หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทัณฑ์เถื่อน ตอนที่ 7 พลาญพล่าชีวาให้สิ้น

ตอนที่ 7
พลาญพล่าชีวาให้สิ้น
อพอลโล่พาร่างใหญ่เคลื่อนไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานด้วยความเหนื่อยอ่อนทางกายและหนักใจกับเรื่องที่ได้เจอ หนังตาสองชั้นปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน เกือบจะสองชั่วโมงที่เขาต้องจัดการเคลียร์เรื่องราวระหว่างลูกน้องกับคู่แข่งทางธุรกิจที่พยายามจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคาสิโนในเกือบจะห้าปีที่แล้ว แต่หลังจากที่รับรู้ถึงผลรายได้ก็กลับเปลี่ยนใจคิดจะเข้าครอบครองและยึดเอาทรัพย์สินที่คุณตาเขาสร้างสมมากับมือไปเป็นของตัวเองทั้งหมด
มือใหญ่กำหมัดแน่น กรามหนาขบกัดบดเบียนจนนูนเด่น ไอ้บ้านั่นเล่นงานเขาจากทั้งทางตรงและทางอ้อมจนลูกน้องเขาต้องเข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลมาแล้วก็หลายครั้ง แต่เขากลับไม่สามารถเอาผิดได้ด้วยหลักฐานไม่มีและที่สำคัญคืออีกฝ่ายนั้นมีนักการเมืองไร้จรรยาบันหนุนหลังอยู่ เลยทำให้เขาและลูกน้องต้องคอยระมัดระวังตัวกันเอง
แล้วในตอนนี้ขีดความอดทนที่เขาพยายามข่มกลั้นเอาไว้ชักจะเริ่มหมดสิ้นแล้วเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาก่อกวนทำกร่างในคาสิโนไม่เว้นแต่ละวัน ใช้กลโกงทุกอย่างกวาดเงินในคาสิโนเขาไปวันละหลายล้านยูโรต่อครั้ง รวมถึงเล่นไม่ซื่อแรงและหนักขึ้นด้วยการลอบทำร้ายหมายเอาเขาให้ถึงตาย อย่างนี้คงจะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่เช่นนั้นชีวิตเขาคงจะต้องตายในไม่ช้าเป็นแน่
“ผมว่ามันล้ำเส้นเรามากเกินไปแล้วนะนาย จัดการมันเลยไหมครับ” จูโน่เอ่ยถามเสียงเครียดอย่างที่อดรนทนไม่ไหว รู้ว่าตัวเองผิดที่ปล่อยให้ความโกรธมาอยู่เหนือเหตุผลทุกอย่าง อารมณ์ร้อน มุทะลุดุดันจนเกือบจะเป็นเรื่องต่อยตีกันในคาสิโนให้ลูกค้าที่มาเล่นตกใจจนหนีไปเสียก็หลายคน แต่ไอ้บ้านั่นมันก็ยั่วยุเหลือเกิน เสียดายที่ไม่ได้ฝากบาทาไว้บนหน้าสักทีสองที สองมือใหญ่กำหมัดเอาไว้แน่น ลมหายใจที่อัดเข้าปอดแรงและเร็วและใบหน้าแดงจัดด้วยความโกรธเกรี้ยวที่แผ่ซ่านไปตามกระแสเลือด
มือใหญ่ยกขึ้นโบกเบาๆ ถึงจะรู้ว่าคนที่กลับไปแล้วคงจะกัดไม่ยอมปล่อย และไม่รู้ว่านับจากวันนี้เจสันเล่นงานเขายังไงอีกแต่การที่จะให้ท้ายลูกน้องไปทำเรื่องไม่ดีไม่ใช่วิสัยของเขา “ยังไม่ต้องก่อนจูโน่ นายอย่าใจร้อน ตอนนี้เราต้องอดทน โต้ตอบไปรังแต่จะเสียกับเสีย”
“แต่นาย...” จูโน่เรียกคนเป็นนายด้วยความเกรี้ยวกราด เมื่อไหร่นายจะจัดการไอ้บ้าสารเลวนั่นเสียที ปล่อยให้มันได้ใจกับการที่เขาต้องเป็นฝ่ายก้มหัวเอ่ยคำขอโทษและโดนมันต่อยหน้าไปสองครั้งทั้งที่ไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด แต่ที่สำคัญคือนายต้องเป็นฝ่ายเอ่ยคำขอโทษและเสียค่าทำขวัญเป็นเงินอีกหลายยูโร ให้มันเดินหัวเราะออกไปหน้าชื่นตาบาน เขาทนไม่ไหวจริงๆ ที่มันกระทำหยามหน้านายเขาถึงขนาดนี้ อยากจะไปตั้งหน้ามันให้หงายหลังอีกสักทีสองที แต่ก็ทำไม่ได้ดังใจปรารถนา ได้แต่เก็บความอึดอัดเอาไว้ภายในอกจนมันรวดร้าวหายใจไม่ออก
