองของอีกฝ่ายโดยที่ฝ่ายนั้นไม่รู้เลยว่าไอ้ทรัพย์สินแค่กระพีกหนึ่งของทรัพย์สินของอพอลโล่เท่านั้น
คงจะมีเพียงบิดาของนิศามณีเท่านั้นที่ให้การตอนรับเป็นอย่างดี แล้วที่สำคัญก็คือเด็กน้อยตัวหญิงวัยห้าขวบกำลังน่ารักน่าชังชั่งพูดจำนันจาที่สามารถผูกใจแข็งเป็นหินของคุณอาวัยหนุ่มจนหลงใหลแทบจะหายใจเข้าและออกเป็นเพิร์ล
แล้วเมื่อบิดาของนิศามณีถึงแก้กรรมก่อนวัยอันควรด้วยโรคอันปัจจุบันทันด่วน กรรมหนักจึงตกอยู่ที่อพอลโล่ที่ต้องรับภาระดูแลเด็กน้อยที่ถูกญาติๆ ฝ่ายพ่อและแม่ผลักไล่ไสส่งด้วยไม่ต้องการเปลืองเงินเปลืองทองและที่สำคัญคือตัวหารในทรัพย์สมบัติที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับทรัพย์สมบัติที่อพอลโล่มี
หนุ่มน้อยวัยเพียงยี่สิบต้นๆ จึงต้องกลายเป็นคุณพ่อลูกติดที่แต่ละคนต่างก็ทั้งหวงและห่วงใยซึ่งกันและกัน เรียกได้ว่าใครๆ ที่ได้เห็นต่างก็หลงรักและเทใจให้กับสองอาหลานจนหมด บ้านที่มีนิศามณีอยู่ด้วยเป็นบ้านอันแสนสุข ไม่ว่าอพอลโล่จะอารมณ์เสียมากจากไหน เมื่อกลับเข้าบ้านวงหน้าที่บึ้งตึงขึงเครียดเหมือนจะฆ่าได้จะแปลเป็นยิ้มกว้างอารมณ์ดี กลายเป็นคนขี้เล่น และหัวเราะเสียงดังลั่นเสียทุกครั้งไป
ยามที่มีผู้หญิงมาเข้าใกล้อาหนุ่มสุดหล่อ เด็กหญิงเพิร์ลหรืออีกนามหนึ่งคือไข่มุก นิศามณี  อิสระภัทรพงศ์จะกลั่นแกล้งหญิงสาวที่ให้มาสนใจอาหนุ่ม พร้อมอาละวาดใส่อาหนุ่มจนอีกฝ่ายต้องพ่ายแพ้ ถ้าหากจะมีอะไรกับผู้หญิงจะต้องทำลับหลังและสั่งให้ลูกน้องทุกคนปิดเป็นความลับ
แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปนิศามณีเติบใหญ่เป็นสาวสวยสะพรั่งเป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆ หลายคน แต่ถูกคุณอาดูแลเป็นอย่างดีจึงไม่มีใครกล้าแหยมเข้ามา แต่จะมาพลาดก็ตอนที่หญิงสาวเดินทางไปศึกษายังต่างแดงบวกกับงานของอพอลโล่ก็เริ่มมีศัตรูทางธุรกิจที่เล่นงานทั้งต่อหน้าและลับหลังทำให้ทั้งสองคนเริ่มห่างกัน แล้วศรวัณหนุ่มหล่อปากหวานก็เข้ามาแทรกกลางพอดี ทำให้นิศามณีหลงรักได้ในที่สุด
 “คุณเพิร์ลถูกรถชนอาการสาหัสครับ”
แก้วไวน์สีสวยหลุดจากมือใหญ่กับร่างกายแข็งแกร่งและทรงพลังที่ซวดเซไปยืนอิงขอบบาร์ “นะ...นายว่าอะไรนะจูโน่ ละ...หลานสาวฉันเป็นอะไร” อพอลโล่เอ่ยเสียงแหบพร่าและแผ่วเบาจนแทบจะไม่ออกจากปากหนา หัวใจแข็งแกร่งเหมือนจะหยุดเต้นและหล่นตุบลงบนพื้นให้คนที่มีความเกลียดชังเขาเหยียบย่ำเล่น
