หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

เพลิงรักร้อน ซ่อนรักร้าย ตอนที่ 1 เธอตบฉันจูบ

ตอนที่ 1
เธอตบฉันจูบ
เสียงหวานนุ่มราวกับนกไนติงเกลที่ดังเล็ดลอดออกมาจากเสียงสรวลเสเฮฮาของหนุ่มๆ สาวๆ เลยวัยรุ่นมาเพียงไม่กี่ปีนับสิบคนนั่งคุยกันเสียงดังฟังชัด บางคนไม่พอใจยังส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง แต่กลับไม่ทำให้หนวกหูและรำคาญด้วยพวกเธอและเขาเหล่านั้นเมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรก็จะหันมามองว่ามีใครจะต่อว่าต่อขาลบ้างหรือเปล่าก่อนจะเอ่ยคำขอโทษออกไป สิ่งที่ทำอยู่เรียกความสนใจจากหนุ่มร่างสูงใหญ่ด้วยสัดส่วนชายไซด์ฝรั่งให้ต้องหันมอง
ชายหนุ่มกวาดสายตามองผ่านเลยไปก่อนจะต้องย้อนกลับมาใหม่และหยุดอยู่ที่แม่สาวในชุดสีแดงเพลิงรัดรูปเน้นทรวงทรงอกเอวอวบอัดเรียกได้ว่าใครเห็นเป็นต้องเหลียวมองซ้ำและถูกตรึงเอาไว้ ซีกข้างของวงหน้านวลเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูระเรื่อมีปอยผมหยิกเป็นลอนเคลียคลอข้างแก้มไล่ลงมาถึงลำคอระหง เนินเนื้อส่วนที่อยู่นอกเหนือจากตัวเสื้อเป็นสีขาวอมชมพู
ดวงตาคมกริบราวกับพญาเหยี่ยวไล่มองลงไปหยุดที่ทรวงอวบอัดนูนเด่นดันตัวเสื้อออกมาแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคอกับความอวบใหญ่ซึ่งกำลังสะท้อนขึ้นและลงตามจังหวะการหายใจของผู้เป็นเจ้าของที่น่าจับต้อง มันคงจะเต็มไม้เต็มมือและดูท่าจะนุ่มถ้าหากได้จับต้อง
ชายหนุ่มอยากจะให้หญิงสาวหันหน้ามาทางเขาสักหน่อย อยากเห็นหน้าให้ชัดเจนแต่แล้วมันก็มีอะไรบางอย่างมาฉุกใจให้คิดถึงใครบางคน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนเพราะความรู้สึกคุ้นตากับเสี้ยวหนึ่งของวงหน้านั้นอย่างประหลาด และเมื่อหญิงสาวหันหน้ามา...กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มตอบนูนเด่นขึ้นมา พร้อมประกายในดวงตาแข็งกร้าวลุกโชนด้วยเพลิงไฟ
เวฬุกา พันธ์นุรักษ์...
“มีอะไรกระต่าย” หนึ่งในเพื่อนร่วมก้วนที่นั่งฉลองการเรียนจบปริญญาเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆ ของเพื่อนสาวที่เกิดอาการสะดุ้งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมหน้าตาที่เคยเริงร่าอยู่ก็กลับซีดเผือดลงอย่างกะทันหันด้วย
“ไม่รู้ซิ เหมือนกับถูกใครมองอยู่อย่างนั้นแหละ” ตอบกลับอย่างรู้ตัวดี ก็นะเธอเป็นคนสวยโดดเด่นอยู่แล้วคงจะมีใครมองแบบว่า...ไม่อยากจะคิด แบบว่าคิดแล้วมันเซ็ง จิตตกไปด้วย เลยปล่อยเลยตามเลยใครจะคิดอะไรชั่งหัว เอาแค่ว่าฉันไม่ไปสนใจก็พอแล้ว แต่คราวนี้มันผิดกัน
“แหม...ก็หล่อนมันสวยนี่ยะยัยกระต่าย ใครเห็นก็ต้องมองเป็นธรรมดา จะแปลกใจอะไรนักยะยัยลูกคุณหนู”
“ไม่ใช่นะคือว่า...” เธอก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนกลัวอะไรง่ายๆ และยังเป็นคนสู้คนด้วย แต่กับการถูกมองในครั้งนี้จากทิศทางใดก็ไม่รู้ได้ ความรู้สึกมันบอกว่าไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ มันทำให้เธอออกจะกลัวๆ เกรงๆ