มือใหญ่โบกสะบัดบอกลูกน้องอย่างบอกใบ้ว่าเขาต้องการอยู่คิดเพียงลำพัง การจะเล่นงานเจสันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยเพราะชายหนุ่มที่ก่อร่างสร้างตัวมาจากการไม่มีสิ่งใด ถ้าเล่นงานแล้วผิดพลาดกลายเป็นหมาลำบากตัวเขาและลูกน้องทุกคนนั้นแหละที่จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เพราะอีกฝ่ายจะต้องจิกกัดไม่ปล่อยจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง
ดูอย่างเมื่อครู่ซิพอลูกน้องเขาไปจับได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะโกงเกมส์ไพ่โปกเกอร์ แต่พอถูกจับได้มันกลับตีรวนยั่วให้จูโน่ซึ่งเป็นคนมุทะลุและโกรธง่ายอยู่แล้วโกรธจัดจนถึงขั้นลงมือลงไม้กัน กรามหนาบดเบียดขบกัดจนนูนเด่น สายตาที่เจสันมองมายังเขามันมีทั้งเยาะเย้ยหยามหยัน ดูถูกเหยียดหยามและยั่วยุให้โกรธไปอีกคน แต่ดีว่าเขามีความอดทนอดกลั้นที่จะมองอีกฝ่ายเหมือนกับสายลมที่ปลิวผ่านหน้าไปไม่มีตัวตน
(โป๊กเกอร์ (อังกฤษ: poker) เป็นเกมไพ่ที่มีผู้เล่นนิยมเล่นมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากความไม่ซับซ้อนประกอบกับการที่ต้องใช้ความคิดในการประกอบการตัดสินใจ ดังนั้นจึงเกิดอาชีพนักเล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพขึ้นในหลายประเทศในโซนยุโรปและอเมริกา รวมทั้งมีการจัดการแข่งขันเวิร์ลซีรียส์ (อังกฤษ: WSOP) ซึ่งผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นสร้อยข้อมือเวิร์ลซีรียส์ และเงินรางวัลกลับบ้านอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ)
(จึงสามารถกล่าวได้ว่าโป๊กเกอร์เป็นเกมที่อาศัยทั้งโชค ศาสตร์แห่งความน่าจะเป็น จิตวิทยา และความเชี่ยวชาญในการเล่นเพื่อที่จะได้กำไรในการเล่นก็ว่าได้ ในบทความนี้ ขอกำหนดคำย่อไว้ดังนี้ (เป็นคำย่อสากล ของผู้ที่ศึกษาและเล่นโป๊กเกอร์) A คือ Ace (เอซ) K คือ คิง Q คือ ควีน หรือ แหม่ม J คือ แจ๊ค T คือ สิบ และอันดับของไพ่ในโป๊กเกอร์จากมากไปหาน้อยจะเรียงได้จาก A K Q J T 9 8 7 6 5 4 3 2)
 แต่มันก็ยังก็ยังไม่ยอมหยุดกลับยังพยายามก่อกวนด้วยปากหมาๆ ที่ไม่ได้เอาไว้กินอาหาร แต่สักมีปากไว้เห่าหอนและพ่นลมเหม็นๆ ให้คนอื่นเขาได้ดม ทำให้เขานั้นเกือบจะปล่อยความโกรธให้หลุดไปตามความต้องการเสียแล้ว แต่ดีว่าคำพูดแผ่วเบาของหลานสาวดังกลบขึ้นมาเสียก่อน