“คนที่นายส่งไปให้คอยดูแลคุณเพิร์ลโทรมาบอกว่า...” จูโน่กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ด้วยความกลัว ทั้งสายตาและน้ำเสียงที่นายเอ่ยถามมาเมื่อครู่มันเย็นยะเยือกราวกับมีน้ำแข็งเกาะอยู่ เท้าแข็งแกร่งก้าวถอยไปด้านหลัง “คะ...คุณเพิร์ลถูกรถชนอาการสาหัสครับ”
“มันเป็นใคร มันเป็นใครที่กล้าทำร้ายหลานรักของฉัน” อพลอลโล่กัดฟันถาม ในดวงตาเป็นประกายแข็งกร้าวเหมือนเสือ
ไม่คิดเลยว่าหลานสาวจะประสบอุบัติเหตุด้วยเอง จะต้องมีใครทำให้มันเป็นแบบนั้น เพราะอะไรนะหรือ...กรามหนาขบกันจนมีเสียงดังกรอด เพราะความเจ้าชู้ของศรวัณไงละ นี่คงจะไปทำให้ใครเขามีความหวังอีกแล้วนะซิ แล้วเมื่อรู้อีกฝ่ายกำลังจะแต่งงาน ทางเดียวที่จะสามารถหลุดรอดมือไปก็จำต้องกำจัดหลานสาวเขาเสียก่อน
หึ...คราวนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้หลานสาวต้องอยู่กับคนเลวๆ คนนั้นอีกแล้ว กรามหนาขบกดบดเบียดจนนูนเด่น ประกายในดวงตาแข็งกร้าวลุกโชนเป็นไฟด้วยความโกรธที่อัดแน่นสุมอยู่ในอก อยากที่จะเดินทางไปหาหลานสาวพร้อมกับจัดการได้คนที่มันทำร้ายหลานสาวเขาให้ต้องเจ็บและจำไปจนตาย
“นายรีบเตรียมเครื่องบินให้พร้อมนะจูโน่ ฉันจะเดินทางไปเมืองไทย เร็วที่สุด” อพอลโล่สั่งการเสียงแข็งกร้าวเหมือนสัตว์ร้ายกำลังคำราม ทั้งที่ความจริงแล้วเขามีกำหนดการเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของนิศามณีในอีกห้าวันข้างหน้า แต่เมื่อเกิดเรื่องร้ายแรงนี้ขึ้น ก็จำต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางในทันที งานเร่งด่วนที่ยังมีคั่งค้างอยู่ก็จำต้องมอบภาระให้เป็นหน้าที่ของจูโน่และจูปิเตอร์เป็นคนจัดการ
“นายติดต่อกลับไปหาเจ้าพวกนั้นให้หาข้อมูลของคนที่ขับรถชนหลานสาวให้ด้วย ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร ทำไมถึงได้กล้านัก” อพอลโล่สั่งการ วงหน้าแข็งแกร่งสะท้อนแสงไฟทำให้ดูน่ากลัวจนแม้แต่จูโน่ซึ่งเป็นคนใจแข็งก็อดที่จะกลัวตัวสั่นแทนคนที่จะถูกจัดการไม่ได้
“ทางโน้นส่งข้อมูลมาให้นายเรียบร้อยแล้วครับ” จูโน่ตอบกลับด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ ดวงตาสีฟ้าตาน้ำข้าวแข็งกร้าวและดุร้ายเช่นเดียวกับคนเป็นนาย กรามหนาขบกัดบดเบียนจนนูนเด่น อยากที่จะจัดการคนที่มันกล้าทำร้ายดวงใจของนายและหัวใจของเขาให้ต้องได้รับทุกข์ทรมานร้อยเท่าพันเท่าให้เหมือนกับตายทั้งเป็น
“อือ...” อพอลโล่รับคำ “นายตามพี่ชายมาหาฉันด้วยนะจู่โน่”