หญิงสาวเหลียวมองอย่างช้าๆ หาที่มาที่ไป แค่กลืนน้ำลายลงคอก็ยังรู้สึกติดขัดกับสายตาคมกริบราวกับมีดโกนที่มันบาดลึกเข้าไปในร่างกายจนถึงกับสะดุ้งเฮือก
ดวงตากลมโตใสแจ๋วเป็นประกายของคนที่กล้าเผชิญหน้าอย่างไม่หวาดหวั่นเกรงแม้จะมีภัยร้ายอยู่ตรงหน้าสบกับดวงตาคมกริบราวกับพญาเหยี่ยวราวกับเปลวเพลิงไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกคนที่อยู่ใกล้
มองอะไรไอ้คนบ้า...เวฬุกาข่มความอายให้เปลี่ยนเป็นความโกรธถลึงตาใส่เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องเอาๆ ด้วยสายตาราวกับแผดร้อนเหมือนเพลิงไฟกำลังเผาไหม้ให้เธอเป็นผุยผงแต่บางคราวก็ทอดสายตาอ้อยอิ่งราวกับจะกลืนกินเธอไปจนหมดทั้งตัวอย่างนั้นแหละ บ้าจริงเชียว...วงหน้านวลผ่องเอ่อแดงลามเลียลงไปถึงลำคอ มันแปลกที่เธอไหววูบสะท้านไหวกับสายตาอีกฝ่ายที่มองมา
ชายหนุ่มยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย เมื่อเห็นปฏิกิริยาจากแม่สาวตัวเล็กกว่าเขาเสียมากมาย แต่ดูท่าจะฤทธิ์ร้ายใช่หยอก อย่างนี้มันน่าหลอกมาเคี้ยวเล่น กระดูกคงกรุบกรอบน่าดู
สองหนุ่มสาวยังคงสาดสายตาใส่กัน แม้ภายในใจจะมีอารมณ์อะไรก็ตามที แต่ชายหนุ่มก็ข่มมันไว้จนลึกสุดของความรู้สึก ปรับเปลี่ยนสายตาร้อนแรงเป็นเปิดเปลือยความรู้สึกปรารถนาอันเร่าร้อนระคนออดอ้อนและอ่อนหวาน กวาดสายตาคมกริบหยุดบนริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด ริมฝีปากหนาหยักผุดรอยยิ้มตรงมุมปากอย่างมีเสน่ห์ ปลายลิ้นสากระคายยื่นออกมาไล้เลียริมฝีปาก
เวฬุกาถึงกับเข่าอ่อนสั่นสะท้านเยือกไปทั้งกายเหมือนกับถูกห้อมล้อมด้วยกระไอเย็นจากกองหิมะจากขั้วโลกเหนือ ในหัวใจเต้นแรงและเร็วเหมือนกับปืนกล แม้จะล้อมรอบด้วยเพื่อนชายที่พยายามก้าวข้าวสะพานมาสานไมตรีด้วย แต่ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกอย่างนี้เลยสักคนเดียว
ไม่เข้าใจ...ทำไมเพียงแค่ถูกอีกฝ่ายมองเธอถึงกับไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับถูกสะกดจิต ปลายลิ้นเล็กๆ ยื่นออกมาไล้เลียริมฝีปากเบาๆ กับการจูบด้วยสายตาอันร้อนแรง ไฟร้อนผ่าวไหลพุ่งพล่านมารวมกันอยู่ที่วงหน้า อยากจะถอนสายตากลับมาแต่ก็ไม่อาจที่จะทำได้ เหมือนกับถูกสายน้ำวนโอบล้อมรอบและดึงดูดให้หลงเข้าไปในเปลวเพลิงที่เธอไม่เคยจะรู้จัก
ชายหนุ่มถอนสายตาจากการตรึงรั้งริมฝีปากอวบอิ่ม ไล่มองลงไปตามลำคอระหงและหยุดตรงเนินทรวงอวบอิ่มที่มันกำลังสะท้อนขึ้นและลง ปลดเปลื้องอาภรณ์หญิงสาวด้วยสายตา ปาดไล้ริมฝีปากหนาด้วยปลายลิ้นสากระคายพร้อมขยับริมฝีปากเหมือนกับกำลังจูบซัดดูดดื่มปลายยอดทับทิมที่มันแข็งชันเป็นไตขึ้นมา
เวฬุกาสั่นสะท้านไหววูบเหมือนกับคนที่กำลังก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่มันไม่ได้มีแต่ความร้อนอย่างเดียว ขบกัดกลีบปากอวบอิ่มจนฮ้อเลือดเพื่อไม่ให้เสียงแปลกๆ หลุดออกมาจากลำคอ ไม่สามารถที่จะถอนสายตาจากวงหน้าคร้ามแกร่งดุกระด้างแต่มีเสน่ห์เย้ายวน อีกทั้งสายตาที่มันมองทะลุผ่านเนื้อผ้านุ่มนิ่มเข้าไปถึงส่วนลึกภายในกายสาว
“กระต่าย!!