“อย่าให้ความโกรธเอาชนะเราได้นะคะอาสัณห์” นิศามณีจะชอบเรียกเขาว่าอาสัณห์มากกว่าซัน ซึ่งย่อมาจากชื่อไทยของเขาที่คุณพ่อเป็นคนตั้งให้ว่าสัณห์พิชญ์ที่เขาไม่ค่อยจะได้ใช้ชื่อรองนี่สักเท่าไหร่ และคนที่รู้ชื่อนี้ของเขาก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แขนเล็กที่สอดมาจับและกดกอดแขนใหญ่ ทาบวงหน้ากับไหล่พร้อมเสียงนุ่มหวานเจือด้วยน้ำผึ้ง “คุณพ่อบอกมุกว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า มุกไม่อยากให้คุณอาเป็นทั้งคนโง่และคนบ้าคะ ดังนั้นคุณอาสุดหล่อจะต้องพยายามห้ามโกรธนะคะ”
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าพ่นจากจมูกโด่งได้รูปด้วยความหนักอกและหนักใจ ไม่ใช่ว่าเขาจะคิดไปเองแต่ทว่าอีกฝ่ายมีอุปนิสัยเหมือกับหมาจิ้งจอกผสมกับหมาบ้านแล้วแต่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด อีกทั้งตัวอย่างก็มีให้เห็นก็จากตัวผู้ก่อกวนนั่นแหละที่เริ่มต้นมาจากศูนย์เป็นเพียงแค่เด็กจรจัดคนหนึ่งปากกัดตีนถีบ สิ่งใดที่ทำแล้วได้เงินเจสันเอาหมดแม้กระทั่งงานผิดกฎหมาย กระทั่งฆ่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงให้การช่วยเหลือและเอาเมียเขามาครอบครอง แล้วพอได้สมทุกอย่างก็ดัดหลังทำให้อีกฝ่ายเป็นบ้า
แต่ที่เขาหวี่สุดๆ ก็คืออีกฝ่ายริอ่านกล้าเข้ามาขอเป็นหลานเขย ความจริงมันน่าจะฆ่าทิ้งเสียตั้งแต่วันนั้นด้วยซ้ำ เขาไม่น่าใจอ่อนเพราะคำของร้องของหลานสาวว่าที่ไม่ให้มีเรื่องกัน ทั้งๆ ที่ไอ้บ้านั่นมาเหยียบจมูกถึงบ้านเลย...ให้ตายซิ อพอลโลสบถด้วยความโกรธตัวเอง มาคิดได้ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว เมื่ออีกฝ่ายสร้างอิทธิพลจนเกือบใหญ่คับประเทศเป็นรองก็เพียงแค่ไม่กี่คน
สองมือใหญ่เกี่ยวไขว้สอดกันวางไว้หลังศีรษะ ร่างหนาเอนตัวอิงโซฟาตัวใหญ่ สองเท้าเกี่ยวไขว้นำขึ้นมาวางบนโต๊ะแก้วสีชา พร้อมหนังตาสองชั้นหลุบปิดดวงตาสีสนิม ในสมองหมุนคว้างด้วยกำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับเจสันให้สิ้นซากไปในคราวเดียว
แต่แล้วดวงหนังตาหนาก็ต้องลืมขึ้น เมื่อหูได้ยินเสียงโวยวายโครมครามที่ดังมาจากอีกห้องทำให้เขาถึงกับถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน นี่ก็ตัวปัญหา ใหญ่มากซะจนทำเอาเขาถึงกับปวดหัวริ้วๆ ขึ้นมาอีกแล้ว ไม่รู้จะจัดการยังไงดี มากไปก็หาว่ารังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ น้อยไปก็ทำใจไม่ได้กับความร้ายกาจของอีกฝ่ายที่ทำร้ายหลานสาวสุดที่รักจนเลือดตกยางออก
จนถึงตอนนี้แม้นิศามณีจะได้สติแล้วแต่หลานสาวก็ยังมีท่าทางงุนงง เบลอๆ พูดจาไม่เข้าร่องเข้ารอย แต่เบาใจได้อย่างเมื่ออีกฝ่ายอยู่ใกล้มือหมอและคนที่เขาไว้ใจที่สุด ว่าจะดูแลให้นิศามณีมีความสุขได้ แม้แรกเริ่มอาจจะต้องรบรากันไปบ้าง แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยไปได้ในที่สุด
ร่างหนาใหญ่รีบลุกจากที่นั่งจากเก้าอี้ด้วยความรำคาญ จะจัดการยังไงกับยัยผู้หญิงใจร้ายใจดำคนนี้ดีนะ...?

ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับน้ำเสียงระอิดระอาที่ดังออกจากปากหนา “เป็นบ้าอะไรไปอีกละ อยู่ดีๆ ไม่ชอบกลับทำตัวเป็นอีบ้าอาละวาดฝาดงัวฝาดงาเหมือนกับคนสติไม่ดีนะ”
คนร่างเล็กกว่าที่อาละวาดจนห้องนอนขนาดใหญ่แสนสบายรกรื้อด้วยเศษแก้วและเสื้อผ้าที่กราดเกลื่อนค่อยๆ หันมามอง วงหน้าสวยรูปหัวใจแดงปลั่ง ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยประกายอันเกรี้ยวกราดและรังเกียจเหมือนกับมองเห็นไส้เดือนกิ้งกือ มือเล็กยกขึ้นชี้หน้าคมคร้าม
“ฉันไม่ได้บ้า แต่คุณนั่นแหละที่เป็นบ้า ไอ้คนเฮงซวย ได้หมาเน่า ไอ้หมูสกปรก ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยฉันไปละก็อย่าหวังว่าจะไอ้อยู่อย่างสงบสุข ฉันไม่ยอมให้คุณจับตัวเองไว้เฉยๆ เป็นแน่”
ร่างหนาใหญ่ขยับไปยืนเอนแผ่นหลังแนบชิดกับผนังห้อง สองมือใหญ่ยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก เท้าใหญ่ข้างหนึ่งยื่นล้ำออกไปด้านหน้า วงหน้าคมคร้ามเบะออกเหมือนกำลังแสยะยิ้ม “ถ้าฉันเป็นหมาเน่า เป็นหมูสกปรก เธอก็คงไม่แตกต่างกันหรอกนะผึ้ง แต่อาจจะร้ายกว่า เพราะเธอกล้าที่จะฆ่าคน ในขณะที่ฉันไม่เคยคิด แม้ว่าฉันจะเกลียดคนนั้นเข้าไส้เข้ากระดูดดำก็ตามทีเถอะ”
มณีมณฑ์ทำท่าทางฮึดฮัด ยอมรับว่าตอนแรกเธอคิดจะทำอย่างที่ผู้ชายบ้าๆ คนนี้พูด แต่พอถึงเวลาจริงๆ ตอนที่มือจับพวงมาลัยรถให้หันไปหาอีกฝ่ายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันก็กระตุ้นเตือนสติให้เธอหยุดคิดใหม่จนสมองตีกันยุ่ง ใจมันเลยวอกแวก มือไม้สั่นเทาและใจมันก็สั่งการให้หักพวงมาลัยหลบ เมื่อไร้ซึ่งพยานและหลักฐาน ไม่มีใครรู้นอกจากเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นมันเลยเป็นตราบาปและความอึดอัดที่สุมอยู่ในทรวง เพราะพูดไปอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ ได้แต่รุมประณามหยามเหยียดให้ต้องเจ็บปวดกายและใจเสียทุกครั้งไป
ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดกับลมหายใจที่หอบแรง สองมือเล็กยกขึ้นเท้าสะเอวเล็กคอดแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเสื้อผ้าที่นำมาสวมใส่นั้นเป็นเสื้อตัวใหญ่ของชายหนุ่มที่เธอใส่แล้วพอเอามือเท้าสะเอวแล้วก็ได้เห็นสัดส่วนรูปร่างสมส่วนของเธออย่างชัดเจน ดูได้จากไอ้ดวงตาคมกริบวามวาวที่ลากไล้และมีเลศนัยที่เธอเห็นแล้วทำเอาตัวสั่นวูบไหวเหมือนกับมีไฟรุมเร้าอยู่
“แล้วทำไม ถ้าฉันทำผิดจริงๆ คุณก็หาหลักฐานและแจ้งตำรวจให้มาจับตัวฉันไปลงโทษซิ แต่นี่คุณกลับทำ...ทำเหมือนกับบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป อยากจะทำอะไรก็ทำได้ดังใจชอบ คุณมันก็เป็นพวกหน้าไม่อายรังแกคนไม่มีทางสู้เหมือนกันแหละ” มณีมณฑ์เถียงหัวชนฝาบ้างก็ถูไถไปข้างๆ คูคลอง
“ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว รีบเก็บกวาดทำความสะอาดห้องนี้ให้เรียบร้อยดีกว่า เพราะถ้าไม่ทำ ฉันมีวิธีการอีกนับสิบที่จะทำให้เธอต้องเจ็บปวดไปจนตาย จะลองไม่ละ”
อีกฝ่ายข่มขู่มาทำเอาความโกรธในตัวมณีมณฑ์พุ่งหรี่เหมือนกับระเบิดที่ตั้งเวลาเอาไว้ ทั้งหมอน ผ้าห่มและรวมถึงข้าวของที่แตกกระจายตกหล่นอยู่บนเตียงต่างปลิวว่อนไปที่ร่างใหญ่ซึ่งหลบอย่างรวดเร็วและเพียงแค่เผลอนิดเดียวร่างใหญ่ก็เข้ามาแนบชิดร่างเล็กบอบบางรวมถึงมือใหญ่ก็จับบีบแขนเล็กเรียวจนแทบจะหักออกเป็นสองท่อน
“เธอนี่มันฤทธิ์มากจริงๆ นะผึ้ง อย่างนี้ถ้าไอ้ศรวัณมันได้ไปเป็นนางบำเรอจริงๆ ฉันว่าไม่เกินสามวันมันคงทิ้งเธอให้นอนห่าวแห้งเหี่ยวบนเตียงนอน เหมือนอีแก่ที่เขายกขึ้นหิ้ง แล้วก็ไปหาผู้หญิงคนไหมที่นุ่มนวลและอ่อนหวานกว่า อืม... แล้วผู้หญิงไวไฟร้อนแรงอย่างเธอจะทนได้เร้อ...” อพอลโล่ลากเสียงยาวอย่างหมั่นไส้กับความเย่อหยิ่งของอีกฝ่าย
“ขนาดคนที่ปากเธอบอกว่าเกลียดเข้าไส้เข้ากระดูกดำอย่างฉัน พอแตะนิดแตะหน่อยก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นเตียงอยู่ตลอดเวลานะหือ...”
น้ำเสียงกลัวหัวเราะที่ดังออกมาจากร่างใหญ่ที่โอบรัดรอบเรือนกาย แผ่นหลังแนบชิดอกกว้าง ยังไม่ทำให้ใจสั่นสู้ใบหน้าคร้ามแกร่งที่ซุกไซ้ต้นคอด้านหลังไล่ไปถึงซอกหู ริมฝีปากหนาขบกัดใบหูเล็ก ปลายลิ้นสากระคายและร้อนผ่าวสอดแทรกตวัดกวาดไล้ช่องหูเล็ก มือใหญ่ขยับเคลื่อนไปจับมือเล็กพามัดขยับเคลื่อนไปตามเรือนกายอวบอิ่มเน้นหนักบนอกอวบเต่งตึง
“เห็นไหม แค่ฉันแตะอย่างนี้...” ริมฝีปากหนาร้อนดูดเม้มด้านหลังลำคอจนมันเป็นสีแดงช้ำ มือใหญ่ลูบไล้พร้อมเกี่ยวแยกสาบเสือและสะกิดกระดุมให้หลุดออกจนได้สัมผัสกับผิวเนื้อเนียนนุ่มของอีกฝ่าย “เธอก็ตัวสั่นแล้ว” ปลายนิ้วยาวร้อนไล้วนบนหน้าท้องแบนราบเรียบ รอยยิ้มผุดขึ้นบนวงหน้าคร้ามแกร่งเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้สวมใส่แม้กระทั่งกางเกงชั้นในเพราะมันเปียกชื้นจากฝีมือเขานั่นเอง
“แล้วอย่างนี้จะมาทำปากแข็งบอกว่าไม่สนใจฉันอีกหรือไงผึ้ง” ปลายลิ้นสากระคายลากไล้ผิวเนื้อด้านหลังลำคอไล่ไปยังใบหูเล็กอีกข้าง พร้อมกับปลายนิ้วยาวใหญ่ที่รุกไล่ไปถึงปอยเส้นไหมนุ่ม
“มะ...ไม่นะคุณซัน ปล่อยฉันนะคนบ้า...” มณีมณฑ์ร้องห้ามเสียงสั่นและแหบพร่า ในหัวใจเต้นตึกๆ เหมือนกับมีคนเอากลองมาตีรัวกระหน่ำอยู่ภายใน ในลำคอรู้สึกถึงความกระหายเหมือนกับคนกำลังหิวน้ำ ปลายลิ้นเล็กไล้เลียริมฝีปาก