จูโน่ที่คิดว่านายจะต้องพาเขาไปจัดการเรื่องนี้ด้วยมองหน้านายอย่างไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ เพราะถ้านายเรียกหาพี่ชายนั่นหมายถึงว่าเขาจะต้องอยู่โยงเฝ้าโรงแรมนั่นไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีปัญหา แต่เป็นคาสิโนต่างหากที่เขาเป็นกังวล
ช่วงนี้ไอ้เจสันมันก็ยิ่งเล่นงานนายหนัก วันก่อนเพิ่งจะเข้ามาเล่นและโกงเงินไปนับล้านยูโรต่อครั้งก่อนจะเดินลอยหน้าลอยตาพร้อมเสียงหัวเราะออกไปจากคาสิโนหน้าตาเฉย จนถึงตอนนี้เขากับทุกคนยังจับไม่ได้เลยว่ามันใช้วิธีไหน แล้วถ้าหากมันรู้ว่านายไม่อยู่มันจะต้องเหลิงลมเข้ามากวาดเงินในบ่อนเขาทุกวันเป็นแน่ รายได้หายไปเขาและทุกคนไม่เป็นกังวลเลย ทำธุรกิจแบบนี้มันก็ต้องมีได้มีเสีย และส่วนใหญ่ก็ได้มากกว่าเสียเท่านั้นเอง แต่ที่ทนไม่ได้คือถูกหยามหน้าต่างหากละ
“แต่นายครับเอ่อ...”
ร่างหนาใหญ่ที่กำลังก้าวเดินไปห้องทำงานหยุดชะงัก วงหน้าคมคร้ามที่มีความเครียดขึงปรายสายตาไปมองลูกน้องหนึ่งในสองคนที่สนิทที่สุด สองมือใหญ่สอดเข้าไปในกางเกงแสลกสีขาว ไหล่กว้างที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่สั่นอย่างเห็นได้ชัด คงจะเป็นเพราะความเป็นห่วงเป็นใยในตัวหลานสาวที่ตอนนี้ยังคงอยู่ในห้องไอซียู
“มีอะไรจูโน่”
“ให้ผมไปด้วยนะครับ”
“ไม่ต้อง ฉันจะรีบไปจัดการเรื่องส่งมุกไปรักษาตัวกับหมอที่ดีที่สุด แล้วจะเก็บเอาคนที่กล้าทำร้ายหลานสาวฉันมาทรมานให้มันอยากจะอยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้”
“แต่...นายครับ”
มือใหญ่ยกขึ้นโบกเบาๆ เขารู้ว่าจูโน่เองก็ร้อนใจเป็นห่วงนิศามณีไม่แพ้เขาเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายคิดกับหลานสาวเขาเกินความเป็นหลานสาวของนาย แต่ที่ไม่สนับสนุนเพราะอีกฝ่ายเป็นคนใจร้อน หุนหันพลันแล่นและที่สำคัญคือว่ายอมทำตามความต้องการของหลานสาวเขาไปเสียหมด อีกฝ่ายชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก แทนที่จะกลายเป็นผู้นำกลับกลายเป็นหมาตามก้นนายต้อยๆ เสียมากกว่า
“ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรนะจู่โน่ ไม่ต้องเป็นห่วง นายได้เจอกับคนที่ทำร้ายเพิร์ลแน่ อีกอย่างงานทางนี้ก็สำคัญนะ ฉันอยากให้นายอยู่ช่วยจูปิเตอร์ดูแลคาสิโน” แน่ใจได้เลยว่าหากเจสันรู้ว่าเขาไม่อยู่ที่คาสิโนอีกฝ่ายจะต้องมาหาเรื่องเป็นแน่