“หือ...” เวฬุกาถอนสายตาเมื่อถูกเพื่อนเรียกและเขย่าจนตัวคลอน ดึงสติเธอให้กลับมาสู่ห้วงเวลาปัจจุบันกับความอายที่มันผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด “มะ...มีอะไร” คิ้วโก่งได้รูปเหมือนวงพระจันทร์เลิกขึ้นเอ่ยถามคนที่เขย่าอย่างขอบใจอยู่ในใจ
“แกเป็นอะไรกระต่าย ฉันเรียกตั้งหลายครั้งแล้วนะทำไมไม่ขาน แล้วมองอะไรอยู่นะ” คนเขย่าถามยาวและมองตามสายตาของเพื่อนแต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเลยได้แต่ส่งคิ้วผูกเป็นโบว์ถามเพื่อน
“ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร” ตอบเพื่อนแต่ยังเหลือบสายตาไปมองชายหนุ่มที่ทำให้เธอแทบไม่เป็นตัวของตัวเองก่อนจะผ่อนลมหายใจออกจากปอดด้วยความโล่งอกที่เห็นว่าตอนนี้เขาไม่สนใจเธอแล้ว แต่แวบหนึ่งก็อดที่จะเสียดายจนต้องรีบดุตัวเอง
“ไม่มีอะไรหรอก คงจะเป็นเพราะเหนื่อยและง่วงนะ ฉันขอตัวไปห้องน้ำหน่อยนะ” ไม่รอฟังว่าเพื่อนจะตอบว่าอะไรเวฬุกาก็รีบลุกขึ้นเดินลิ่วๆ ไปยังฝั่งที่มีห้องน้ำอยู่โดยไม่รู้เลยว่าเพียงแค่เธอลุกขึ้นคนที่มองเหมือนกับจะกลืนกินเมื่อครู่ก็ลุกตามติดไปด้วย

เหมือนกับว่ามันเป็นโอกาสดีของหนุ่มร่างหนาใหญ่ที่คิดไม่ซื่อ เพราะแม้ในร้านอาหารจะมีผู้คนมากมาย แต่ทว่าเส้นทางเดินหน้าห้องน้ำกลับไม่มีใครสักคน เท้าใหญ่ก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถที่จะคว้าแขนเรียวและกระตุกหญิงสาวให้ถลากลับมาชนเข้ากับอกเขา มือใหญ่ข้างหนึ่งสอดเข้าระหว่างเอวกระชับร่างโปร่งบางแนบกายและอีกมือยกขึ้นปิดปากอวบอิ่มที่กำลังจะอ้าร้องขอความช่วยเหลือไว้อย่างรวดเร็วทันท่วงที
“อย่าร้องน่าสาวน้อย ก็สายตาเธอมันเชิญชวนให้ฉันรีบตามมานะ นี่ฉันก็ทำตามความต้องการของเธอแล้วไง” ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงไปกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูเล็กและอดไม่ได้ที่จะยั่วหยอกด้วยการส่งปลายลิ้นสากระคายกระเซ้าช่องหูนุ่มสลับกับริมฝีปากร้อนผ่าวขบกัดติ่งหู
อุ้ย!!! บ้าหรือเปล่า เธอพูดเมื่อไหร่กันที่ว่าให้เขาตามมานะ เวฬุกาตาเบิกกว้าง จากความตื่นตระหนกในตอนแรกเปลี่ยนเป็นความกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น เรือนกายสั่นสะท้านไหวเหมือนกับมีสายลมเย็นเคลือบน้ำแข็งมาเกาะและปกคลุมร่างกาย กระดิกตัวก็ไม่ได้เมื่อถูกคีมเหล็กรัดจนกระดูกในกายแทบจะแตกแหลกเหลวจมหายไปในไออุ่นจนถึงกับร้อนที่ข่มกลั้นกายเธอจนเหลือเล็กเท่ามด
“อือ...อือ...ฉันเปล่านะ” กว่าที่จะเรียกสติที่มันกระเจิดกระเจิงหายไปได้และพยายามส่งเสียงพูดที่มันก็ดังผะแผ่วแทบจะกลายเป็นเพียงแค่เสียงกระอึกกระอักดังอยู่ในลำคอเท่านั้น แล้วเธอก็ถูกไอ้บ้าห้าร้อยเอาเปรียบ...จมูกโด่งได้รูปกดลงบนพวงแก้มนุ่มซ้ายขวา สลับจูบซับบนกลีบปากอวบอิ่มนุ่มจนฉ่ำใจถึงได้ยอมปล่อย แต่ก็ยังไม่คลายแขนใหญ่ที่รัดรอบเอวเล็กคอดกิ่ว