แต่อพอลโล่กลับไม่คิดจะสนใจน้ำเสียงสั่นพร่าที่ร้องห้าม มือใหญ่ลากไล้นวดคลึงไปตามกายสาวอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล “ฉันหิวแล้วละผึ้ง เราไปกินน้ำผึ้งรวงกันดีกว่า”
ความจริงเขาอยากจะจัดการมณีมณฑ์ที่นี่อยู่หรอกนะ แต่พอเห็นสภาพห้องที่สาวเจ้าทำเอาไว้แล้วมันทำให้เขาหมดอารมณ์ ไม่ใช่คนซาดิสต์ที่จะเห็นคนที่นอนด้วยมีเลือดท่วมตัว มันไม่สุนทรีและมีความสุข แขนใหญ่สอดรัดช้อนร่างบอบบางขึ้นมาแนบกาย ก้มตามองทรวงสล้างขาวอวบที่ปลายยอดแต่งแต้มด้วยเชอรี่สีเข้มนุ่มและหวานลิ้นอย่างที่ยังติดตรึงตราใจที่มันกำลังขยับเคลื่อนไหวกระเพื่อมยั่วใจเขาอยู่
มณีมณฑ์ตัวสั่น รีบจับชายสองทั้งสองฝั่งที่แยกออกมาทาบติดกันและกลัดกระดุมด้วยมือไม้ที่สั่นเทาจนกลัดผิดกลัดถูก ปากก็ร้องโวยด่าทออีกฝ่ายไม่ยอมหยุด วงหน้าสวยงองุ้มดวงตาเป็นประกายเกรี้ยวกราดเหมือนเป็นคมมีดกรีดเข้าไปบนลำตัวแข็งแกร่ง ก่อนที่สองมือเล็กซึ่งจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองเรียบร้อยแล้วจะลงมือกระหน่ำไปบนอกกว้างของคนที่หัวเราะเหมือนกับครื้นเครงแต่ในน้ำเสียงนั้นกลับฟังเหมือนว่ามีความกังวลซึ่งซุกซ่อนเอาไว้ไม่มิด
“ถ้าเธอไม่หยุดปากกล้า ด่าฉันไม่ซ้ำคำและหยุดทำร้ายฉันนะผึ้งรับร้องได้ว่าแถวนี้จะเป็นตั่งเตียงนอนให้ฉันกินน้ำผึ้งรวงเป็นแน่”
สองมือหยุดชะงักและยกขึ้นปิดปากตัวเองทันควันอย่างรู้ว่าอีกฝ่ายเอาจริงแน่ แต่ดวงตาไม่วายกลายเป็นมีดบางเฉียบ แหลมและคมกริบ รวมถึงรัศมีแห่งความโกรธเกลียดและเคียดแค้นที่ฝั่งแน่นในกระแสเลือด สมองก็พยายามครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะหนีรอดจากเงื้อมมือคุณซันและเอาคืนอีกฝ่ายให้เจ็บแสบ เรียกว่ากระอักเลือดจนตายกันไปข้างหนึ่งได้เลยทีเดียว
อพอลโลหลุบตาลงมองแม่ตัวแสบที่ดูเหมือนจะเงียบผิดปรกติก็ให้สงสัยเหมือนกัน แต่เอาเถอะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขารับได้หมดทุกอย่างอยู่แล้ว ร้ายมากก็ร้ายตอบและต้องให้แรงกว่าดูซิว่าจะทนความโหดของเขาได้สักแค่ไหนกัน รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดขึ้นบนวงหน้าคร้ามแกร่ง จะกลัวอะไรกับแค่มดตัวเล็กที่กัดบนเนื้อไปก็เพียงแค่ทำให้แสบๆ คันๆ แล้วเขาจะบีบให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้

2 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าอึดอัดบอกทางนี้ก็ได้นะ ทางนี้รับฟัง อิอิ

    ตอบลบ
  2. เหอ ๆ
    รอมันหลับก่อน
    แล้วเจี๋ยน ๆ ๆ ให้เหี้ยนโลด

    ตอบลบ