จูโน่ค่อยเบาใจหน่อย เขาไม่ยอมให้คนที่ทำร้ายดวงใจของนายและหัวใจของเขาได้ลอยนวลอยู่เป็นคนแน่ แต่...ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าพ่นจากจมูกและปากหนาสีชมพูอย่างคนที่ไม่เคยแตะบุหรี่ รู้ดีว่านายหวังให้พี่ชายเขาเป็นคนดูแลนิศามณีต่อไป แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่เคยที่จะสนใจผู้หญิงคนไหนเลย ประจวบกับศรวัณเข้ามา ความหล่อเหลาและปากหวานของชายหนุ่มสามารถผูกใจนิศามณีให้หลงใหลได้ภายเวลาเพียงไม่นาน ความจริงแล้วศรวัณเพียรพยายามสอยดอกฟ้าลงไปคลุกดินอยู่นานแล้ว ติดที่อพอลโล่สั่งห้ามเด็ดขาดว่าถ้าหากว่าเรียนไม่จบห้ามมีความสัมพันธ์กับชายอื่นอย่างใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัว  
ตอนนั้นวันที่นิศามณีโทรมาบอกข่าวว่าได้หมั้นหมายกับศรวัณนั้น แม้ปากเขาบอกว่ายังรับไหว แต่ในอกก็ของพี่ชายก็ตรมไหม้ไม่แพ้เขา แต่ฝืนเก็บความรู้สึกปวดร้าวไว้ภายใน ผิดกับเขาที่ทนไม่ได้ เป๋กินเหล้าเมาหยำเป จนถึงตอนนี้เขาก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ เฝ้าหวังเฝ้าภาวนาให้ก่อนถึงวันแต่งงานนิศามณีทนกับพฤติกรรมเจ้าชู้ของศรวัณไม่ได้ยกเลิกการแต่งงานและหันกลับมามองเขาบ้าง
“แล้วที่นายให้ผมเรียกพี่ชายมา” แต่ถึงจะยังไงจูโน่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ในเมื่อไม่คิดจะพาเขาหรือพี่ชายไปด้วย แล้วเรียกหาทำไมกัน
“เปล่า...ฉันจะให้นายและพี่ชายมาสั่งความให้อยู่ดูแลงานทางนี้ ส่วนฉันจะไปจัดการเอาคนที่มันกล้าทำร้ายหลานฉันมาที่นี่” อพอลโล่บอกด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวดุที่มันลอดออกมาจากไรฟันที่ขบกัดกันแน่น “หวังว่าก่อนจะถึงวันที่ฉันกลับมา นายกับพี่ชายจะจัดการกับไอ้ตัวที่มันเข้ามาก่อกวนคาสิโนให้มันเละเป็นโจ๊กจนไม่กล้ามาลบเหลี่ยมฉัน แล้วที่สำคัญก็เตรียมของรับขวัญเล็กๆ น้อยไว้ด้วยก็ดี”
แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจะเรียบเฉย แต่จูโน่ก็รู้ดีว่างานที่นายมอบหมายไว้ให้นั่นสำคัญเพียงใด “ได้ครับนาย ผมกับพี่ชายจะทำให้ดีที่สุด” จูโน่รับปากอย่างแน่นหนัก หันตัวกลับออกที่รถขับออกไปหาพี่ชายที่ควบคุมดูแลงานอยู่ที่คาสิโนอย่างเร็วรี่
อพอลโล่มองตามร่างลูกน้องด้วยดวงตาแข็งกร้าว นัยน์ตาสีสนิทยิ่งเป็นประกายน่ากลัวเหมือนกับแววตาของมัจจุราชที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรกก็ไม่ปาน

4 ความคิดเห็น:

  1. กว่าพระเอกจะออก แต่ถ้าพี่สองเป็นตัวโกงก็เหมาะค่ะ เห็นด้วย

    ตอบลบ
  2. พระเอกออกช้ามาก กำลังลุ้นว่าจะออกมาตอนไหน 55+

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ17 เมษายน 2557 เวลา 13:18

    สรุปใครคือพระเอกอ่ะ งงง

    ตอบลบ
  4. ตามอ่านๆๆ
    แต่นะ เรื่องนี้ออกเป็นเล่มแล้วล่ะ

    ตอบลบ