“จะพูดอะไรนะสาวน้อย” เขายังใจดีนะที่ยังคิดถามไถ่ ปลายนิ้วยาวลากไล้บนพวงแก้มนุ่มที่แดงปลั่งอย่างน่ามอง ไล่ไปบนกลีบปากอวบอิ่มสั่นระริก “หืม...” ทอดเสียงถามยาวไม่ถึงกับนุ่มแต่ก็ไม่แข็งกระด้าง ดุนดันกายร่างโปร่งบางนุ่มนิ่มน่าสัมผัสไปเสียหมดทุกส่วนไปยังมุมหนึ่งซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ กับห้องน้ำนี่แหละ
แม้ว่าร่างของเขามันใหญ่และหนาจนสามารถบดบังร่างโปร่งกลมกลึงให้เหลือตัวเล็กเท่ามดได้ แต่เพราะว่าส่วนที่ยืนอยู่นี่มันโล่งโจ้งจนเกินเหตุ แล้วถ้าขยับไปอีกนิดตรงจุดนั้นจะมีต้นไม้ประดับขนาดใหญ่ที่สามารถใช้บดบังสายตาและความสนใจของคนที่เดินผ่านไปมาเพื่อทำธุระส่วนตัวได้ ไม่กีดขวางเส้นทางเดินของใคร จะทำอะไรก็สบายใจหน่อย
มือใหญ่จับรั้งกายกลมกลึงให้หันมาประจันหน้าด้วย หลังนิ้วยาวร้อนผ่าวลากไล้คลึงปลายคางมน ดวงตาคมกริบสีสนิมยิ้มใส่ดวงตากลมโตใสแจ๋วที่เบิกกว้าง กลีบปากอวบอิ่มอ้าค้างเพราะจำเขาได้
“คุณ!!!!
ชายหนุ่มยิ้มใส่ดวงตากลมโต ตรึงร่างโปร่งบางไว้กับผนังห้อง แต่เพราะหญิงสาวยังขัดขืนฝืนเอาไว้ สองขาแข็งแกร่งตรึงสองขาเรียว มือใหญ่ข้างหนึ่งจับสองแขนเรียวตรึงเหนือศีรษะ กวาดสายตาที่อัดแน่นด้วยประกายสีเพลิงร้อนแรงด้วยความปรารถนา
“ให้ฉันปล่อยเธอใช่ไหม อืม...ปล่อยก็ได้นะ แต่...” เว้นเสียงนุ่มทุ้มเอาไว้เล็กน้อย ใบหน้าคมคร้ามแกร่งโน้มลงไปประทับปากหนาร้อนผ่าวบนไหล่มลขบกัดสายเสื้อเส้นเล็กๆ ให้เคลื่อนไปตกจากลาดไหล่กว้างก่อนจะเคลื่อนกลับประพรมเลาะเล็มจุมพิตร้อนผ่าวบนผิวเนื้อเนียนนุ่มทีละน้อยไปตามลำคอระหง จมูกโด่งได้รูปกดบนพวงแก้มนุ่มเคลื่อนไปจนถึงใบหูเล็ก ขบกัดไม่ถึงกับหนักแต่ก็ไม่เบา
“ห้ามร้องส่งเสียงร้องนะ”
“ฮ่อย!!!” (ปล่อย) แทนที่จะตอบรับคำพูดอีกฝ่ายเวฬุกากลับบอกให้เขาปล่อย แม้เธอจะดูเปรี้ยวและร้อนแรงสักเพียงใด แต่ก็ยังไม่ประสาเรื่องการใกล้ชิดกับผู้ชาย ยิ่งกับคนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าจะเปรียบเป็นเสือหรือว่าหมาป่าเจ้าเล่ห์ดี กระต่ายน้อยอย่างเธอก็ยิ่งจะเสียเปรียบในทุกทาง แต่เห็นสายตาที่มองมาแล้วทำเอาร้อนๆ หนาวๆ จำต้องพยักหน้าตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่
“อือ...”  รับปากไปแต่กายก็ไม่ได้อยู่เฉยสักนิด พยายามบิดส่ายให้หลุดออกจากคีมเหล็กที่รัดรอบเอวบางเสียจนมันแทบจะหักออกเป็นสองท่อน ไหนจะกายใหญ่ที่มันบดเบียดแนบชิดทำให้การหายใจเป็นไปได้อย่างลำบากยากเย็น แล้วยังจะทำให้หัวใจหวั่นไหวจากเพลิงไฟร้อนผ่าวที่โอบล้อม
ทำไมถึงได้เกิดอาการแปลกๆ ไหววูบวาบกับคนที่ลวนลามด้วย ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ให้ตายซิ
“ฮ่อยฮั้นฮะ!!!” (ปล่อยฉันนะ) บิดสองมือเล็กจากมือใหญ่ที่มันรัดจนแขนแทบจะหักเป็นท่อนๆ ดวงตากลมโตเป็นประกายเว้าวอนขอร้อง แพขนตายาวงอนกระพริบปริบๆ ให้อย่างที่คิดว่าคนถูกมองจะรู้สึกสงสารและรีบปล่อย แต่เวฬุกาไม่รู้เลยว่ายิ่งเธอทำอย่างนั้นชายหนุ่มกลับยิ่งปรารถนาอยากลิ้มรสผิวกายหวานนุ่มมากยิ่งขึ้น
แต่เพียงแค่มือใหญ่เคลื่อนออกจากปากอวบอิ่มเท่านั้นเวฬุกาก็อ้าปากร้องขอความช่วยเหลือทว่า... “กะ...” เสียงที่เปล่งร้องออกไปกลับเลือนหายลงไปในลำคอและเป็นเพียงเสียงกระอึกกระอักกับดวงตากลมโตใสแจ๋วยิ่งเบิกกว้างเกือบจะเท่าไข่ห่าน เพราะริมฝีปากหนาร้อนที่มันทาบทับลงมาอย่างแม่นยำ หัวใจสาวเต้นตึกตักโลดแล่นไปตามท่วงทำนองดนตรีเพลงสายปรารถนาที่คนร่างหนาใหญ่กว่าเริ่มต้นบรรเลงด้วยการบดคลึงขบกัดกลีบปากอวบอิ่มบนล่างสลับกันไป
“ก็เตือนแล้วว่าอย่าร้อง ไม่เชื่อเองนี่น่าหนูน้อย” พูดแนบชิดริมฝีปากอิ่มนุ่ม ขบเม้มคลึงเคล้นไปทั่วกลีบปากอวบอิ่มนุ่ม ปลายลิ้นสากระคายลากไล้สอดแทรกแยกเข้าไปเลาะเล็มไรฟันขาวที่ยังขบกัดกันอยู่พร้อมเสียงหัวเราะหึหึที่ดังจากลำคอใหญ่  มือใหญ่ข้างที่ว่างเริ่มเคลื่อนไหวจากลาดไหล่กว้างลูบไล้เวียนวนลงมาทีละน้อยตามผิวกายเนียนนุ่มประดุจใยไหมซอกซอนลากไล้ตามขอบบราไร้สายบ้างป่ายสะบัดไปคลึงเคล้นไปบนโนมเนื้อเต่งตึงก่อกองไฟผุดขึ้นบนกายสาว
“อือ...” ไม่นะปล่อยได้แต่ส่งเสียงอือๆ อาๆ ส่ายหน้าหนีแต่ริมฝีปากหนาก็ทาบทับตามติดและบดคลึงด้วยความหนักหน่วงรุนแรงขึ้น เวฬุกาอยากจะร้องไห้ กลัวหรือก็กลัว เกิดความแปลกในร่างกายก็ใช่ ทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง กลีบปากอวบอิ่มเผยแย้มจะร้องห้ามปรามกลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ปลายลิ้นสากระคายและร้อนผ่าวสอดแทรกล่วงล้ำเข้าไปภายในพลิกพลิ้วเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กที่ยื่นมาขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไป
แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เรือนกายสั่นสะท้านไหวหวิวด้วยลูกไฟเล็กที่มันเริ่มจะก่อตัวขึ้นกึ่งกลางเรือนกาย แต่เวฬุกายังจะพยามดึงสติให้กลับคืนมาและข่มกัดฟันเพื่อจะกัดลิ้นใหญ่ที่มันท่องเที่ยวเลี้ยวลดไปทั่วโพรงปากนุ่มแต่กลับต้องเจ็บร้าวน้ำตาเกือบจะหยดไหลออกจากสองตา
“หือ...ฤทธิ์มากใช่เล่นเลยนะเธอนี่” จอห์นสันหัวเราะหึหึในลำคออย่างชอบใจ มือใหญ่บีบกระชับปลายคางมนและแก้มนุ่มเต็มแรง ริมฝีปากหนาทาบทับขบกัดเรียวปากนุ่มอวบอิ่มลงแรงไปเล็กน้อยให้หญิงสาวได้เจ็บ ตวัดปลายลิ้นลากไล้ตามความยาวนุ่มของกลีบปากบาง
“รู้ไหมว่ายิ่งขัดขืนต่อต้านมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งสนุกที่จะได้สัมผัสเธออย่างนี้” มือใหญ่อีกข้างเคลื่อนไปทาบทับไปบนทรวงอวบอิ่มใหญ่อลังการที่มันนุ่มหยุ่นและเหมาะกับมือใหญ่ของเขามาก  คลึงเคล้นไม่หนักมากแต่ก็ไม่ได้เบามือปลุกอารมณ์ปรารถนาในกายสาวให้มันร้อนเป็นเพลิงไฟได้
ฝ่ามือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นจับมือใหญ่ป่ายปัดให้ออกห่างไปจากส่วนที่ทำให้เธออ่อนไหว ก่อนที่มืออีกข้างจะ...เพี๊ยะ!!! สะบัดใส่ใบหน้าคร้ามดุจนหันตามแรงส่ง ก่อนจะยกทั้งสองมือดันกายใหญ่ให้ออกห่าง เพื่อที่จะหนีเอาตัวรอดจากไอ้บ้าโรคจิต
โกรธ...แวบแรกที่ฝ่ามือเล็กๆ ฝาดถูกใบหน้า ปลายลิ้นสากระคายกระทุ้งกระพุ้งแก้มข้างที่ถูกตบ ในดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ขึ้นก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วรีบหันหลังกลับ ก้าวเพียงเล็กน้อยก็สามารถที่จะยื่นมือไปคว้าแขนแม่ตัวแสบดึงกลับมา
“อุบ!!” เวฬุกาไม่ทันจะได้ร้องขอความช่วยเหลือ เธอยังไม่ทันจะได้เตรียมใจและตั้งตัวด้วยซ้ำ ก็ถูกกระชากตัวกลับมาแล้วใบหน้าคร้ามดุกระด้างโฉบลงไปประทับบนเรียวปากนุ่มด้วยความเร็วและรุนแรงจนกลีบปากอวบอิ่มถึงกับช้ำพร้อมกับความเจ็บแปลบที่มันแทรกตามมา
น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้าด้วยความตกใจและหวาดกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น พยายามเบี่ยงกายหนีแต่มันก็ติดไปเสียทุกหนแห่ง อีกฝ่ายยังบดเบียดกายอย่างแนบชิด ทั้งหยอกเย้ารุกเร้าอย่างไม่ให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอจนเวฬุกาถึงกับเหนื่อยอ่อน แล้วสายลมยังพัดพาอารมณ์วาบวูบไหวหวิวที่มันแล่นพล่านไปตามกระแสเลือดจนรับมือไม่ถูก
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ กลีบปากหนาร้อนขบกัดผิวเนื้อเนียนนุ่มจนแดงเป็นจ้ำ จากที่คิดจะตรึงขาเรียวด้วยขาแข็งแกร่งแล้วแต่ก็เปลี่ยนใจเป็นสอดแทรกเข้ามาอยู่กึ่งกลางพร้อมดันขาเรียวยาวข้างหนึ่งให้ค่อยๆ เล็กน้อยขาเรียวยาวก็ขยับเคลื่อนขึ้นไปพักบนขาใหญ่ กระโปรงสั้นกระชับร่างถอยร่นขึ้นไปพำนักอยู่บนต้นขาให้ชายหนุ่มได้บดเบียนความแข็งแกร่งที่มันขยายตัวดันตัวกางเกงแนบชิดกับเนินเนื้อนุ่มนิ่มที่ตอนนี้มีเพียงจีสตริงบางเบาปกปิดอยู่
เวฬุกาถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวระคนวาบหวิวด้วยกระแสไฟปรารถนาที่มันโอบล้อมรอบเรือนกายเมื่อถูกคนที่เธอคิดว่าเป็นโรคจิตเล่นงานทั้งบนและล่างอย่างช่ำชอง หน้าท้องแบนราบเรียบไหวกระเพื่อมพอๆ กับหน้าอกหน้าใจขนาดน้องๆ ผลส้มโอที่ถูกเคล้นคลึงอย่างไม่เบามือ
“อย่า...อย่าทำฉันเลยนะ ได้โปรด” เวฬุกาเว้าวอนห้ามปรามเสียงหวานแหบพร่า แต่เรือนกายกลมกลึงกลับบดเบียดเอนเข้าหากายใหญ่ให้แนบชิดมากยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ฝ่ามือที่ไม่ถึงกับนุ่มนิ่มแต่ก็ไม่ได้สากระคายสอดแทรกเข้าไปใต้ร่มผ้าไล้คลึงนวดเฟ้นปลายยอดเล็กๆ ที่มันครัดเครียดนูนเด่นขึ้นมาทันทีเมื่อถูกแตะต้อง เสียงกระอึกกระอักหายไปกลายเป็นเสียงหวานแผ่วพลิ้วหลุดออกมาทีละน้อยอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้สึก อาการต่อต้านขัดขืนก็เริ่มจะลดน้อยถอยลง ริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มเผยแย้มกว้างมากขึ้นพร้อมกับปลายลิ้นเล็กๆ ที่มันเริ่มจะเคลื่อนออกมาตอบรับลิ้นสากระคาย
“แน่ใจหรือสาวน้อย ต้องการให้ฉันหยุดจริงๆ หรือ” ถามเสียงนุ่มแผ่วพลิ้ว ลากไล้มือใหญ่ไปบนเรือนกายกลมกลึงจับต้องอย่างไม่ทะนุถนอม “หืม...”  บดเบียดเรือนกายแข็งแกร่งแนบชิดกับกายนุ่มมากยิ่งขึ้น สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายเข้าไปเลาะเล็มไรฟันสะอาดขาว กวาดไล้กระพุ้งแก้มนุ่ม เกี่ยวกระหวัดพลิกพลิ้วจากปลายถึงโคนลิ้น ฝ่ามือใหญ่นวดคลึงปทุมถันอวบใหญ่เต่งตึงจนมันผลิบานตามติดอุ้งมือ กายใหญ่เริ่มร้อนฉ่าด้วยความปรารถนาที่มันไหลล้นไปตามกระแสเลือด
อืม...กระต่ายน้อย เธอร้อนแรงจริงๆ
ถึงตอนนี้แม้ปากและใจจะพยายามห้ามแต่สมองและร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่งแล้ว บดเบียดกายนุ่มนิ่มจนถ้าหากสามารถแทรกเข้าไปในกายใหญ่ได้ก็คงจะดี หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากทรวง ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมลมหายใจที่มันติดๆ ขัดเหมือนกับกำลังรอคอย
“ว่าไงละสาวน้อย ให้ฉันหยุดจริงๆ หรือ” ฝ่ามือร้อนผ่าวเคลื่อนไหวลูบไล้ไล่ลงไปตามลำตัวกลมกลึงผ่านหน้าท้องแบนราบเรียบ คลึงเคล้นหนักหน่วงสลับแผ่วเบาก่อนตวัดไล่ไปตามสีข้าง ตวัดย้อนกลับไปลูบไล้แผ่นหลังเนียนนุ่มเคลื่อนลงมาขยำนวดบั้นท้ายกลมกลึง ปลายนิ้วร้อนผ่าวเหมือนกับถ่านไฟค่อยๆ เคลื่อนไปตามปลีน่องกลมกลึงนุ่มเนียนคลึงเคล้นใกล้ชิดกับดอกไม้กลีบบาง
ชายหนุ่มถอนริมฝีปากเพราะรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าตัวอ่อนระทวยกับมนตร์ตราพิศวาสที่เขาร่ายใส่จนไม่อาจหาญกล้าตบหน้าและขัดขืนเขาได้อีกแล้ว ปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวไล้ลากบนพวงแก้มนุ่มแผ่วเบา หึ...ขนาดกับคนที่ไม่รู้จักเธอยังร้อนได้ขนาดนี้เลยหรือเวฬุกา
ประกายในดวงตาคมกริบเข้มจัดจ้านขึ้น ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาแทบจะแน่ใจเลยว่าคงจะไม่หลงเหลือความสาวสดไว้ให้ชิมแล้ว แต่กับเวฬุกาที่มันยังมี เพราะหญิงสาวถูกคุมเข้มด้วยพ่อและคู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อ เลยกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ทำตามความต้องการส่วนลึกของตัวเองไม่ได้ แต่เดี๋ยวเข้าช่วยเอง เชื่อเถอะว่าเธอจะต้องชอบ พอใจและจะต้องขอบใจเขา
ริมฝีปากหนาขบกับเคลื่อนไปทั่ววงหน้านวลนุ่มหอมกรุ่นตอนนี้ดวงตากลมโตปิดลงกับใบหน้างามแดงปลั่งแหงนหายไปด้านหลัง ปลายลิ้นร้อนผ่าวตวัดไล้ใบหูนุ่มสลับสอดแทรกเข้าไปกระเซ้าเย้าแหย่ช่องหูเล็ก เส้นผมที่ผูกมัดตกแต่งไว้อย่างมีศิลป์หลุดลุ่ยลงมาคลอเคลียลำคอระหงให้จอห์นสันร้อนผ่าวไปทั้งตัว
“รู้ไหมสาวน้อย ฉันเสียดายมากที่นี่มันเป็นร้านอาหาร ถ้าเป็นที่อื่นนะ ฉันคงจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอออก แล้วเราสองคนก็คงจะ...” ชายหนุ่มจับเอามือเล็กมาวางทาบบนร่างกายที่มันขยายตัวอวดความใหญ่อลังการให้อีกฝ่ายที่ตอนนี้หลงใหลในเพลิงเสน่หาที่เขามอบให้ จนถ้าหากแม้ว่าเขาจะกระชากกางเกงตัวจิ๋วที่เธอสวมใส่อยู่โยนทิ้งไปแล้วกดฝังความแข็งแกร่งในช่องทางร้อนระอุเธอก็คงจะไม่ขัดขืน แต่...ที่ทางมันไม่อำนวยให้เขาทำแบบนั้นนะซิ คงจะทำได้เพียงแค่...
ริมฝีปากหนาร้อนขบเคลื่อนกัดทึ้งใบหูนุ่ม “พาเธอไปทัวร์สวรรค์เรียบร้อยแล้วละ แต่เมื่อมันทำไม่ได้ ก็ขอฉัน...” ปลายนิ้วยาวร้อนค่อยๆ เคลื่อนไปทีละนิดแต่หนักหน่วงและเร้าใจจากบั้นท้ายกลมกลึงเรื่อยไปบนผิวเนื้อเนียนนุ่มคืบคลานตามปลีน่องกลมกลึงเรื่อยไปจนถึงต้นขาด้านใน
แม้เวฬุกาจะพยายามบอกว่าไม่...แต่ใจกลับรอคอย อย่างไม่รู้ตัวสองมือเล็กยกขึ้นโอบรัดรอบกายใหญ่ จิกทึ้งปลายเล็บแหลมคมบนต้นคอแกร่งสลับสอดแทรกเข้าไปพัวพันเส้นผมหนานุ่ม หน้าท้องแบนราบเรียบขมวดไหวเหมือนกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าหาฝั่ง เมื่อเพลิงไฟร้อนผ่าวมาทาบบนกลีบดอกไม้แรกแย้มไม่ผลิบานเสียงหวานๆ และแหบพร่าถึงกับหลุดออกมาจากลีบปากอวบอิ่มสีแดงสดโดยที่เจ้าตัวไม่สามารถจะสะกดกลั้นห้ามเอาไว้ได้
“คุณ...ยะ...อย่า...” ปากบอกว่าอย่าแต่กายกลับบดเบียดเข้าหา เนื้อตัวมันสั่นสะท้านวาบหวิวเหมือนกับต้นสนที่ถูกกระแสลมพายุพัดจนไหวเอนลู่ไปตามกระแส แข้งขามันก็สั่นและอ่อนระทวยโชคดีว่าแขนเรียวยาวโอบรัดรอบกายใหญ่ให้เป็นหลังพึ่งพิง
“หึหึ...อย่าช้าใช่ไหมสาวน้อย ได้ซิ” ปลายลิ้นสากระคายตวัดไล้เลียใบหูซอกซอนไปใจกลางช่องเล็กๆ ขบกัดริมฝีปากไปตามลำคอระหงจนผิวเนื้อขาวนวลผ่องเหมือนกับไข่ปอกแดงระเรื่อขึ้น นัยน์ตาสีสนิมคมวาวพร้อมรอยยิ้มมุมปากอย่างพอใจเป็นที่สุด
ปลายนิ้วยาวใหญ่ขยับเพียงนิดทำให้ซิปค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจนชุดที่เวฬุกาสวมใส่อยู่เริ่มเคลื่อนตัวลงให้ฝ่ามือใหญ่ได้คลึงเคล้นบีบนวดกายสาวอวบอิ่มนุ่มไปทุกสัดส่วนอย่างหนักหน่วง พอๆ กับปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวที่เคลื่อนไหวบนกลีบดอกไม้อ่อนเยาว์อย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
ทั้งที่มีเนื้อผ้าบางเบานุ่มนิ่มปกปิดอยู่แต่มันไม่สามารถขวางกั้นปลายนิ้วเพชฌฆาตที่ลากไล้สอดแทรกไปเปิดแยกสองกลีบดอกไม้ที่ยังไม่แรกแย้มผลิบานออกเข้าไปคลึงเคล้นเกสรสวาทให้สาวน้อยใต้ร่างสะท้านไหวด้วยไฟพิศวาสที่อาบล้น หลุดเสียงร้องครวญครางหวานแผ่วพลิ้วดังมาจากกลีบปากอวบอิ่มเห่อบวมแดงเพราะแรงจูบอันหนักหน่วงและเอาแต่ใจ
“อยากให้ฉันทำอย่างนี้ไหมเวฬุกา...กระตายน้อยของฉัน”
****** แค่โรมานส์นะคะ ตรงไหนควรตัด บอกด้วยเด้อ  

2 ความคิดเห็น:

  1. อิอิ..แวะมาให้กำลังใจ แซ่บเวอร์ค่ะ ..คุณขา...

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ22 กรกฎาคม 2555 เวลา 18:11

    เรื่องนี้ออกเป็นเล่มยังค่ะ

    ตอบลบ